องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกร่วมกับองค์กรภาคี เครือข่าย ร่วมช่วยเหลือหมีสามตัวสุดท้ายจากเมือง Lang Son ประเทศเวียดนาม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

หมีสายพันธุ์เอเชียจำนวนสามตัวได้รับการช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานจากฟาร์มดีหมีที่เมือง Lang Son ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จากการแสวงหาประโยชน์โดยการนำหมีมากักขังเพื่อรีดเอาน้ำดี เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เลวร้ายที่สุดของการทรมานสัตว์ในโลกปัจจุบันของเรา

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกร่วมกับองค์กรภาคี	เครือข่าย ร่วมช่วยเหลือหมีสามตัวสุดท้ายจากเมือง Lang Son ประเทศเวียดนาม

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก และองค์กรภาคี Education for Nature Vietnam (ENV) และ Animal Asia Foundation ร่วมกับหน่วยงานราชการในท้องถิ่นในภารกิจเข้าให้การช่วยเหลือ เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันว่าหมีทั้งสามตัวจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในศูนย์อนุรักษ์ ซึ่งดำเนินการโดย Animal Asia Foundation ในเมือง Vinh Phuc ซึ่งตั้งอยู่ประมาณ 60 กม. ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงฮานอย องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกร่วมกับองค์กรภาคี	เครือข่าย ร่วมช่วยเหลือหมีสามตัวสุดท้ายจากเมือง Lang Son ประเทศเวียดนาม

หมีทั้งสามตัวนี้ถูกค้นพบระหว่างการเข้าพื้นที่เพื่อฝังไมโครชิฟทื่เมือง Lang Son เมื่อปี 2019

สู่อิสระภาพ

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกได้ร่วมมือกับหน่วยงานราชการของประเทศเวียดนามในการขึ้นทะเบียนและฝังไมโครชิพให้กับหมีทุกตัวที่อยู่ในฟาร์มทั่วประเทศ และเฝ้าติดตามหมีเหล่านี้โดยการเข้าตรวจสอบ เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีหมีตัวใหม่ถูกนำมากักขังเพื่อแสวงหาประโยชน์จากอุตสาหกรรมดีหมี และหากมีหมีถูกพบว่าไม่มีเอกสารขึ้นทะเบียนหรือไมโครชิพ จะถูกยึดและนำส่งให้กับศูนย์พิทักษ์สัตว์ของทางราชการ หรือศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าของหน่วยงานเอกชน

หมีทั้งสามตัวนี้ถูกตรวจพบครั้งแรกในภารกิจตรวจสอบไมโครชิพในเดือนพฤศจิกายน 2019 หมีเพศเมียหนึ่งตัวถูกพบว่ามีการครอบครองโดยผิดกฎหมายเนื่องจากไม่มีไมโครชิพ หน่วยงานราชการจึงมีคำสั่งให้ตรวจยึด หลังจากที่ได้รับการเกลี้ยกล่อมโดยทีมตรวจสอบ เจ้าของหมีจึงเลือกที่จะส่งมอบหมีที่เหลืออีกสองตัวให้กับศูนย์อนุรักษ์โดยความสมัครใจ

หมีเหล่านี้ถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ กรงเหล็กคับแคบที่แทบไม่มีแสงจากธรรมชาติ กรงขังมีขนาดกว้างเพียง 1.5 เมตร และสูง 1.8 เมตร

การช่วยเหลือ

การเข้าช่วยเหลือได้ดำเนินการในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน หมีทั้งสามถูกนำตัวขึ้นรถบรรทุกเพื่อออกเดินทางไปยังศูนย์อนุรักษ์ การเดินทางเป็นไปด้วยความราบรื่น และหมีกำลังปรับตัวเข้าสู่สภาพแวดล้อมใหม่ ที่พวกมันจะสามารถใช้ชีวิตได้โดยปราศจากความเจ็บปวดและการทรมาน

ข่าวดีนี้มาถึงหลังจากการช่วยเหลือหมีชื่อ Cam จากฟาร์มดีหมีในเมือง Hai Phong ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ยุติฟาร์มดีหมี

เป็นเวลากว่า 15 ปีแล้วที่องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก และภาคีภาคประชาสังคม ได้ร่วมกับรัฐบาลเวียดนามในการต่อสู้เพื่อยุติความโหดร้ายในการทำฟาร์มดีหมี และปกป้องประชากรหมีที่ยังคงเหลืออยู่ในธรรมชาติอีกไม่มากนัก ความพยายามที่ผ่านมาได้ส่งผลให้จำนวนหมีในฟาร์มลดลงกว่า 90% จากที่เคยบันทึกไว้ได้ประมาณ 4,300 ตัวในปี 2005 เหลือเพียง 346 ตัวในปัจจุบัน

Maya Pastakia, ผู้จัดการแคมเปญ สัตว์ป่า ไม่ใช่ยา จากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า:
"ฟาร์มดีหมีเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศเวียดนาม แต่มันก็ไม่สามารถหยุดยั้งความทุกข์ของหมีที่เหลืออยู่อีกหลายร้อยตัวที่ยังคงถูกทรมานกักขังเพื่อรีดเอาน้ำดี

"หมีเหล่านี้ถูกขังอยู่ในกรงแคบๆ ที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากไปกว่าตู้โทรศัพท์ เป็นเวลานานถึง 21 ปี แม้ว่ามันจะเป็น 'ผู้โชคดี' ที่ได้หลุดพ้นจากความโหดร้าย แต่บาดแผลรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจจะยังคงอยู่ตราบชั่วชีวิตของพวกมัน

"รัฐบาลเวียดนามควรปิดช่องว่างทางกฎหมายเพื่อยุติการทำฟาร์มดีหมีที่โหดร้ายให้หมดไปโดยเด็ดขาด"

Ha Bui รองผู้อำนวยการของ Education for Nature Vietnam กล่าวว่า:
"เมือง Lang Son ได้เป็นเมืองลำดับที่ 40 ของเวียดนามที่ปราศจากฟาร์มดีหมี และยังเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะแสดงให้เห็นว่าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายควรตัดสินใจดำเนินการด้วยความเด็ดขาดเพื่อยุติการทำฟาร์มดีหมีในพื้นที่รับผิดชอบของตน ENV ขอสนับสนุนอีก 23 เมืองที่ยังคงมีการทำฟาร์มดีหมี ให้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อยุติอุตสาหกรรมที่ล้าหลังนี้ และที่สำคัญ ENV ขอเรียกร้องไปยังกรุงฮานอย ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม และยังถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการทำฟาร์มดีหมีของประเทศ ให้วางตัวเป็นแบบอย่างที่มีความจำเป็น เพื่อลบล้างการทำฟาร์มดีหมีในประเทศเวียดนามให้หมดสิ้นไปอย่างถาวร"

เครดิตภาพถ่าย: World Animal Protection / Nguyen Van Tuyen


ข่าวองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก+องค์กรพิทักษ์สัตว์วันนี้

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ปฏิวัติการเลี้ยงไก่ไทยอย่างยั่งยืน สร้าง จ.สุรินทร์ ให้เป็นพื้นที่นำร่องเลี้ยงไก่โคราชแบบสวัสดิภาพสูง

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection Thailand) ประกาศความก้าวหน้าของโครงการ "ฟาร์มแชมเปี้ยน" ปีที่ 2 ซึ่งกำลังเปลี่ยนผ่านจากการทดลองนำร่องในปี 2567 สู่การขยายผลในระดับชุมชนอย่างจริงจัง โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงจากระบบฟาร์มปิดแบบดั้งเดิมสู่ฟาร์มในปี 2568 นี้ หลังความสำเร็จจากฟาร์มรุ่นแรกได้พิสูจน์แล้วว่าโมเดลการเลี้ยงไก่แบบที่ใส่ใจสวัสดิภาพสัตว์สามารถทำได้จริงในบริบทไทย เพื่อปฏิวัติระบบการเลี้ยงไก่ของไทยด้วยโมเดลที่นอกจากจะให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ ยังตอบโจทย์ทั้งในด้านความเท่า

Tripadvisor แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์... 4 ปางช้างไทยชนะใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก คว้ารางวัล Travelers' Choice Awards Best of the Best 2024 — Tripadvisor แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำของโลก ได...

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก World Animal Pr... ผลศึกษาชี้ชัด ยุติฟาร์มอุตสาหกรรมลดปัญหาโลกร้อน — องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก World Animal Protection เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุด พบแนวโน้มการบริโภคเนื้อหมูและ...

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย (Worl... องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก มอบวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 7,000 เข็ม ให้กรมปศุสัตว์ — องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย (World Animal Protection) นำโดย น...