กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) พัฒนาวัคซีนและศึกษาภูมิคุ้มกันของสุกรต่อวัคซีนต้นแบบที่สามารถใช้ป้องกันทั้งไวรัสนิปาห์ (Nipah virus) และไวรัสพีอาร์อาร์เอส (PRRS virus) ได้ในเข็มเดียว เพื่อลดความสูญเสียจากโรคระบาดร้ายแรงในปศุสัตว์ที่สามารถแพร่สู่คนได้ พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบป้องกันและควบคุมโรคระบาดต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อุตสาหกรรมปศุสัตว์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากโรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ (Nipah) ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ (emerging disease) ซึ่งสามารถแพร่ระบาดติดต่อจากสัตว์มาสู่คนได้ โดยมีแหล่งรังโรคคือ ค้างคาวผลไม้ แต่สัตว์ที่สามารถติดเชื้อไวรัสนิปาห์ได้ คือ สุกร สุนัข แพะ แมว ม้า และแกะ ซึ่งถือเป็นแหล่งเพาะโรค และสามารถติดต่อมาสู่คนได้จากการสัมผัส หรือรับประทานวัตถุที่ปนเปื้อน ปัสสาวะ อุจจาระ หรือน้ำลาย ของสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะสุกรซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถติดเชื้อไวรัสนิปาห์ได้ง่ายที่สุด เป็นสาเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรงในสุกร และการติดเชื้อไข้สมองอักเสบในมนุษย์ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยมีรายงานการแพร่ระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดในประเทศมาเลเซียและประเทศสิงคโปร์เมื่อปี พ.ศ. 2541-2542 โดยพบผู้ป่วยเกือบ 300 ราย และเสียชีวิตมากกว่า 100 ราย นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของมาเลเซียเป็นอย่างมาก โดยทางการมาเลเซียมีการสั่งทำลายสุกรกว่า 1.2 ล้านตัว หรือประมาณร้อยละ 50 ของสุกรทั่วประเทศ
ดร. นันท์ชญา วรรณเสน นักวิจัยทีมวิจัยไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยี กลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ไบโอเทค สวทช. ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันโรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ยังไม่มีวัคซีนเพื่อป้องกันทั้งสำหรับปศุสัตว์และมนุษย์ ในขณะที่วัคซีน PRRS (Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome) มีใช้อย่างแพร่หลายและมีความปลอดภัยในการนำไปใช้ในสุกร ทางทีมวิจัยจึงมีความสนใจที่จะนำวัคซีน PRRS ไปพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถนำส่งโปรตีนแอนติเจนของไวรัสนิปาห์ เพื่อใช้เป็นวัคซีนรวมที่สามารถป้องกันได้ทั้งไวรัสนิปาห์ และไวรัส PRRS ในเข็มเดียว (bivalent vaccine)
ดร. นันท์ชญา ให้ข้อมูลต่อว่า โครงการวิจัยนี้คณะวิจัยไบโอเทค ได้ทำงานร่วมกับ Prof. Simon Graham และ Dr. Rebecca McLean จาก The Pirbright Institute (TPI) สหราชอาณาจักร ในการศึกษาภูมิคุ้มกันของสุกรต่อวัคซีนต้นแบบที่พัฒนาขึ้นนี้ โดยทีมวิจัยไบโอเทคได้ใช้ความเชี่ยวชาญในการตัดต่อพันธุกรรมไวรัส PRRS และได้วางแผนร่วมกับทีมวิจัยจาก TPI ในการทดสอบคุณสมบัติของไวรัส PRRS เพื่อใช้เป็นเวกเตอร์ไวรัส (viral vector) ที่สามารถนำส่งโปรตีนของไวรัสนิปาห์ เพื่อใช้เป็นวัคซีนรวมสำหรับป้องกันโรคทั้ง 2 โรคได้
โครงการวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก The Transnational Access Activities (TNA) : Veterinary Biocontained Facility Network (VetBioNet) เป็นมูลค่า 61,350 ปอนด์ (2,504,000 บาท) โดยสนับสนุนการทดสอบวัคซีนในสุกรในห้องปฏิบัติการวิจัย high containment laboratory ซึ่งใช้สำหรับการวิจัยและทดลองเกี่ยวกับเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคและสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมที่ Animal and Plant Health Agency, UK และการเข้าถึงเทคโนโลยีและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
วว. จับมือ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิต/ปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับภาคเหนือ สู่ผู้ใช้งานจริง
วว. ร่วมมือ หจก. อมอร์4569 บริการวิจัย พัฒนาเครื่องสำอางจากน้ำมันหอมระเหยไพล ต่อยอดสมุนไพรไทยสู่การแข่งขันเชิงพาณิชย์
วว. รับรางวัล Thailand Talent Award 2025 : Outstanding Research Organization พร้อมร่วมโชว์ผลงานวิชาการ /นิทรรศการ เสริมแกร่ง - ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม SMEs
วว. พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์เปปไทด์ที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพระดับกึ่งอุตสาหกรรม
สวทช. ชูศักยภาพด้านการทดสอบความปลอดภัยระดับโลก "TBES-NSTDA" ผ่านการรับรอง OECD GLP ยกระดับระบบโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์ของไทย
วว. โชว์ผลงานเพิ่มศักยภาพการผลิตและปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ณ งานเทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือ ครั้งที่ 14 จังหวัดเลย
สวทช. ผนึกกำลัง อบจ.เชียงราย บูรณาการ "คลินิกน้ำ-Traffy Fondue" สร้าง "สายสืบน้ำ" แบบเจอ แจ้ง จบ
เปิดฉากการแข่งขัน gSIC 2025! เวทีระดับนานาชาติเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงวัยด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในงาน i-CREATe 2025