วว. วิจัยพัฒนาข้าวอุดมซีลีเนียม ทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  (อว.)  โดย  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย  (วว.)  ประสบผลสำเร็จวิจัยพัฒนา "ข้าวอุดมซีลีเนียม" ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย  เผยของเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต "ฟางข้าว" สามารถนำไปต่อยอดเพาะเห็ดเศรษฐกิจให้ผลผลิตสูง  ระบุเป็นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพที่ปลอดภัย ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย ภายใต้การดำเนินโครงการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลางตะวันตกด้วย BCG โมเดล    

วว. วิจัยพัฒนาข้าวอุดมซีลีเนียม ทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน เป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้พร้อมต่อสู้กับโรคภัยที่อยู่รอบตัว โดยสิ่งที่จะช่วยให้รอดพ้นจากการเจ็บไข้ คือการรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ รวมทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคของตัวเองให้ทำงานได้ดี เพื่อปกป้องตัวเราจากการติดเชื้อโรคต่างๆ วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ ตระหนักและเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ทำการสำรวจ "ข้าว" ซึ่งเป็นอาหารหลักในชีวิตประจำวันของคนไทย โดยพบว่า ข้าวหอมมะลิ (ข้าวนาปี) มีความสามารถในการสะสมซีลีเนียมมากกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ (ข้าวนาปรัง) โดยซีลีเนียมนั้นเป็นแร่ธาตุที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับวิตามินซี วิตามินอี หรือวิตามินเอ ทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งร่างกายต้องการซีลีเนียมทุกวันในปริมาณน้อยๆ แต่ขาดไม่ได้ หากขาดจะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น วว. วิจัยพัฒนาข้าวอุดมซีลีเนียม ทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

นอกจากนี้  วว. ยังศึกษาพบว่า ข้าวหอมมะลิที่ปลูกในพื้นที่ภาคกลาง มีปริมาณซีลีเนียมเป็นองค์ประกอบเพียง 0.5-3.8 ไมโครกรัม/100 กรัม และข้าวพันธุ์อื่นๆ พบมีซีลีเนียมในเมล็ดน้อยกว่า 2.5 ไมโครกรัม/100 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการ โดยความต้องการซีลีเนียมต่อวันจะแตกต่างกันออกไปตามช่วงวัย ดังนี้  1.วัยเด็ก  อายุ 1-3 ปี  ต้องการ  20-90 ไมโครกรัม/วัน  อายุ 4-8 ปี  ต้องการ 30-150 ไมโครกรัม/วัน  2.เด็กโต  อายุ 9-12 ปี ต้องการ  40-280 ไมโครกรัม/วัน 3.วัยรุ่น ผู้ใหญ่   อายุ 13-60 ปี  ต้องการ  55-400 ไมโครกรัม/วัน และ 4.ผู้สูงอายุ  อายุ 61 ปีขึ้นไป ต้องการ 55-400 ไมโครกรัม/วัน

จากผลการศึกษานี้ วว. จึงมีแนวคิดเสริมแร่ธาตุซีลีเนียมในข้าว  ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการผลิตอาหารเชิงหน้าที่ด้วยการเพิ่มคุณค่าอาหารในข้าวผ่านทางการให้ปุ๋ย ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือขั้นสูง เกษตรกรสามารถผลิตได้เอง เป็นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้ง่ายแก่ผู้บริโภค  ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว. จึงร่วมกับเกษตรกรผู้ผลิตข้าวปลอดภัยบ้านวังบัว จังหวัดนครนายก  ทดลองผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 อุดมซีลีเนียม ได้ข้าวที่มีซีลีเนียม 11 ไมโครกรัม/100 กรัม และร่วมกับเกษตรกร อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ทดลองผลิตข้าว กข. 43 อุดมซีลีเนียม ได้ข้าวที่มีซีลีเนียม 3 ไมโครกรัม/100 กรัม

"...ปัจจุบันภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลางตะวันตกด้วย BCG โมเดล วว. ได้นำองค์ความรู้การผลิตข้าวอุดมซีลีเนียม ไปส่งเสริมให้กับเกษตรกรผู้สนใจในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 4 ราย นำโดย นายสวัสดิ์ ชีพนุรัตน์ ประธานศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อำเภอเมืองสุพรรณบุรี โดยรอบแรกสามารถผลิตข้าวหอมมะลิ 105 ที่มีซีลีเนียม 3.5 ไมโครกรัม/100 กรัม ได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองผลิตรอบที่ 2 โดยใช้ข้าวพันธุ์ที่เกษตรกรแต่ละรายให้ความสนใจ นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยนายสุเทพ ภู่ระยับ ให้ความสนใจทดลองผลิตข้าวอุดมซีลีเนียมบนพื้นที่โครงการโคกหนองนา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนเริ่มกระบวนการผลิต..." ผู้ว่าการ วว. กล่าว

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา   เอี่ยมโชติชวลิต   กล่าวเพิ่มเติมถึงการผลิตข้าวอุดมซีลีเนียมว่า  เกษตรกรสามารถขอรับคำแนะนำจากนักวิจัย วว. เพื่อประเมินปริมาณซีลีเนียมภายในดิน โดยเปรียบเทียบกับแผนที่แสดงการแจกกระจายซีลีเนียมในดินของประเทศไทย จากนั้น วว. จะปรับสูตรหรือปริมาณปุ๋ยเสริมธาตุซีลีเนียมให้เหมาะสม เพื่อส่งมอบให้เกษตรกรนำไปทดลองใช้สำหรับการผลิตข้าวในพื้นที่นั้นๆ จากนั้นเมื่อลงมือปลูกข้าวและได้ผลผลิตข้าวแล้วจะมีการตรวจวิเคราะห์อีกครั้งเพื่อความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์  นอกจากนี้ของเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตข้าวอุดมซีลีเนียม  คือ ฟางข้าว   ซึ่งยังมีปริมาณซีลีเนียมสูง สามารถนำไปต่อยอดเพาะเห็ดเศรษฐกิจ เช่น เห็ดนางรมเทา และเห็ดนางรมฮังการี  โดยฟางข้าวที่มีซีลีเนียมสูงจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเห็ด ทำให้จำนวนดอกต่อช่อเพิ่มขึ้น ได้ผลผลิตดอกเห็ดที่มีคุณภาพในปริมาณที่มากขึ้น และที่สำคัญมีซีลีเนียมสูงขึ้นด้วย 

"...การผลิตข้าวและเห็ดอุดมด้วยซีลีเนียมนั้น ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิตที่ไม่ผ่านกระบวนการ มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 แต่สร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ดังนั้นในสถานการณ์ที่เราได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  ผลงานวิจัยและพัฒนา ข้าวอุดมซีลีเนียม จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทำเงินที่ วว. พร้อมสนับสนุนให้มีการนำไปใช้ให้แพร่หลายและก่อเกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจในครัวเรือนและประเทศชาติต่อไป..." ผู้ว่าการ วว. กล่าวสรุป

อนึ่ง  "ซีลีเนียม"  เป็นแร่ธาตุอีกชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เองต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น ซีลีเนียมพบได้น้อยมากในพืชทั่วไป ปริมาณซีลีเนียมในพืชจะแปรผันตามปริมาณซีลีเนียมที่มีอยู่ในดินที่เพาะปลูก โดยพืชจะดูดซึมซีลีเนียมในดินซึ่งเป็นรูปแบบอนินทรีย์และจะถูกแปลงเป็นซีลีเนียมอินทรีย์ในพืช โดยสารประกอบซีลีเนียมอินทรีย์ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่า 

ซีลีเนียมเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์หลายชนิดในรูปของซีลีโนโปรตีน โดยหนึ่งในเอนไซม์ที่สำคัญคือ กลูตาไทโอน เปอร์ออกซิเดส (Glutathione peroxidase)  ทำหน้าที่กำจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย ป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย นอกจากนี้ยังมีบทบาทสนับสนุนการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้เป็นปกติ โดยทำงานร่วมกับวิตามินอี ซี และเอ มีบทบาทต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การผลิตเซลล์อสุจิ และบำรุงรักษาสุขภาพเส้นผมและเล็บ  อาหารที่มีซีลีเนียมสูง เช่น ปลาทู ปลาดุก เนื้อปู  หอยแมลงภู่ ไข่ไก่ กุ้งกุลาดำ และชะอม เป็นต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับคำแนะนำปรึกษา ติดต่อได้ที่ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว.  โทร. 0 2577 9000  โทรสาร 0  2577 9009  อีเมล  [email protected]


ข่าวสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย+วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวันนี้

วว. ร่วมหารือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ด้านบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ในการประชุมวิชาการนานาชาติ 42nd IASP World Conference 2025 กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยผู้บริหารอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ผู้บริหารระดับสูงของสถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานวิจัยต่างๆ เข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติ 42nd IASP World Conference 2025 ในหัวข้อ "Elevating excellence : Innovation spaces driving high-quality development" ระหว่างวันที่ 16 18 กันยายน 2568 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน การประชุมวิชาการนานาชาติดังกล่าว จัดโดย

ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาบ... วว. ร่วมกับ JILM ประเทศญี่ปุ่น เสริมแกร่งผู้ประกอบการด้านอลูมิเนียมอัลลอยมาตรฐานสากล — ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาบริการอุตสาหกรรม สถาบันวิจั...

นางศิรินันท์ ทับทิมเทศ นักบริหารพิเศษ ในฐ... วว. โชว์ศักยภาพงานบริการ วทน. @ Thailand LAB INTERNATIONAL 2025 — นางศิรินันท์ ทับทิมเทศ นักบริหารพิเศษ ในฐานะผู้แทน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี...

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน... วว. จับมือ ปตท. พัฒนาศักยภาพการบริหารองค์กร ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน — กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ผศ.ดร.วีรชัย อาจหา...

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัย... วว. ร่วมเป็นเกียรติในการเปิดเวทีนักประดิษฐ์ 248 ผลงาน จัดโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ — ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห...