สกสว. จับมือ 7 พีเอ็มยู หน่วยงาน ววน. ชูผลงานเด่น รมว.อว. ชูนโยบาย ไทยพ้นกับดักความยากจนได้ด้วยวิจัย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ผ่านมา สกสว. สนับสนุนระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยทำหน้าที่ในการจัดทำแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อนำเสนอต่อสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ตลอดจนจัดสรรทุนงบประมาณการวิจัยกระจายไปสู่หน่วยบริหารและจัดการทุน (พีเอ็มยู) ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศและสังคมไทย ในวันนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จึงจัดงาน "แถลงผลงานวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม" เพื่อแถลงผลงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุน (พีเอ็มยู) ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกองทุน ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) โดยเป็นการแถลงผลคัดเลือกโครงการที่มีผลกระทบต่อประเทศมาหน่วยงานละ 1 ผลงาน รวม 7 ผลงาน ภายใต้แนวคิด "การขจัดปัญหาความยากจน บีซีจีโมเดล และโควิด-19" โดยในปี 2563 - 2564 กองทุน ววน. ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการวิจัยเป็นเงินจำนวน 12,554 ล้านบาท และ 19,916 ล้านบาท ตามลำดับ

สกสว. จับมือ 7 พีเอ็มยู หน่วยงาน ววน. ชูผลงานเด่น รมว.อว. ชูนโยบาย ไทยพ้นกับดักความยากจนได้ด้วยวิจัย

ด้าน ศาสตราจารย์ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ  ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) เปิดเผยข้อมูลด้าน ทิศทางการลงทุนด้าน ววน. ของประเทศ ว่า นโยบายการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  คือใช้ทิศทางที่ตกลงร่วมกัน ต้องลงทุนตามทิศทางที่จะตอบโจทย์ของประเทศ ถ้าเราเน้นด้านเศรษฐกิจ ต้องให้ภาคการผลิตหรือภาคอุตสาหกรรมสามารถนำผลงานวิจัยไปต่อยอดจนขายได้จริง   แหล่งผลิตสินค้าและบริการของประเทศไทยเป็นฐานการผลิตของโลก ทั้งรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เกือบทั้งหมดต้องอาศัยเทคโนโลยีและความรู้จากต่างประเทศ เราต้องเปลี่ยนแปลงเป็นแหล่งผลิตที่ใช้ความรู้ของไทยมากขึ้น สร้างนวัตกรรม  สร้างการวิจัยที่ตอบโจทย์ตลอดห่วงโซ่การผลิตให้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ เราเป็นประเทศเกษตรกรรม มีต้นทุนที่ดีด้านวัตถุดิบ  อาจมาเชื่อมต่อกับการวิจัยที่สนับสนุนการดูแลสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางการลดขยะให้เหลือศูนย์  (zero waste)  และ การพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (บีซีจี) ด้วยเหตุนี้ กสว.จึงตัดสินใจมุ่งเน้นเรื่องอาหาร เครื่องมืออุปกรณ์ ชีวภัณฑ์เพื่อสุขภาพและการแพทย์ เนื่องจากเล็งเห็นว่า ประชากรของเราจำนวนมหาศาลที่เป็นกลุ่มเกษตรกรจะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ จะเห็นได้ว่าการพัฒนาเพื่อเป็นฐานเป็นเรื่องสำคัญ  ต้องมีการพัฒนาทั้ง "องค์ความรู้ คน นักวิจัย สถาบันวิจัย และระบบ" ที่จะพัฒนาพวกเรากันเอง กับระบบพัฒนาสินค้าและบริการ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานทั้งหลาย ระบบการสอบเทียบ เทียบวัด ระบบรับรองมาตรฐาน ทั้งหมดนี้ต้องร้อยเรียงเข้าด้วยกัน      สกสว. จับมือ 7 พีเอ็มยู หน่วยงาน ววน. ชูผลงานเด่น รมว.อว. ชูนโยบาย ไทยพ้นกับดักความยากจนได้ด้วยวิจัย

ในขณะที่ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  (กระทรวง อว.)  ในฐานะประธานเปิดงาน กล่าวว่า  ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้มุ่งมั่นที่จะเพิ่มงบประมาณที่เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาของประเทศให้ขึ้นไปเรื่อย ๆ มุ่งมั่นว่าในปี 2030 จะเพิ่มเป็นร้อยละ 2.0 ของจีดีพี เป็นหมุดหมายที่สำคัญประการหนึ่งว่าเราจะขยับตนเองขึ้นไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว  สิ่งที่สำคัญ คือเรื่องการจัดสรรงบประมาณจะต้องบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรมของเรา โดยเอาเงินปริมาณหมื่นกว่าล้านบาท เป็นเงินลงทุนผลิตผลงาน เพื่อให้ภาคเอกชนเกิดการลงทุนที่เป้าหมายระดับแสนล้านบาท ข้อสำคัญคือเราจะต้องทำให้ภาคเอกชนเกิดความไว้วางใจ ภาควิจัยต้องมีสร้างความรู้ที่ไกลออกไปกว่างานวิจัยพื้นฐาน ต้องออกจากห้องทดลอง ห้องวิจัย ออกจากหน่วยงาน ไปรับฟัง แลกเปลี่ยนกับภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของเงินลงทุนแสนกว่าล้านบาท  เพื่อให้ทราบว่าแท้จริงแล้วภาคเอกชนต้องการอะไร  แล้วจึงปรับให้การลงทุนของภาครัฐสอดคล้องกับภาคเอกชน   

ประการสุดท้ายระบบวิจัย ต้องมีจุดเน้นที่ชัดเจน และต้องสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจกับบรรดานักวิทยาศาสตร์ว่า งานวิจัยควรจะเป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลื่อมล้ำ ประเทศเราต้องออกจากกับดักของความยากจน ออกจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง หมายความว่าจะต้องทำให้วิทยาศาสตร์ของเราและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เกิดผลิตภัณฑ์ ผลิตผลและบริการที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้ โดยผมมีความเชื่อมั่นว่านักวิจัยไทยมีความสามารถสูง และเป็นพลังสำคัญที่นำพาประเทศไปถึงเป้าหมายนี้ได้


ข่าวปัทมาวดี โพชนุกูล+วิจัยและนวัตกรรมวันนี้

เปิดมุมมอง "ข้าวไทย" ต้องปรับอย่างไร?...เมื่อโลกเปลี่ยน ยุทธศาสตร์ใหม่ควรมุ่งสร้างคุณค่า มากกว่าเน้นแข่งขันเพื่อเป็นเบอร์หนึ่ง

เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสิ่งแวดล้อม กฎระเบียบและมาตรฐานต่าง ๆ "ข้าวไทย" ที่เคยอุ้มชูเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน ต้องปรับตัวรับมืออย่างไร? งาน Thailand Rice Fest 2024 เปิดเวทีเสวนา "นโยบายข้าวไทย กับเมื่อโลกเปลี่ยนข้าวต้องปรับ" สะท้อนมุมมองการสร้างคุณค่าให้ข้าวไทย เพื่อคว้าโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน โดย รศ.ดร.ศิวเรศ อารีกิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และ ดร

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี (คนที่ 5 จากซ้าย) ... "อว. - เอ็นไอเอ - TED Fund" เพิ่มกลไกการเงินหนุนธุรกิจนวัตกรรม — นางสาวศุภมาส อิศรภักดี (คนที่ 5 จากซ้าย) รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ ว...

ผู้อำนวยการ สกสว. นำคณะผู้บริหาร เยี่ยมชม... สกสว. ร่วม "กลาโหม" ขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมป้องกันประเทศ — ผู้อำนวยการ สกสว. นำคณะผู้บริหาร เยี่ยมชมผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากกองท...

รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนัก... สกสว.ติดอาวุธให้บุคลากรกรมชลประทาน สานพลังกับทุกภาคส่วน-พร้อมรับมือภัยแล้ง — รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจ...

สกสว. ลงนามความร่วมมือกับ คณะกรรมการวิทยา... สกสว. ประสานความร่วมมือ "STCSM จีน" ยกระดับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี — สกสว. ลงนามความร่วมมือกับ คณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเทศบาลนครเ...

ผอ.สกสว. เสนอแนวคิด "จัดลำดับความสำคัญงาน... ชู วิจัย ยกระดับ "ข้าวไทย" เป็นอุตสาหกรรมมูลค่าสูง ชิงตลาดโลก — ผอ.สกสว. เสนอแนวคิด "จัดลำดับความสำคัญงานวิจัย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทยสู่อุตสาหกรรมมูล...

สกสว.จัดอบรมหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพบุคลาก... สกสว.เปิดหลักสูตรพัฒนาบุคลากรระดับปฏิบัติการ ฟันเฟืองเสริมแกร่งหน่วยรับงบประมาณระบบววน. — สกสว.จัดอบรมหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพบุคลากรระดับปฏิบัติการด้านการ...