ม.มหิดล ร่วมกู้วิกฤติสิ่งแวดล้อมจ.นครปฐม พลิกฟื้นคุณภาพชีวิตชาวชุมชนแม่น้ำท่าจีน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

"แม่น้ำท่าจีน" มีที่ตั้งอยู่ ณ บริเวณตอนกลางของ "ขวานทอง" แผ่นดินไทย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานโดยมีชื่อมาจากที่เคยเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนท่าฉลอมมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ และมีอีกหลายชื่อที่เรียกแตกต่างกันไปตามชื่อของพื้นที่ที่แม่น้ำไหลผ่าน

ม.มหิดล ร่วมกู้วิกฤติสิ่งแวดล้อมจ.นครปฐม พลิกฟื้นคุณภาพชีวิตชาวชุมชนแม่น้ำท่าจีน

"จังหวัดนครปฐม" เป็นจังหวัดหนึ่งที่มี "แม่น้ำท่าจีน" เปรียบเหมือน "สายโลหิต" ของจังหวัด โดยชาวนครปฐมเรียกแม่น้ำท่าจีนที่ไหลผ่านว่า "แม่น้ำนครชัยศรี" ด้วยความเจริญทางเศรษฐกิจ และการเติบโตทางอุตสาหกรรมส่งผลกระทบต่อแม่น้ำท่าจีน ทำให้ทุกวันนี้ต้องตกอยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วงจากปัญหาคุณภาพน้ำที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ม.มหิดล ร่วมกู้วิกฤติสิ่งแวดล้อมจ.นครปฐม พลิกฟื้นคุณภาพชีวิตชาวชุมชนแม่น้ำท่าจีน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงดี โตอิ้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ และอาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่านับเป็นเวลา 2 ทศวรรษแล้วที่ มหาวิทยาลัยมหิดลได้ร่วมกับชุมชนสร้าง "เครือข่ายการวิจัยบูรณาการลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง" ที่เป็นการวิจัยที่ยึดเอาลุ่มน้ำเป็นหน่วยในการวิจัยหรือการวิจัยเชิงพื้นที่ บูรณาการศาสตร์ที่หลากหลาย พัฒนาระบบการวิจัยที่ตอบสนองปัญหาและความต้องการของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมจังหวัดที่แม่น้ำท่าจีนไหลผ่าน รวมทั้งจังหวัดที่อยู่ในลุ่มน้ำแม่กลองซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการ

ซึ่งต่อมาได้มีการต่อยอดขยายผล จนสามารถเปิดพื้นที่สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับชุมชน จนเกิดเครือข่ายที่แน่นแฟ้น อาทิ"ชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีน" และ "เครือข่ายเรารักท่าจีน" ร่วมขับเคลื่อนชุมชนในมิติต่างๆ อีกทั้งทีมงานวิจัยได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนชุมชนในมิติต่างๆ ด้วย

นอกจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงดี โตอิ้ม ได้มีส่วนร่วมในชุดโครงการพัฒนาข้อมูลและระบบสารสนเทศแล้ว ยังได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการพัฒนาศักยภาพระบบการวิจัยให้สามารถตอบสนองปัญหาความต้องการของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้ร่วมเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมและกระบวนการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม ตลอดจนการสื่อสารเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์และยั่งยืนในพื้นที่

นอกจากนี้ ได้ร่วมพัฒนาวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกับชุมชนด้วยศาสตร์แห่งการบูรณาการและนวัตกรรมการจัดการเพื่อนำการเปลี่ยนแปลงสู่คุณภาพชีวิตและความสันติสุขของสังคมต่อไปอีกด้วย

จนเมื่อโลกต้องประสบกับวิกฤติ COVID-19 จนทำให้ทุกสิ่งต้องหยุดชะงัก รวมถึงสภาวะแวดล้อมของชุมชนแม่น้ำท่าจีนต้องได้รับผลกระทบจากการขาดการดูแลที่ต่อเนื่องไปด้วยโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงดี โตอิ้ม ได้ให้มุมมองถึงแนวทางการจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมของชุมชนแม่น้ำท่าจีนอย่างยั่งยืนว่า การพัฒนากลไกที่เชื่อมโยง และผลักดันให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการศึกษา วิเคราะห์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน เพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของชุมชน จะเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งสร้างความยั่งยืนทางด้านการจัดการทรัพยากรน้ำด้วย

นายวิรัช จำปานิล ประธานเครือข่ายส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมนครปฐม และประธานจิตอาสาพุทธมณฑล ผู้ขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้เกษตรครัวเรือนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ที่ชาวชุมชนนครปฐมเรียกขานว่า "ลุงอ๊อดเกษตรครัวเรือน" เป็นแบบอย่างของการทำการเกษตรแบบพอเพียงตามศาสตร์พระราชา จากการทุ่มเทคิดค้นนวัตกรรมเกษตรชุมชนต่างๆเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวชุมชนนครปฐม จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย อาทิ การปลูกพืชในครัวเรือนด้วยวัสดุที่เหลือทิ้ง และการออกแบบระบบการใช้ประโยชน์จากน้ำทิ้งตามครัวเรือนเพื่อการเกษตร ฯลฯ

"ลุงอ๊อด" เป็นแบบอย่างของชาวชุมชนนครปฐมผู้ไม่เคยละเลยในทุกสิ่งรอบตัวซึ่งจะสามารถนำมาแปรเปลี่ยนให้เกิดประโยชน์ ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และประหยัดทรัพยากรของแผ่นดินเกิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่เหลือทิ้งจากการซักผ้า ล้างจานชาม หรือการชำระล้างร่างกาย ฯลฯ แทนที่จะปล่อยไหลทิ้งลงสู่แม่น้ำเพิ่มมลพิษ "ลุงอ๊อด" สามารถต่อท่อ PVC ที่ออกแบบไว้รองรับน้ำทิ้งให้ไหลตามท่อออกมารดโคนต้นไม้ที่ปลูกไว้ภายในบริเวณบ้านได้โดยตรง หรือจะให้น้ำทิ้งได้ผ่านถังพักที่เติมปุ๋ยชีวภาพแล้วค่อยปล่อยลงท่อสู่โคนต้นไม้ก็ย่อมได้ พบว่าทั้งสองวิธีทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตงอกงามออกดอกออกผลจนสามารถเก็บมาบริโภค และแบ่งปันสู่ชุมชนต่อไปได้อีกด้วย

จากการอุทิศตนตอบแทนคุณแผ่นดินเป็นที่ปรึกษาให้กับชุมชน และเผยแพร่นวัตกรรมเกษตรครัวเรือนที่ "ลุงอ๊อด" ได้คิดค้นขึ้นเองและใช้ได้ผลนี้ ยังสามารถขยายโอกาสสู่การสร้างอาชีพสร้างรายได้จากเกษตรครัวเรือนให้กับชุมชนชาวนครปฐมต่อไปได้อีกด้วย

ซึ่งปัญหาเร่งด่วนของชาวชุมชนนครปฐมที่กำลังเผชิญอย่างหนักในปัจจุบัน มีทั้งเรื่องปัญหามลพิษทางน้ำที่เกิดจากการปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำโดยไม่ได้ผ่านการบำบัดที่เหมาะสมและปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากน้ำที่ชาวชุมชนนครปฐมใช้อยู่ทุกวันนี้ต้องสูบมาไกลจากแม่น้ำแม่กลองทำให้เกิดปัญหาน้ำประปาไหลอ่อน จึงได้มีการระดมแกนนำชุมชนจากทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดนครปฐมมาร่วมขับเคลื่อนภารกิจกู้วิกฤติสิ่งแวดล้อมครั้งสำคัญดังกล่าวด้วย

แม้จะมีข่าวดีแล้วว่า ได้มีการผ่านร่างประชาพิจารณ์ให้ชาวชุมชนนครปฐมจะได้มีน้ำใช้เอง ไม่ต้องสูบไกลจากจังหวัดอื่นโดยภายในปีพ.ศ. 2566 อาจได้มีการติดตั้งโรงสูบและกรองน้ำ ณ บริเวณหน้าวัดสัมปทวน ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนในพื้นที่ตำบลวัดแค อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งในการนี้คาดว่า การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม จะสามารถทำการสูบและกรองน้ำจากแม่น้ำท่าจีนมาใช้ภายในจังหวัดนครปฐม ได้ในปริมาตร  24,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในขณะที่ "ลุงอ๊อด" และแกนนำของชาวชุมชนนครปฐมได้ออกมาร่วมเตือนให้ชาวชุมชนฯ เฝ้าระวังถึงปัญหาคุณภาพน้ำในแม่น้ำท่าจีนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการปล่อยน้ำเสียจากโรงงาน สถานประกอบการกิจกรรมการเกษตรต่างๆ ตลอดจนครัวเรือนที่พักอาศัย ฯลฯ

ในช่วงเวลาประมาณ 1 ปีนับจากนี้ไป จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดสำหรับการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับหากมีการจัดการสาธารณูปโภคครั้งใหญ่ของจังหวัดนครปฐม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่ายในการลดการระบายน้ำเสียสู่แม่น้ำท่าจีน และคูคลองสาขาต่างๆ

ไม่ว่าสถานการณ์โลกจะเปลี่ยนแปลงเพียงใด มหาวิทยาลัยมหิดลยังคงพร้อมเดินหน้าทำหน้าที่ "ปัญญาของแผ่นดิน" ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดล สร้าง "สังคมแห่งภูมิปัญญา" ยืนหยัดเคียงข้างชาวชุมชนนครปฐมตลอดไปโดยหวังให้องค์ความรู้และประสบการณ์ 2 ทศวรรษจากการจัดการสิ่งแวดล้อมร่วมกับ "เครือข่ายการวิจัยบูรณาการลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง" สามารถต่อยอดขยายผลสู่การบรรลุเป้าหมายภารกิจกู้วิกฤติสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐม  พลิกฟื้นคุณภาพชีวิตชาวชุมชนแม่น้ำท่าจีนครั้งสำคัญนี้ต่อไป

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th


ข่าวจังหวัดนครปฐม+สิ่งแวดล้อมวันนี้

เจียไต๋มอบทุน "กองทุนเจียไต๋ - ดร. มนู - ดร. มนัส เจียรวนนท์" แก่นิสิต ม.เกษตร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14

บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย นำโดย คุณทวีสุข เมฆธวัชชัยกุล Chief Commercial Officer เป็นผู้แทนผู้บริหารมอบเงินสนับสนุนแก่ "กองทุนเจียไต๋ ดร. มนู ดร. มนัส เจียรวนนท์" ประจำปี 2568 เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนและการวิจัยของคณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชัยสิทธิ์ ทองจู คณบดีคณะเกษตร กำแพงแสน ให้เกียรติเป็นผู้รับมอบ ณ คณะเกษตร กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม สำหรับปีนี้ เจียไต๋ได้มอบทุนการศึกษาแก่นิสิตระดับปริญญาตรีของคณะเกษตร กำแพงแสน จำนวน 53

กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ส่... กรมโยธาธิการและผังเมือง ส่งเรือกำจัดผักตบชวา ร่วมแก้ปัญหาการระบายน้ำในแม่น้ำท่าจีน — กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ส่งเรือกำจัดผักตบชวาร่วมแก้ปัญ...

คุณจุติมา สัจจะวงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่า... AIRA Group สานต่อโครงการ "ไอร่าเพื่อสังคม สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ปีที่ 11 — คุณจุติมา สัจจะวงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ นำทีมพนัก...

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานคณะกรรมการบริ... ผู้บริหาร SABINA เปิดโรงงานต้อนรับสมาคมนักลงทุนประเทศไทย — นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตแล...

นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัด... ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่ — นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท...