ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Rating: IFS Rating) ของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI ที่ 'A-' (หรืออยู่ในระดับ "แข็งแกร่ง") และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) ของ TLI ที่ 'AAA(tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
การประกาศคงอันดับเครดิตของ TLI สะท้อนถึงโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทในธุรกิจประกันภัยที่ยังแข็งแรง (Favorable Company Profile) รวมทั้งผลประกอบการและระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของบริษัท อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของโครงสร้างอันดับเครดิตของบริษัทได้ถูกลดทอนไปบ้างจากการปรับตัวสูงขึ้นของความเสี่ยงด้านสินทรัพย์และการลงทุน รวมทั้งความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง
ฟิทช์ประเมินโครงสร้างการดำเนินงานของ TLI อยู่ในระดับแข็งแรง (favorable) ซึ่งเป็นผลจากโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง ('favorable' business profile) และการมีบรรษัทภิบาลดี (moderate/favorable) เมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นภายในประเทศไทย TLI มีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่มีขนาดใหญ่ แม้ว่าขนาดของธุรกิจของบริษัทจะอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตในภูมิภาค ทั้งนี้ TLI ยังคงมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 2 ในประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันชีวิตรวม ณ สิ้น ปี 2564 นอกจากนี้บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่มีความหลากหลายและช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง ผ่านเครือข่ายตัวแทนขายประกันชีวิตและธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นฟิทช์จึงให้อันดับคะแนนเครดิตที่ 'a-' ในด้านโครงสร้างการดำเนินงานในธุรกิจประกันภัย (company profile credit factor score) แก่ TLI ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาปัจจัยเครดิตของฟิทช์ (credit factor scoring guideline)
ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของ TLI สะท้อนถึงการที่ฟิทช์เชื่อว่าบริษัทจะสามารถดำรงระดับเงินกองทุนดังกล่าวให้สอดคล้องกับอันดับเครดิตของบริษัท ณ ปัจจุบันได้ ทั้งนี้บริษัทมีระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมาย (Risk-based capital ratio) ที่สูงกว่า 300% มาอย่างต่อเนื่อง และ ฟิทช์คาดว่า Risk-based capital ratio ณ สิ้นปี 2564 ไม่น่าจะมีเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญจากที่ 343% ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140% มาก ทั้งนี้จากการประเมินด้วย Fitch Prism Model (FBM) ของฟิทช์ จากข้อมูลการเงิน ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีฐานะเงินกองทุนอยู่ในระดับ 'แข็งแกร่งมาก' ('Very Strong')
ผลการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจจะมีความท้าทาย บริษัทมีอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย 3 ปีในช่วงปี 2562 - 2564 อยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์ของฟิทช์สำหรับบริษัทประกันชีวิตที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ระดับ 'A' ทั้งนี้รายได้ของบริษัทได้รับแรงหนุนจากการขายผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงนัก และอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นจากกลยุทธ์ทบทวนและปรับราคาเบี้ยประกัน รวมถึงนโยบายการประหยัดและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563
บริษัทมีอัตราส่วนสินทรัพย์เสี่ยงต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 212% ณ สิ้น ปี 2564 (สิ้นปี 2563: 189%) เนื่องจากสัดส่วนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในตราสารหุ้นและตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตสากลต่ำกว่าระดับลงทุน (investment grade) รวมถึงปริมาณการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในระดับที่มีนัยสำคัญซึ่งได้ถูกนำไปคำนวณความเสี่ยงที่ 15% ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ จึงส่งผลให้อัตราส่วนการลงทุนในตราสารดังกล่าวอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าระดับคาดการณ์ของฟิทช์สำหรับบริษัทประกันชีวิตที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ระดับ 'A' ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันอันดับเครดิตของบริษัท อย่างไรก็ตามสัดส่วนการลงทุนของบริษัทส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องดีในมุมมองของฟิทช์ โดยมีตราสารหนี้และเงินฝากอยู่ที่ระดับ 80% ของพอร์ทการลงทุนทั้งหมดของบริษัท ณ สิ้นปี 2564
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (IFS Rating) และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating)
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (IFS Rating)
อัตราความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating)
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Rating: IFS Rating) ของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI ที่ 'A-' (หรืออยู่ในระดับ "แข็งแกร่ง") และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) ของ TLI ที่ 'AAA(tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตของ TLI สะท้อนถึงโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทในธุรกิจประกันภัยที่ยังแข็งแรง (Favorable Company Profile) รวมทั้งระดับเงินกองทุนและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท
ไอแบงก์ จับมือ วิริยะประกันภัย เปิดตัวประกันตะกาฟุล ประกันการเดินทางเพื่อผู้แสวงบุญในการประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์
—
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ...
คปภ. สศก. ประชุมคณะกรรมการความร่วมมือพัฒนาระบบประกันภัยการเกษตร เดินหน้านำเทคโนโลยีมาเสริมภูมิคุ้มกันภาคการเกษตรไทย
—
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายชูฉัตร...
คปภ. ผนึกกำลังจังหวัดปราจีนบุรี ภาคธุรกิจประกันภัย ทีดีอาร์ไอ จัดงาน "ปราจีน ยืนหนึ่งถนนปลอดภัย อุ่นใจด้วยการประกันภัย"
—
คปภ. ผนึกกำลังจังหวัดปราจีนบุรี ...
คปภ. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย เสริมความมั่นคงธุรกิจประกันภัยไทย
—
นายไพบูลย์ เปี่ยมเมตตา ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย เ...
คปภ. จับมือ สมาคมประกันวินาศภัยไทย จัดประชุมชี้แจงและระดมความเห็น แนวทางการยกระดับการกำกับดูแลและการตรวจสอบธุรกิจประกันภัย ERM-ORSA
—
เมื่อวันที่ 27 มีนาค...
คปภ. เปิดตัวระบบ Open Insurance ปลดล็อกอุตสาหกรรมประกันภัยไทยสู่ยุคดิจิทัล สร้างระบบนิเวศในการเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้อย่างมีมาตรฐาน โปร่งใส และปลอดภัย
—
นายชูฉัตร ป...
คปภ. ออกแนวปฏิบัติใหม่ ! คุมเข้มความเสี่ยงประกันภัยต่อ ยกระดับการบริหารจัดการสร้างเสถียรภาพให้บริษัทประกันวินาศภัย
—
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการ...