กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการมุ่งเน้นวิจัยและพัฒนาด้านเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกภาคส่วนของประเทศ ผ่านการดำเนินงานโดย ICPIM 2 หรือ ศูนย์นวัตกรรมผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรมอาหาร 2 ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว. มีสายการผลิต "สารชีวภัณฑ์" ครอบคลุมตอบโจทย์ทั้งสายการผลิตเชื้อราและแบคทีเรีย ที่เป็นประโยชน์ทั้งระบบการผลิตพืช มีประสิทธิภาพควบคุมศัตรูพืช ปศุสัตว์ และประมง โดยมีกำลังการผลิตรวมต่อปี 115,000 ลิตร เพื่อการขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมของประเทศให้ยั่งยืน
วว. นำผลงานบริการชีวภัณฑ์แบบครบวงจรร่วมแสดงนิทรรศการภายใต้ Theme "สารชีวภัณฑ์ วว. ยกระดับผลผลิตการเกษตร พัฒนาเชิงพื้นที่ด้วย วทน." ที่สามารถรองรับอุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 (Thailand Research Expo 2022) ซึ่ง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคม 2565 ณ บูธ EL 5 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเป็นเวทีระดับชาติในการนำเสนอความก้าวหน้าผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีศักยภาพพร้อมใช้ประโยชน์และเผยแพร่องค์ความรู้ กระจายโอกาสการเข้าถึงฐานข้อมูลความรู้เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ โดยนำเสนอภารกิจ ความเชี่ยวชาญ งานบริการชีวภัณฑ์แบบครบวงจร ในรูปแบบนิทรรศการ On ground และ Online
ศ .(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมของการใช้สารชีวภัณฑ์ต่อภาคเกษตรกรรม คือ เป็นการยกระดับผลิตผลทางการเกษตรในการรองรับนโยบายของรัฐบาล มุ่งสู่ระบบการผลิตพืชปลอดภัย และระบบการผลิตพืชอินทรีย์ เพิ่มมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตร ลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ ลดการตกค้างของสารเคมีในพืชผลการเกษตร ปลอดภัยทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค ต่อสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรไทย
"...การดำเนินงานด้านชีวภัณฑ์ของ วว. มีจุดแข็ง คือ มีโครงสร้างพื้นฐานโรงงาน ICPIM 2 ที่มีศักยภาพตอบโจทย์ให้กับภาคอุตสาหกรรมของไทย ในการให้บริการครบวงจรทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์จุลินทรีย์ใหม่ๆ ในระดับห้องปฏิบัติการ และทดสอบกระบวนการผลิต ขยายจุลินทรีย์ในระดับกึ่งอุตสาหกรรม สามารถผลิตสารชีวภัณฑ์ได้จำนวน 3 รูปแบบ คือ หัวเชื้อเหลว หัวเชื้อน้ำ และหัวเชื้อผง ในส่วนของบรรจุภัณฑ์มี 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง และใหญ่ สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ชีวภัณฑ์ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยพัฒนาถังหมักระดับชุมชนที่สามารถตอบโจทย์เกษตรกร ผู้ประกอบการ ในการขยายชีวภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานให้เพียงพอกับการใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรม..." ผู้ว่าการ วว. กล่าว
การดำเนินงานด้านสารชีวภัณฑ์ของ วว. มีการบูรณาการของหน่วยงานในสังกัดครอบคลุมและรองรับงานด้านชีวภัณฑ์ครบวงจร พร้อมให้บริการรองรับงานวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตจุลินทรีย์ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและระดับอุตสาหกรรม ได้แก่
ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการดำเนินงาน โดย ศูนย์นวัตกรรมการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม : ICPIM 1 ให้บริการประเมินความปลอดภัยของสารชีวภัณฑ์ ตาม Guidelines for the registration of pesticides (FAO/WHO, 2010) ครบทุกการทดสอบแห่งเดียวในประเทศไทย ศึกษาความเป็นพิษแบบเฉียบพลันทางปาก/ผิวหนังในหนู ศึกษาการก่อระคายเคือง การกัดกร่อนแบบเฉียบพลันต่อผิวหนังในกระต่าย ศึกษาการก่อระคายเคือง การกัดกร่อนแบบเฉียบพลันต่อดวงตาในกระต่าย ศึกษาภาวะภูมิไวเกินทางผิวหนังในหนูตะเภา ศึกษาพิษเฉียบพลันทางการสูดดม
ศูนย์จุลินทรีย์ (Biobank) เก็บรวบรวมสายพันธุ์จุลินทรีย์ 10,000 สายพันธุ์ ให้บริการการจำแนกสายพันธุ์จุลินทรีย์ และตรวจสอบ/ควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์
ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ ผ่านการดำเนินงาน โดย ศูนย์นวัตกรรมการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม : ICPIM 2 มีภารกิจให้บริการโรงงานต้นแบบผลิตสารชีวภัณฑ์และห้องปฏิบัติการด้านสารชีวภัณฑ์บริการผลิตชีวภัณฑ์ มุ่งเน้นวิจัยและพัฒนาชีวภัณฑ์สายพันธุ์ใหม่ วิจัยและพัฒนารูปแบบชีวภัณฑ์ สนับสนุนงานวิจัยพัฒนาเชิงพื้นที่ พัฒนาบุคลากรรองรับงานวิจัยและอุตสาหกรรมชีวภาพ
ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับมาตรฐานตาม OECD GLP GUIDLINE ในการให้บริการวิเคราะห์ทดสอบความเป็นพิษของจุลินทรีย์
จุดเด่นของสารชีวภัณฑ์ที่ วว. ผลิต
1.ผ่านการวิจัยและพัฒนาในเรื่องของประสิทธิภาพในการควบคุมศัตรูพืช
2.มีการทดสอบความเป็นพิษในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ISO/IEC 17025 ตามหลัก OECD GLP GUILDLINE
3.ผ่านการผลิตในโรงงานด้วยเครื่องจักรระดับกึ่งอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐาน กระบวนการผลิตสะอาด ปราศจากเชื้ออื่นปนเปื้อน
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องในงานด้านชีวภัณฑ์ โดยมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา รับน้องๆในระดับอุดมศึกษามาเรียนรู้ ฝึกงาน รวมถึงทำวิจัยในด้านต่างๆ ของการพัฒนางานด้านชีวภัณฑ์ ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ โรงงาน และภาคสนาม เพื่อเป็นแรงงานรองรับการพัฒนาของอุตสาหกรรมเกษตรและชีวภาพต่อไปในอนาคต
จากการที่ วว. นำสารชีวภัณฑ์ไปใช้ประโยชน์ ส่งผลให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากการดำเนินงานจำนวน 33.3418 ล้านบาท ดังนี้
ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานพื้นที่ "กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัด" รวมจำนวน 1.3 ล้านลิตร เพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืชทดแทนสารเคมีทางการเกษตร ลดสารพิษตกค้าง เพิ่มความปลอดภัย ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรผู้ใช้ ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และลดการนำเข้าสารเคมีจากต่างประเทศ โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสารชีวภัณฑ์ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และอยุธยา ครอบคลุม 4 กลุ่มพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้ผล พืชไร่ (ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง) พืชสมุนไพรและพืชผัก รวมทั้งได้พัฒนากระบวนการขยายชีวภัณฑ์ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการเพื่อขยายสู่การผลิตเชิงพาณิชย์และระดับชุมชน
นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมดำเนิน โครงการภายใต้แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ใน "โครงการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลางตะวันตก ด้วย BCG โมเดล" ของปีงบประมาณ 2564 จากการดำเนินงานส่งผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม ดังนี้
"...จากการดำเนินงานของ วว. พบว่าประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมของการใช้สารชีวภัณฑ์ซึ่งมีต่อภาคเกษตรกรรม คือ เป็นการยกระดับผลิตผลทางการเกษตรในการรองรับนโยบายของรัฐบาล มุ่งสู่ระบบการผลิตพืชปลอดภัย และระบบการผลิตพืชอินทรีย์ เพิ่มมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตร ลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ ลดการตกค้างของสารเคมีในพืชผลการเกษตร ปลอดภัยทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค ต่อสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรไทย..." ศ.(วิจัย)ดร.ชุติมา เอี่ยวโชติชวลิต กล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับ "สารชีวภัณฑ์" หรือขอรับบริการจากศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว. (ติดต่อ ICPIM 2) ได้ที่ โทร. 0 2577 9016, 02-577 9021 โทรสาร 0 2577 9009 E-mail : [email protected]
ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาหัวข้อเรื่อง "The China-Thailand Forum on Innovation and Development in Environmental Science and Engineering" จัดโดย กลุ่มบริการอุตสาหกรรม วว. ร่วมกับ Kunming University of Science and Technology National Science Park.,Ltd. (ประเทศจีน) และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ภายใต้การดำเนิน
วว. นำเสนอนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า "ข้าว" ภายใต้ ครม. สัญจร จังหวัดนครพนม/กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2
—
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทร...
วว. ต้อนรับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในโอกาสเยี่ยมชมโครงสร้างพื้นฐาน วทน.
—
ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโ...
วว. วิจัยพัฒนาการใช้ประโยชน์สารสกัด "ใบเตย" เสริมสุขภาพระบบกระดูก/ข้อ สำหรับสังคมก่อนและสูงวัย
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โด...
วว.รับมอบประกาศนียบัตรร่วมจัดแสดงผลงานในงานสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติเจนีวา ครั้งที่ 50
—
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาส...
วว.คว้ารางวัลชนะเลิศเหรียญทอง (Gold Medal) @ งานสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติเจนีวา ครั้งที่ 50
—
ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโน...
สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช วว. ชวนร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกร...
วว. พัฒนาสารเสริมสุขภาพสัตว์ปีกจากจิ้งหรีดทองดำ ช่วยลดปริมาณเชื้อก่อโรค/กระตุ้นการเจริญเติบโต
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย...
วว. ร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เนื่องในงาน "สงกรานต์ อว."
—
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน...
วว. จัดอบรมฟรี ! เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจ...