ที่ผ่านมาบริษัทที่จะสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ จำเป็นต้องมีผู้บริหารหรือพนักงานในระดับตัดสินใจที่พร้อมที่จะอัปสกิลตัวเองให้มี "สมรรถนะ" และ "ความรู้" ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ซึ่งในต่างประเทศเรียกรูปแบบการพัฒนาคนกลุ่มนี้ว่า Higher Education โดยวิธีการที่นิยมใช้ คือ การสนับสนุนให้พนักงานเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท เอก หรือหลักสูตรต่าง ๆ ของสถาบันอุดมศึกษาทั้งรัฐและเอกชน
แต่ในยุค Disruption ที่ "สมรรถนะ" หรือ "ความรู้" ที่ได้เล่าเรียนมา "ตกยุค" เพราะความรู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ใบปริญญาบัตรและหลักฐานการเรียนหรืออบรมในหลักสูตรต่างๆ จะเป็น "เอกสารรับรองสมรรถนะในอดีต" ที่อาจไม่เพียงพอสำหรับการพิจารณาในการ "รับเข้าทำงาน" หรือ "ปรับเลื่อนตำแหน่ง" ขององค์กรในวันนี้และอนาคต
ดังนั้น นอกเหนือจากการสร้างหลักสูตรเพื่อพัฒนากำลังคนระดับสูง (Higher Education) แบบครบวงจรแล้ว สถานศึกษาในอนาคตจะต้องมีรูปแบบของ "การรับรองความสามารถรายบุคคล" ที่แสดงถึง "ความสามารถ (Ability)" และ "ศักยภาพ (Potential)" ผ่านผลงานหรือการทำงานจริงที่จำเพาะแต่ละบุคคล ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังได้เกิดขึ้นมา 2-3 ปีแล้วในประเทศตะวันตกหลายประเทศ และสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อ "Micro-Credentials" ที่แต่ละประเทศก็จะมีหน่วยงานที่ทำหน้ารับรองความสามารถรายบุคคล
รศ. ดร.บัณฑิต ทิพากร รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า Micro-Credentials หรือ MC เป็นรูปแบบของการรับรองความสามารถในรูปแบบออนไลน์ ที่สามารถแสดงถึงทักษะความรู้ ประสบการณ์ หรือผลงานของบุคคลนั้น ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และชัดเจน โดย มจธ. คือสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของไทย และลำดับต้นของอาเซียนที่มีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
"การปรับเปลี่ยนระบบการศึกษา หรือ Education Transforming ที่เหมาะสมกับการพัฒนากำลังคนในระดับสูง (Higher Education) คือ การศึกษาที่มุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ หรือ Outcome-based education (OBE) ที่หลักสูตรจะต้องมีการออกแบบให้เป็นไปตามความต้องการของ User ที่อาจเป็นบุคคลหรือองค์กร ดังนั้นนอกเหนือจากการพัฒนาและจัดทำหลักสูตรที่ตอบโจทย์ข้างต้นได้แล้ว จำเป็นต้องมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่รับรองผลงานหรือศักยภาพของบุคคลคนนั้นได้ด้วย มจธ. เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม จึงต้องการนำประสบการณ์การทำหลักสูตรสำหรับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม และการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการยาวนานกว่า 10 ปี มายกระดับตัวเองสู่การเป็นองค์กรที่มีสิทธิในการรับรองความสามารถรายบุคคล หรือ Micro-Credentials ที่มีมาตรฐานทัดเทียมหน่วยงานในยุโรปและอเมริกา รวมถึงผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ"
จึงเป็นที่มาของการสัมมนาวิชาการเรื่อง "Micro-Credentials in Thai Higher Education: Opportunities, Challenges, and Outlook from ASEAN and Europe" ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 -21 กรกฎาคม 2565 โดยมี EU-SHARE ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการศึกษาเรื่อง Higher-Education ของประเทศในกลุ่มยุโรปเป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน
ดร.กลางใจ สิทธิถาวร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา มจธ. ในฐานะผู้รับผิดชอบการจัดงานครั้งนี้ กล่าวว่า แม้ว่าสิงคโปร์จะเป็นประเทศแรกของอาเซียนที่ใช้ระบบการศึกษาแบบ Micro-Credentials แต่การที่ มจธ. ได้ทำเรื่องนี้มาต่อเนื่องกว่า 10 ปี และเริ่มทำอย่างจริงจังเมื่อปี 2562 ทำให้ SHARE เลือกให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่นำร่องของภูมิภาคในการทำ Micro-Credentials โดยในเวทีดังกล่าวได้มีการนำเสนอประสบการณ์ผลลัพธ์ และผลกระทบที่เกิดขึ้นโดย Micro-Credentials จากเครือข่าย EU-SHARE สถาบัน British Council จากอังกฤษ, DAAD จากเยอรมัน, NUFFIC จากเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ร่วมงานกว่า 100 ท่านจากหลายหน่วยงานด้านการศึกษาของไทย รวมถึงตัวแทนของมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียน ทั้งจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
"เป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้คือ การนำเสนอแนวคิด วิธีการจัดการศึกษาและแพลตฟอร์มของ Micro-Credentials ในต่างประเทศ เพื่อให้หน่วยงานด้านการศึกษาในประเทศไทยได้เห็นถึงทิศทางของการศึกษายุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนทุกช่วงวัย ทิศทางของตลาดแรงงานของโลก และการรับรองความสามารถระดับบุคคลมากกว่าใบปริญญาบัตร ซึ่ง Micro-Credentials คือการมองหาศักยภาพที่มีอยู่ในสถาบันการศึกษา และ Breakdown สิ่งที่เหล่านั้นออกมาเป็นหน่วยเล็ก ๆ ที่สามารถเลือกหยิบมาจัดทำเป็นโมดูลการพัฒนากำลังคนด้าน Higher Education ที่เหมาะกับแต่ละบุคคล อีกทั้งปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สอดรับกับความต้องการหรือแนวโน้มต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ดร.กลางใจ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ มจธ. คาดหวังจากการจัดงานครั้งนี้ นอกเหนือจากการนำสิ่งที่ได้จากเวทีไปใช้ในการทำหลักสูตรระดับ Higher Education ให้อยู่ในเกณฑ์การรับรองด้วย Micro-Credentials ของ มจธ. ให้มากขึ้นแล้ว (ปัจจุบันมี 34 MC) ยังเป็นการสื่อสารไปยังองค์กรที่เป็นเครือข่ายของ มจธ. โดยผู้ประกอบการได้เห็นประโยชน์และความจำเป็นของการใช้ Micro-Credentials ในการตัดสินใจด้านบุคลากร และการพัฒนากำลังคนระดับสูงของหน่วยงาน ขณะเดียวกัน ทาง มจธ. ยังต้องการสร้างความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาอื่น ๆ เพื่อขยายแพลตฟอร์มการรับรองความสามารถรายบุคคลรูปแบบนี้ไปสู่สายอาชีพที่แต่ละมหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญ เช่น สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
รศ. ดร.บัณฑิต กล่าวสรุปว่า หากการรับรองความสามารถระดับบุคคล หรือ Micro-Credentials เกิดขึ้นจริงและได้รับการยอมรับ จะเป็นการยกระดับระบบการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาไปสู่การเป็นสถาบันการศึกษาที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนโดยไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ อาชีพ และที่สำคัญคือ จะเป็นการศึกษาที่สามารถผลิตทั้งบัณฑิตและกำลังคนที่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการในสาขานั้น ๆ กลายเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าในตัวเอง เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพขององค์กร และเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนประเทศในยุค Disruption ได้อย่างมั่นคง
อีซูซุชวน Gen Z แชร์ไอเดียแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจตอกย้ำคุณค่าแบรนด์อีซูซุ ในโครงการ "Tri Petch Group Awakens Your Challenge 2025"
ส.อ.ท. จับมือ CBS-กสิกร-บพค. ยกระดับ SMEs ไทยสู่ SMART SMEs ด้วย Digital & AI
หลักสูตรสูตรลับ ขนมไทย รังสรรค์จากใจสู่จาน โดย วิทยาลัยดุสิตธานี
วว. ร่วมหารือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ด้านบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ในการประชุมวิชาการนานาชาติ 42nd IASP World Conference 2025 กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
SCB Academy เปิดตัว "AFAST Smart University" ขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะอนาคตให้นิสิต นักศึกษาไทย สู่บัณฑิตคุณภาพ พร้อมแข่งขันในตลาดแรงงานโลก
หลักสูตรติ่มซำ ระดับภัตตาคาร โดย วิทยาลัยดุสิตธานี
กฟผ. จับมือ สทน. เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ปล่อยของ ประกวดสร้างสรรค์สื่อ SMRภายใต้โครงการ EGAT DIGIWAR ปี 7 เปิดรับสมัครแล้วถึง 20 ก.ย. นี้
โทเคน เอกซ์ จับมือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โดย คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ ลงนาม MOU เสริมทักษะนักศึกษา เชื่อมเครือข่ายอุดมศึกษา-อุตสาหกรรม