SCB CIO คาดเงินเฟ้อใกล้ผ่านจุดสูงสุดสะท้อนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชะลอตัวลง แนะลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงรอความชัดเจนผลประกอบการไตรมาส 2

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

SCB CIO คาดการชะลอตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นสัญญาณว่าเงินเฟ้อใกล้ผ่านจุดสูงสุด แต่การลดลงของเงินเฟ้ออาจลดลงไม่เร็วและยังอยู่ในระดับสูง ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางหลัก ยังเป็นแบบเร็วและแรงต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเริ่มขยับสูงขึ้น การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแนะรอความชัดเจนจากผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะสะท้อนว่าบริษัทจดทะเบียนปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหนจากผลกระทบเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น

SCB CIO คาดเงินเฟ้อใกล้ผ่านจุดสูงสุดสะท้อนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชะลอตัวลง แนะลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงรอความชัดเจนผลประกอบการไตรมาส 2

ดร. กำพล อดิเรกสมบัติ ผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office (SCB CIO ) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การชะลอตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณเงินเฟ้อใกล้ผ่านจุดสูงสุด แต่ทิศทางดอกเบี้ยในปีนี้ยังเป็นขาขึ้น ความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรชะลอตัวลง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ได้มีความตึงตัวทางอุปทาน เช่น ทองแดง และนิกเกิล มีราคาลดลงมาก ทั้งนี้ การชะลอตัวลงของราคาพลังงานและอาหาร ส่งผลให้ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อโดยเฉพาะในสหรัฐฯ ใกล้ผ่านจุดสูงสุด แต่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ธนาคารกลางหลักเช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และ ธนาคารกลางยุโรป (ECB ) ยังคงส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงในปีนี้ โดยนับจากนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามคือสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยในปี 2023 โดยตัวเลขในสหรัฐฯ และยุโรป เริ่มส่งสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง

หลังตลาดหุ้นทั่วโลกได้มีการ derating ลงมาค่อนข้างมาก แต่ยังต้องรอความชัดเจนจากผลประกอบการไตรมาสที่ 2 และการปรับคาดการณ์ผลประกอบการในครึ่งหลังของปี ผลประกอบการในไตรมาส 2 จะเป็นตัวบ่งชี้ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหนจากภาวะเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจชะลอตัว โดยล่าสุดการปรับคาดการณ์ผลประกอบการในสหรัฐฯ และยุโรปที่ดีขึ้นล่าสุดมาจากกลุ่มพลังงาน ในขณะที่ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจอื่นถูกปรับลดลง นอกจากนี้ SCB CIO เชื่อว่าความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยที่สูงขึ้นจะเข้ามากดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวทำให้การขยับขึ้นหลังจากนี้เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น แต่การขยับขึ้นที่เร็วกว่าของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นตามการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลให้ภาะวะ inverted yield curve อยู่เป็นระยะในช่วงครึ่งหลังของปี

ดร. กำพล กล่าวต่อไปว่า กลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุน( Asset Allocation portfolio) ของ SCB CIO โดยแนะนำ ถือเงินสดใน Portfolio สัดส่วนประมาณ 5-10% ในช่วงที่ตลาดรอความชัดเจนจากผลประกอบการไตรมาส 2 และทิศทางดอกเบี้ยปี 2023 พร้อมทยอยสะสมพันธบัตร Investment Grade เพื่อสร้างกระแสรายได้ให้กับ Portfolio สัดส่วน 20-30% และ เรามีมุมมอง Neutral สำหรับการลงทุนในหุ้นโดยรวม ในกลุ่มตลาดหุ้น Develop Markets ( DM ) มีมุมมอง Neutral ต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อรอความชัดเจนจากผลกระทบเงินเฟ้อและเศรษฐกิจชะลอตัวที่จะมีต่อผลประกอบการในระยะข้างหน้า เราคงมุมมองหุ้นยุโรปเป็น Slightly negative จากผลกระทบยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป สำหรับกลุ่ม Emerging Markets ( EM) เรายังคงมุมมอง Slightly positive ต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีน A-share หลังมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แม้เริ่มมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากขึ้น แต่เราเชื่อว่าการปิดเมืองข้างหน้าจะเป็นแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อควบคุมผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ยังคงมุมมอง หุ้นไทย และ เวียดนาม ที่ Slightly Positive เราเชื่อว่าการเปิดเมืองของทั้ง 2 ประเทศจะทำให้เศรษฐกิจและผลประกอบการฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยตลาดหุ้นทั้งสองประเทศมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา นับเป็นโอกาสที่ดีในการทยอยสะสมเข้าพอร์ต โดยมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยในทั้งสองประเทศจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ในส่วนของไทยมีโอกาสที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับดอกเบี้ยขึ้นครั้งละ 0.25% ใน 3 การประชุมที่เหลือของปี

นอกจากนี้ SCB CIO ยังคงแนะนำให้มีสินค้าโภคภัณฑ์ ประมาณ 4-6% ของ portfolio เพื่อเป็นการจัดการความเสี่ยงเงินเฟ้อ โดยเน้นที่น้ำมันซึ่งยังมีความตึงตัวของอุปทาน รวมถึงอุปสงค์น้ำมันโลกในช่วงครึ่งหลังของปียังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการเปิดเมืองเปิดประเทศโดยเฉพาะในเอเชีย อย่างไรก็ตามเราปรับสินค้าโภคภัณฑ์ ลงเป็น slightly positive เพื่อสะท้อนความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะมีผลต่ออุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยผลกระทบจะมีค่อนข้างมากกับสินค้าที่ไม่ได้มีความตึงตัวในอุปทานในระยะข้างหน้า เช่น ทองแดง สำหรับลูกค้า HNW และ UHNW การมี Alternative assets เช่น Structure note และ Private asset อยู่ใน Portfolio จะช่วยสร้างกระแสรายได้และลดความผันผวนของ Portfolio ได้


ข่าวผลประกอบการไตรมาส+กำพล อดิเรกสมบัติวันนี้

ONSENS ให้ข้อมูลงบ Q3/68 รายได้รวม 68.31 ลบ. กำไรโต 268% อัดกลยุทธ์การตลาดรับไฮซีซัน

นายสมิทธิ์ เมฆอรุณกมล (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายเพชร คงแสงไชย (ซ้าย)ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือONSENS ให้ข้อมูลผลประกอบการไตรมาส 3/68 รายได้รวม 68.31 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 268% พร้อมให้ข้อมูลทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/68 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยว จัดโปรโมชันกระตุ้นการใช้บริการ พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ

นายชวลิต ถนอมถิ่น (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที... RT ให้ข้อมูล Q3/68 รายได้รวม 996 ลบ. กำไรโต 840% — นายชวลิต ถนอมถิ่น (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายนาวิน ป้องแก้ว (ขวา) รองกรรมการผู้จัดการสายงานป...

นางสาวปณิตา ควรสถาพร (ขวา) รองกรรมการผู้จ... AGE โชว์รายได้-กำไร Q3 ยังแข็งแกร่ง เดินหน้ารองรับความต้องการรถ EV — นางสาวปณิตา ควรสถาพร (ขวา) รองกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นายลิขิต เลาบวรเศรษฐี (ซ้าย)...

RT เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/68 คาดผลงานเติ... RT ส่งสัญญาณ Q4/68 โตแรง ผลงานทำจุดสูงสุด ตุน Backlog 4,528 ลบ. — RT เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/68 คาดผลงานเติบโตสูงสุดในปีนี้ ทยอยรับรู้งานในมือต่อเนื่อง 27...

ONSENS เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/68 เติบโตต... ONSENS ตั้งเป้า Q4/68 ยอดใช้บริการทุบสถิติ อัดโปรโมชั่น - กิจกรรมการตลาดรับไฮซีซัน — ONSENS เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/68 เติบโตต่อเนื่อง อานิสงส์ไฮซีซันการท...

นายเอกพงศ์ โชคชัยวิทัศน์ กรรมการผู้จัดการ... MOTHER สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน Opportunity Day ไตรมาส 3/68 สดใส — นายเอกพงศ์ โชคชัยวิทัศน์ กรรมการผู้จัดการ และนางสาววิไลลักษณ์ มากผล ผู้อำนวยการฝ่ายบั...