ราช กรุ๊ป กำไรครึ่งปีแรก 3,775.45 ล้านบาท คาดปิดดีลลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่างประเทศ บรรลุเป้าหมาย 700 เมกะวัตต์ภายในปีนี้สำเร็จ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 โดยรับรู้รายได้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 91 รวมเป็นเงินจำนวน 36,699.36 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากโรงไฟฟ้าราชบุรี กลุ่มโรงไฟฟ้าในออสเตรเลีย โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำอาซาฮาน ในอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าสหโคเจนชลบุรี รวมทั้งโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์อีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ในอินโดนีเซีย ที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ให้กับการไฟฟ้าอินโดนีเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ภายใต้สัญญาระยะยาว 25 ปี และโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง ที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ภายใต้สัญญาระยะยาว 25 ปี แต่ด้วยความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง รวมทั้งค่าใช้จ่ายจากการบริหารต้นทุนทางการเงินและการจัดหาเงินทุนเพื่อรองรับการลงทุนที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จนส่งผลต่อต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรงวดนี้มีจำนวน 3,775.45 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2564

ราช กรุ๊ป กำไรครึ่งปีแรก 3,775.45 ล้านบาท คาดปิดดีลลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่างประเทศ บรรลุเป้าหมาย 700 เมกะวัตต์ภายในปีนี้สำเร็จ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความก้าวหน้าในการขยายการลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 700 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักและพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนธุรกิจนอกภาคการผลิตไฟฟ้า ยังมุ่งเป้าหมายที่ธุรกิจบริการสุขภาพ และนวัตกรรมด้านพลังงานซึ่งจะดำเนินการผ่านบริษัท อินโนเพาเวอร์ จำกัด ที่บริษัทฯ ร่วมถือหุ้นร้อยละ 30

นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้ขับเคลื่อนตามกลยุทธ์ 3 G โดย G-1 (Growth) มุ่งแสวงหาโอกาสเติบโตในธุรกิจเพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต G-2 (Green) สนับสนุนด้านพลังงานทดแทน และยกระดับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาลตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ G-3 (Generate) เน้นประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าและพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการขยายธุรกิจ โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มกำลังผลิตไม่ต่ำกว่า 700 เมกะวัตต์ และเพิ่มการลงทุนในธุรกิจนอกภาคการผลิตไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท พร้อมทั้งการจัดทำกลยุทธ์ความยั่งยืนและเป้าหมายในปี 2573 ซึ่งรวมถึงการพัฒนากระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน และกลยุทธ์การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ด้วย

"ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ใช้เงินลงทุนจำนวน 1,454.81 ล้านบาท โดยมี 4 โครงการเดิมในธุรกิจผลิตไฟฟ้า และ 1 โครงการใหม่ในธุรกิจนอกภาคการผลิตไฟฟ้า สำหรับปี 2565 บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนไว้จำนวน 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนธุรกิจผลิตไฟฟ้า 28,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินลงทุนในโครงการใหม่จำนวน 26,500 ล้านบาท และโครงการเดิมจำนวน 1,500 ล้านบาท ส่วนเงินลงทุนในธุรกิจนอกภาคการผลิตไฟฟ้า จัดสรรไว้จำนวน 2,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินลงทุนโครงการใหม่ 1,400 ล้านบาท และโครงการเดิม 600 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงยึดแนวทางการลงทุนในรูปแบบการซื้อ หรือร่วมทุนในกิจการที่ดำเนินงานแล้ว ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพของกระแสเงินสดและสภาพคล่องของบริษัทฯ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนคุณค่าร่วมแก่ผู้มีส่วนได้เสียด้วย" นางสาวชูศรี กล่าว

ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ รับรู้กำลังการผลิตที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตามการถือหุ้นรวม 7,384.63 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตรวม 9,219.33 เมกะวัตต์ โดยในครึ่งปีหลัง โรงไฟฟ้าพลังงานลมอีโค่วิน กำลังการผลิตตามการถือหุ้น 15.16 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม และส่วนขยายของโรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น กำลังการผลิตตามการถือหุ้น 31.20 เมกะวัตต์ มีกำหนดจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์

สำหรับ ผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 36,699.36 ล้านบาท ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม จำนวน 33,456.76 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทฯ จำนวน 3,775.45 ล้านบาท ฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 188,519.68 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 79,104.32 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 109,415.36 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งสะท้อนจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.24 เท่า และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นร้อยละ 8.25


ข่าวโรงไฟฟ้าพลังความร้อน+โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำวันนี้

บี.กริม เพาเวอร์ ปิดการขายหุ้นกู้ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ด้วยยอดจองซื้อกว่า 2 เท่า ขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจตอบรับ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเอกชนชั้นนำของประเทศไทยซึ่งมุ่งเน้นการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ เสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2568 จำนวนเสนอขายรวมทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า BGRIM ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้การตอบรับลงทุน ทำให้สามารถระดมทุนได้ถึง 7,000

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ... EGCO Group ฉลุย! โรงไฟฟ้า Quezon ฟิลิปปินส์ คว้าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ 15 ปี — บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ประกาศความสำเร็จครั้งสำคั...

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ... EGCO Group ปิดดีลขายหุ้นโรงไฟฟ้า RISEC ในอเมริกา — บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ปิดดีลขายหุ้น 49% ใน RISEC Holdings, LLC (RISEC) ซึ่ง...

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ... EGCO Group ขายหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้า RISEC อเมริกา ให้ SHELL — บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ประกาศขายหุ้นทั้งหมดในสัดส่วน 49% ใน RISEC Hold...

M701JAC เครื่องที่ 8 ซึ่งเป็นชุดสุดท้าย เ... มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เสร็จสิ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ขนาด 5,300 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย — M701JAC เครื่องที่ 8 ซึ่งเป็นชุดสุดท้าย เริ่มเดินเครื่องแล้...