วว. นำเสนอผลงานวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดอกบัวแดง การสกัดน้ำมันดอกจันทน์กะพ้อ ให้แก่มูลนิธิณภาฯ สนับสนุนการศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์จากสารสกัดพืชสมุนไพรไทย ภายใต้แบรนด์ "จัน"
รศ. (พิเศษ) ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการและโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายราเมศร์ เตชะบุญสม ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร มูลนิธิณภาฯ นางสาวณัฎฐา ชาญเลขา คณะทำงานโฆษกกระทรวง อว. ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พร้อมคณะผู้บริหารและนักวิจัย ร่วมประชุมและนำเสนอรายงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดอกบัวแดงและการสกัดน้ำมันดอกจันทน์กะพ้อ ซึ่ง ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร วว. ดำเนินการวิจัยฯ ภายใต้ความร่วมมือสนับสนุนการศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัดพืชสมุนไพรไทย ในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ "จัน" มูลนิธิณภาฯ โดยผลการศึกษาและวิจัยของ วว. พบว่าสารสกัดดอกบัวแดงมีศักยภาพนำไปใช้เป็นสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ได้แก่ ประสิทธิภาพการยับยั้งอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังและยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว โดย วว. ได้นำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้า สบู่เหลวล้างหน้าและครีมกันแดด ส่วนน้ำมันหอมระเหยดอกจันทน์กะพ้อมีความปลอดภัยจากการสูดดม โดยจะพัฒนาเป็นน้ำหอมคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้พ้นโทษ ผู้ขาดโอกาส และชุมชน หนึ่งในภารกิจหลักของมูลนิธิณภาฯ ในวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ณ อาคารผลิตจัน มูลนิธิณภาฯ
ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า การดำเนินงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดอกบัวแดงและการสกัดน้ำมันดอกจันทน์กะพ้อของ วว. ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิณภาฯ เป็นการนำทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่าให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ พัฒนาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจากพืช พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์บำรุงผิว - บำรุงผิวหน้า การดำเนินงานตามกรอบความร่วมมือของ วว. และมูลนิธิณภาฯ ประกอบด้วย 1) ศึกษาและวิจัยสารสกัดจากไม้ดอก พืชสมุนไพรไทย ได้แก่ ดอกบัวแดง ดอกจันทน์กะพ้อ ดอกเก็ดถวา และดอกกฤษณา เพื่อสกัดเป็นสารออกฤทธิ์สารหอมระเหย รวมถึงการทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพที่เกี่ยวข้องกับการนำไปใช้ประโยชน์ด้านสารออกฤทธิ์ในเครื่องสำอาง 2) พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีสรรพคุณของสมุนไพรไทยตามมาตรฐานสากลและให้เกิดใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ใน 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการบำรุงผิว กลุ่มที่ 2 ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการบำรุงผิวหน้า กลุ่มที่ 3 ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม กลุ่มที่ 4 ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการทาความสะอาดในครัวเรือน และกลุ่มที่ 5 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่นอกเหนือจาก 4 กลุ่มข้างต้น ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ 3) ถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักการ วิธีการสกัดพืชสมุนไพรโดยใช้เครื่องมืออย่างง่ายให้กับประชาชนในชุมชนที่เป็นเครือข่ายของมูลนิธิณภาฯ และชุมชนอื่น และ 4) การประกันคุณภาพ
อนึ่ง มูลนิธิณภาฯ ในพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา หรือ "มูลนิธิณภาฯ" ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวกลางในการแสวงหาโอกาส และช่วยเหลือกลุ่มผู้ขาดโอกาส ทั้งนี้ มูลนิธิ ณภาฯ เข้ามาเป็นสื่อกลางในการจัดหาช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการจัดหาตลาดแรงงานเพื่อที่จะให้กลุ่มผู้พ้นโทษสามารถต่อยอดการทำงาน ในทักษะด้านที่ตนเองถนัดและให้พวกเขาสามารถเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้ จึงถือกำเนิดแบรนด์ผลิตภัณฑ์ "จัน" ภายใต้มูลนิธิณภาฯ ขึ้น นอกจากนี้ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในพระราชดำริฯ ตำบลวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นอีกภารกิจหนึ่งภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานโครงการส่วนพระองค์ฯ ที่มุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านการแก้ไขปัญหาความยากจนและหนี้สินด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้ร่วมมือกับ วว. ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพืช เช่น ดอกบัวแดง (เป็นพืชที่มีมากในจังหวัดอุดรธานี) และดอกจันทน์กะพ้อ (เป็นดอกไม้ที่มีมากในจังหวัดสุราษฎร์ธานี) ในเรื่องการสกัดสารออกฤทธิ์และสารหอมระเหย เพื่อนำมาพัฒนาเป็นน้ำหอมคุณภาพสูง และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องสำอาง ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถแข่งชันกับสินค้าในตลาดต่างประเทศได้ เมื่อได้องค์ความรู้เหล่านี้ จะสามารถส่งเสริมการปลูกและรับซื้อผลผลิตจากชาวบ้านในท้องถิ่น ทำการแปรรูปเป็นสารสกัด และส่งต่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในโรงฝึกอาชีพชองมูลนิธิณภาฯ ต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับคำแนะนำปรึกษาจาก วว. ติดต่อได้ที่ โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 E-mail : [email protected] Line@TISTR IG : tistr_ig
ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาหัวข้อเรื่อง "The China-Thailand Forum on Innovation and Development in Environmental Science and Engineering" จัดโดย กลุ่มบริการอุตสาหกรรม วว. ร่วมกับ Kunming University of Science and Technology National Science Park.,Ltd. (ประเทศจีน) และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ภายใต้การดำเนิน
วว. นำเสนอนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า "ข้าว" ภายใต้ ครม. สัญจร จังหวัดนครพนม/กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2
—
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทร...
วว. ต้อนรับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในโอกาสเยี่ยมชมโครงสร้างพื้นฐาน วทน.
—
ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโ...
วว. วิจัยพัฒนาการใช้ประโยชน์สารสกัด "ใบเตย" เสริมสุขภาพระบบกระดูก/ข้อ สำหรับสังคมก่อนและสูงวัย
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โด...
วว.รับมอบประกาศนียบัตรร่วมจัดแสดงผลงานในงานสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติเจนีวา ครั้งที่ 50
—
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาส...
วว.คว้ารางวัลชนะเลิศเหรียญทอง (Gold Medal) @ งานสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติเจนีวา ครั้งที่ 50
—
ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโน...
สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช วว. ชวนร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกร...
วว. พัฒนาสารเสริมสุขภาพสัตว์ปีกจากจิ้งหรีดทองดำ ช่วยลดปริมาณเชื้อก่อโรค/กระตุ้นการเจริญเติบโต
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย...
วว. ร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เนื่องในงาน "สงกรานต์ อว."
—
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน...
วว. จัดอบรมฟรี ! เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจ...