ธนาคารและบริษัทลงทุนจะใช้เงินกับผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีถึง 623 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2565
- ธนาคารจะนำเทคโนโลยี Generative AI มาใช้ในขอบเขตของส่วนงานต่าง ๆ ที่มีการเติบโต อาทิ การตรวจจับการฉ้อโกง การคาดการณ์การซื้อ-ขาย และการจำลองปัจจัยเสี่ยง
- ระบบอัตโนมัติ (Autonomic Systems) จะกลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานรูปแบบเดียวกับ Roboadvisors แต่จะมีพัฒนาการในขั้นสูงกว่า
- 60% ขององค์กรขนาดใหญ่จะใช้เทคนิค "การประมวลผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นส่วนตัว (Privacy-Enhancing Computation)" อย่างน้อยหนึ่งเทคนิคภายในปี 2568
การ์ทเนอร์ เผยสามแนวโน้มเทคโนโลยีที่ได้รับแรงหนุนสำคัญจากบริการธนาคารและการลงทุนในปี 2565 ประกอบด้วย เทคโนโลยี Generative Artificial Intelligence (AI), Automatic Systems และ Privacy-Enhancing Computation ซึ่งเทคโนโลยีทั้งสามกลุ่มนี้จะยังเติบโตต่อเนื่องในสองหรือสามปีจากนี้ โดยมีส่วนสนับสนุนการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงขององค์กรธุรกิจที่ให้บริการทางการเงิน
มูตูซี เซา รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า "ขณะที่การเติบโตมีความสำคัญสูงสุดต่อธุรกิจ ความจำเป็นในการจัดการความเสี่ยง การเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและการดำเนินงานต่างต้องการนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ Generative AI ช่วยให้ผู้บริหารไอทีของธนาคารสามารถนำเสนอเทคโนโลยีโซลูชั่นให้กับธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตได้ ขณะที่ Autonomic Systems และ Privacy-Enhancing Computation จะเป็นโซลูชั่นดำเนินการระยะยาวที่นำเสนอทางเลือกใหม่ ๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในด้านบริการทางการเงิน"
การ์ทเนอร์คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของธุรกิจธนาคารและการลงทุนทั่วโลกในปี 2565 จะเติบโตขึ้น 6.1% หรือคิดเป็น 623 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหมวดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุดคือ บริการด้านไอที ประกอบไปด้วย บริการให้คำปรึกษาและบริการด้านการจัดการ คิดเป็น 42% ของมูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมดในหมวดนี้อยู่ที่ 264 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับหมวดที่เติบโตเร็วที่สุดคือซอฟต์แวร์ ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 11.5% หรือประมาณ 149 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่การ์ทเนอร์คาดว่ามูลค่าใช้จ่ายไอทีของธุรกิจธนาคารและการลงทุนในปี 2565 จะเติบโต 6.5% หรือ 82.2 พันล้านบาท โดยหมวดที่มีมูลค่าการใช้จ่ายมากที่สุด คือ "บริการด้านไอที" ที่ประกอบด้วย บริการให้คำปรึกษาและบริการด้านการจัดการ และหมวดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดคือ ซอฟต์แวร์ คาดว่าจะเติบโตขึ้น 14% หรือ 13.5 พันล้านบาท
เทรนด์เทคโนโลยีเกิดใหม่สามกลุ่มที่การ์ทเนอร์ระบุมีส่วนช่วยธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายในการดำเนินการ สร้างการเติบโต และเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และแสดงให้เห็นกรณีตัวอย่างการใช้งานในอุตสาหกรรมการธนาคารและการลงทุน ได้แก่
เทรนด์ที่ 1: Generative AI
การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า 20% ของข้อมูลทดสอบจากการใช้งานของผู้บริโภคจะถูกสังเคราะห์ขึ้นภายในปี 2568 ทั้งนี้ Generative AI จะเรียนรู้การเป็นตัวแทนดิจิทัลของสิ่งประดิษฐ์จากข้อมูลและสร้างนวัตกรรมที่คล้ายกับต้นฉบับแต่จะไม่ทำซ้ำ
ในส่วนบริการด้านการธนาคารและการลงทุน จะพบแอปพลิเคชันของเทคโนโลยี Deep Learning แบบ Generative Adversarial Networks - GAN และการสร้างภาษาธรรมชาติ (Natural Language Generation - NLG) เป็นส่วนใหญ่ได้ในสถานการณ์การตรวจจับการฉ้อโกง การคาดการณ์การซื้อขาย การสร้างข้อมูลแบบสังเคราะห์ และการสร้างแบบจำลองปัจจัยเสี่ยง ซึ่ง Generative AI มีศักยภาพเนื่องจากความสามารถปรับเปลี่ยนในแบบเฉพาะบุคคลไปสู่ระดับที่สูงขึ้น
เทรนด์ที่ 2: ระบบอัตโนมัติ (Autonomic Systems)
ระบบอัตโนมัติเป็นระบบที่จัดการได้ทั้งแบบกายภาพหรือจากซอฟต์แวร์ ซึ่งเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมและปรับเปลี่ยนอัลกอริธึมของมันเองได้แบบไดนามิกแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้พฤติกรรมของระบบในสภาวะระบบนิเวศที่ซับซ้อน ระบบอัตโนมัติจะสร้างชุดความสามารถทางเทคโนโลยีที่คล่องตัวสนับสนุนความต้องการและสถานการณ์ใหม่ ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและป้องกันการโจมตีโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์
ปัจจุบันระบบอัตโนมัติส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในรูปแบบซอฟต์แวร์ในบริบทของธุรกิจธนาคาร อย่างไรก็ตามก็มีหุ่นยนต์แบบฮิวแมนนอยด์ในสาขาธนาคารอัจฉริยะซึ่งเป็นตัวอย่างของระบบอัตโนมัติที่ทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการแก่ลูกค้าและผู้ใช้บริการ สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้ในการจัดการหนี้แบบอัตโนมัติ เป็นผู้ช่วยด้านการเงินส่วนบุคคลและการให้กู้ยืมอัตโนมัติ Roboadvisors จัดเป็นระบบอัตโนมัติระดับพื้นฐานแม้ว่ายังมีความกังวลเรื่องความน่าเชื่อถืออยู่ในความเป็นระบบอัตโนมัติในระดับสูง
การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าภายในปี 2567 20% ขององค์กรที่จำหน่ายระบบหรืออุปกรณ์อัตโนมัติจะขอให้ลูกค้าละเว้นการชดใช้ค่าเสียหายตามข้อกำหนดเรื่องความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้พฤติกรรมจากผลิตภัณฑ์ของตน
เทรนด์ที่ 3: การประมวลผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นส่วนตัว (Privacy-Enhancing Computation)
การประมวลผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นส่วนตัว (Privacy-Enhancing Computation หรือ PEC) นั้นช่วยให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากกฎหมายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลมีความสำคัญมากขึ้นรวมถึงความกังวลของผู้บริโภค ซึ่ง PEC ใช้เทคนิคการป้องกันความเป็นส่วนตัวที่หลากหลายเพื่อให้สามารถดึงข้อมูลออกมาใช้ได้อย่างมีคุณค่าและยังปฏิบัติตามข้อกำหนด
การ์ทเนอร์คาดว่า ภายในปี 2568 องค์กรขนาดใหญ่ 60% จะใช้เทคนิคของ Privacy-Enhancing Computation อย่างน้อยหนึ่งเทคนิคเพื่อการวิเคราะห์ หรือใช้ในธุรกิจอัจฉริยะ หรือเพื่อการประมวลผลบนคลาวด์ สำหรับภาคบริการทางการเงินที่ข้อมูลถือว่ามีบทบาทอย่างมากในการวิเคราะห์ การคำนวณ และการสร้างรายได้ จึงมีการนำเทคนิค PEC มาใช้เพิ่มขึ้น อาทิ ใช้วิเคราะห์การฉ้อโกง ดำเนินการด้านข่าวกรอง แบ่งปันข้อมูล และต่อต้านการฟอกเงิน
ลูกค้าการ์ทเนอร์สามารถคลิกอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ The Top Strategic Technology Trends in Banking and Investment Services for 2022 และ Forecast: Enterprise IT Spending for the Banking and Investment Services Market, Worldwide, 2020-2026, 1Q22 Update
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดลำคัญในธุรกิจการเงินและการลงทุนของซีอีโอผ่านเว็บอีบุ๊คของการ์ทเนอร์ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ "2022 CIO Agenda: A Banking and Investment Perspective"
เกี่ยวกับ Gartner for Information Technology Executives
Gartner for Information Technology Executives นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ได้จริงแก่ผู้บริหารและผู้นำด้านไอที สำหรับช่วยให้พวกเขาสามารถใช้ขับเคลื่อนองค์กรก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ ชมข้อมูลเพิ่มเติมคลิก www.gartner.com/en/information-technology.
ติดตามข่าวสารและข้อมูลล่าสุดจาก Gartner for IT Executives ได้ที่ Twitter และ LinkedIn. หรือเยี่ยมชมที่ IT Newsroom
เกี่ยวกับการ์ทเนอร์
บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) (NYSE: IT) คือบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก มอบข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำ และเครื่องมือต่าง ๆ แก่ผู้บริหารองค์กรธุรกิจ เพื่อรองรับการดำเนินภารกิจสำคัญที่มีอยู่ในปัจจุบันและสร้างองค์กรให้ประสบความสำเร็จในอนาคต ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของการ์ทเนอร์ในการช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจอย่างถูกต้องเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจได้ที่ gartner.com
IDG ลั่นระฆังเทรด mai 24 ต.ค.นี้ ชูหนึ่งในผู้นำด้านที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ตั้งเป้ารายได้ 3 ปีทะยาน 2 เท่า
ตัวจริงวงการเทค! KBTG ติดท็อป 3 โลก องค์กรที่ใช้ Data และ AI สร้างผลกระทบเชิงบวก จากการจัดอันดับโดย Forrester
ทีทีบี สนับสนุนสินเชื่อธุรกิจ แก่บริษัท พีอี แอลเอ็นจี เสริมความมั่นคงด้านพลังงานสะอาดของประเทศไทย
ยูโอบี ประเทศไทย เสริมแกร่ง SMEs ไทยด้วย AI กับโครงการ UOB AI Ready
Next Trip Holiday ฉลอง 15 ปี จัดทริปไหว้พระฮ่องกงสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมคอนเสิร์ต เต๋า-เจมส์-โดม ยุค 90
AI: โอกาสทองของ SME หรือ เป็นข้อได้เปรียบเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่?
ซีพีเอฟ ยกย่อง SME สร้างเครือข่ายอาหารปลอดภัยได้มาตรฐานสากล จัดงาน Quality Day Together 2025 พัฒนาไปด้วยกัน สร้างความสำเร็จร่วมกัน