'กยท.' แก้วิกฤตราคาน้ำยาง ชวนเกษตรกรแปรรูป-ทำสวนยางยั่งยืน ลดเสี่ยง รับมือความผันผวน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ผู้ว่า กยท. ชูมาตรการหาทางออก เร่งการผลิตยางตามความต้องการของตลาด รับมือความผันผวน หลังราคาน้ำยางร่วงแรง พัวพันหลายสถานการณ์โลกตึงเครียด ด้านนายกสมาคมน้ำยางข้นไทยไม่ตระหนกชี้ราคาเตรียมกลับสู่สมดุล ขณะที่อุปนายกสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางฯ มองปัจจัยแฝง เกิดสินค้าทดแทนแย่งความต้องการใช้น้ำยาง

'กยท.' แก้วิกฤตราคาน้ำยาง ชวนเกษตรกรแปรรูป-ทำสวนยางยั่งยืน ลดเสี่ยง รับมือความผันผวน

วันที่ 30 มิถุนายน นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ราคาน้ำยางที่เกิดขึ้นว่า จากสภาวะราคาน้ำยางสดที่มีการแกว่งตัวค่อนข้างสูงในช่วงปลาย พ.ค. - ต้น มิ.ย. ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางเกิดความกังวลใจ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีฝนตกค่อนข้างชุก ทำให้ผลผลิตออกมาน้อย ขณะเดียวกันเป็นช่วงผู้ประกอบการหลายรายต้องมีการส่งมอบสินค้าตามสัญญา จึงทำให้ความต้องการใช้ยางในขณะนั้นค่อนข้างสูง ส่งผลให้ราคาน้ำยางขยับตามกลไกตลาด 'กยท.' แก้วิกฤตราคาน้ำยาง ชวนเกษตรกรแปรรูป-ทำสวนยางยั่งยืน ลดเสี่ยง รับมือความผันผวน

ในช่วงเวลานี้ถือว่าราคากลับมาปกติตามภาวะของตลาด แต่อย่างไรก็ตาม กยท. มีมาตรการเพื่อรับมือในเรื่องราคาที่ผันผวน ได้แก่ โครงการชะลอขายยางของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยให้เงินอุดหนุนกับสถาบันเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการรับซื้อยางกับเกษตรกรรายย่อยหรือสมาชิกของสถาบัน เพื่อนำมาเก็บไว้และรอขายในเวลาที่เหมาะสม รวมถึงโครงการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ(ยางแห้ง)วงเงิน 20,000 ล้านบาท ชดเชยดอกเบี้ยในอัตราที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี เพื่อช่วยเหลือเรื่องต้นทุนการผลิต และ กยท. ได้ร่วมกับผู้ประกอบการรับซื้อน้ำยางจากเกษตรกรชาวสวนยางในช่วงเวลาผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ลดภาวะการแกว่งตัวของราคาในตลาด ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถลดซัพพลายส์ออกจากตลาดได้

" กยท. พร้อมให้การสนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยางในการบริหารจัดการผลผลิตของตนเอง ปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดในแต่ละห้วงเวลาตามความเหมาะสม พร้อมทั้งสนับสนุนการทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชร่วมยาง เลี้ยงสัตว์ ลดการพึ่งพิงพืชเชิงเดี่ยว หรือผลผลิตเพียงอย่างเดียว ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางมีความมั่นคงทางรายได้มากขึ้น"

ด้าน นายพงษ์นเรศ วนสุวรรณกุล นายกสมาคมน้ำยางข้นไทย เสริมว่า อีกสาเหตุที่ส่งผลต่อราคาน้ำยางเป็นเพราะหลายประเทศทั่วโลกปลดล็อกจากโรคโควิด-19 แล้ว ดังนั้นความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำยาง เช่น ถุงมือยาง และหน้ากากอนามัย จึงลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้อาจมองเป็นข้อดีได้เช่นกัน เพราะจะทำให้ราคาของน้ำยางปรับคืนสู่สมดุล ตามหลักอุปสงค์และอุปทาน

"เกษตรกรหลายคนกังวลว่า ราคาน้ำยางเคยขึ้นสูงมาก ทำไมถึงลงมาเยอะ แต่อย่าลืมว่าราคาของผลิตภัณฑ์ยางตัวอื่นๆ เช่น ขี้ยาง คงอยู่ที่ช่วง 40 ปลายๆ ถึง 50 ต้นๆ มานาน สาเหตุที่ไม่ขึ้นไปมากกว่านั้น เพราะมันสามารถเก็บสต็อกไว้ได้นาน ไม่เหมือนกับน้ำยาง ราคาจึงเคลื่อนไหวไม่เยอะ ถ้าความต้องการสูง ราคาขายย่อมสูง ต้องแย่งกันซื้อแย่งกันผลิต กลับกันถ้าความต้องการชะลอตัว ราคาก็จะตก ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของตลาดทุกประการ"

นายกสมาคมน้ำยางข้นไทยยืนยันว่า ทางสมาคมซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิตน้ำยางข้นทั้งประเทศ ไม่มีใครอยากเห็นราคาน้ำยางตกต่ำ จนเกษตรกรได้รับผลกระทบ และจะพยายามเต็มที่ เพื่อผลักดันราคาให้อยู่ในกรอบสมดุล เหมาะสมต่อความต้องการของทุกฝ่าย

ขณะที่ นายอดิศักดิ์ กองวารี อุปนายกสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางแห่งประเทศไทย อธิบายถึงสถานการณ์ราคาน้ำยางตกว่า แม้ตามหลักแล้วเมื่อราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ราคาน้ำยางจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ในสถานการณ์จริงจำเป็นต้องวิเคราะห์ให้รอบด้านกว่านั้นว่า มีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ เข้ามาทดแทนหรือช่วงชิงส่วนแบ่งทางตลาดด้วยหรือไม่

"ตอนนี้ไม่ว่าจะอุตสาหกรรมรถยนต์ ถุงมือยาง หรือการผลิตเส้นด้ายยางยืด ทำหน้ากากอนามัย ล้วนมีปริมาณความต้องการลดลง พอเป็นเช่นนี้ ต้องมองภาพรวมด้วยว่า ยางธรรมชาติมีคู่แข่งไหม หรือมีสินค้าทดแทนเข้ามา เช่น ยางสังเคราะห์ และพลาสติกเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในท้องตลาด หากไม่พิจารณาปัจจัยเหล่านี้ อาจเป็นการมองข้ามตัวแปรสำคัญไป"

นายอดิศักดิ์เสริมว่า วิธีการช่วยให้ราคาน้ำยางเพิ่มสูงขึ้น ยังอยู่ที่การสนับสนุนของภาครัฐ ว่าจะสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าน้ำยางให้สูงขึ้นอย่างไร หากสนับสนุนการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าอย่างแข็งขัน มั่นใจว่าจะทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ และทำให้ประเทศสามารถแข่งขันกับต่างชาติในระยะยาวได้อย่างแข็งแกร่ง


ข่าวสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางฯ+การยางแห่งประเทศไทยวันนี้

TEGH จับมือ "กยท." ลงนาม MOU บริหารจัดการผลผลิตยางพารา พร้อมดันไทยสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางในภูมิภาค

บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ผนึกกำลังกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันบริหารจัดการผลผลิตยางพาราให้มีความสมดุล สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่เสถียรภาพด้านราคายางได้ในระยะยาว และเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางพาราในภูมิภาค เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ขณะที่ตั้งเป้าผลิตภายใต้ความร่วมมือไม่น้อยกว่า 5,000 ตันต่อเดือน

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดย ดร.เพิก เล... กยท. MOU ร่วม บ.ไทยอีสเทิร์น สร้างสมดุลระบบยาง หนุนตลาดรองรับผลผลิตที่เป็นธรรม — การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดย ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการย...

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดย นายเพิก เล... กยท. จับมือ นอร์ทอีส รับเบอร์ ลงนาม MOU บริหารจัดการผลผลิตยาง 200,000 ตันต่อปี — การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดย นายเพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการย...

สร้างโอกาสทางการค้า เชื่อมโยงกลุ่มลูกค้าย... กยท. ยกทัพร่วมเปิดงาน 9.9 Global Business Linkage Festival ณ กรุงปักกิ่ง — สร้างโอกาสทางการค้า เชื่อมโยงกลุ่มลูกค้ายางพาราทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์ม B2B ใหญ่ที่...