รายงานดัชนีความโปร่งใสตลาดอสังหาริมทรัพย์โลกฉบับปี 2565 จากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงรักษาตำแหน่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโปร่งใสเป็นอันดับที่ 10 ในเอเชียแปซิฟิก และอันดับที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานฉบับรายสองปี ระบุด้วยว่า คะแนนความโปร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปรับดีขึ้นเล็กน้อยจาก 2.64 ในปี 2563 เป็น 2.63 ในปีนี้ (1 = โปร่งใสสูงสุด 5 = โปร่งใสต่ำสุด) อย่างไรก็ดี อันดับในระดับโลกของไทยปรับลดลง 1 ตำแหน่งจาก 33 ใน 2563 เป็นอันดับที่ 34 ในปีนี้ เนื่องจากโรมาเนียที่เคยอยู่ในอันดับที่ 35 ในปี 2563 กระโดดขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 32 ในปีนี้
นายไมเคิล แกลนซี กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล กล่าวว่า "ดัชนีความโปร่งใสของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ได้ขยับออกจากกลุ่มตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่โปร่งใสปานกลาง ขึ้นมาอยู่กลุ่มตลาดโปร่งใสเป็นครั้งแรกในรายงานฉบับปี 2563 ซึ่งระดับความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในการดึงดูดการลงทุน ในขณะที่ไทยเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบแล้วในขณะนี้"
รายงานดัชนีความโปร่งใสตลาดอสังหาริมทรัพย์โลกโดยเจแอลแอล จัดทำและเผยแพร่ทุกๆ สองปี โดยเป็นการนำเสนอบรรทัดฐานความโปร่งใสของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่นักลงทุน ผู้พัฒนาโครงการ รวมไปจนถึงเจ้าของหรือบริษัทผู้เช่า-ใช้อสังหาริมทรัพย์ สามารถนำไปใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการตัดสินใจใดๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการพิจารณาจากหลายแง่มุม ได้แก่ ข้อมูลตลาดที่มีให้เข้าถึงได้ โครงสร้างการปกครอง กฎระเบียบและกฎหมาย ขั้นตอนการทำธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนมีผลต่อการเพิ่มหรือลดความเสี่ยงในการตัดสินใจใดๆ ของนักลงทุน หรือผู้เช่า-ใช้อสังหาริมทรัพย์
สำหรับเอเชียแปซิฟิก รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมของภูมิภาคยังคงมีพัฒนาการสูงขึ้น และเอื้อต่อการขยายตัวของการลงทุนพัฒนา ซื้อขาย หรือเช่าใช้อสังหาริมทรัพย์ โดยตลาดของภูมิภาค มีคะแนนดัชนีความโปร่งใสปรับเพิ่มขึ้นในหลายด้าน อาทิ กฎหมาย ความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และการมีข้อมูลตลาดเปิดเผยมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ จะมีส่วนในการช่วยให้สามารถดึงดูดการลงทุนได้มากขึ้นในอนาคตต่อไป
ในขณะที่ภาพรวมแสดงให้เห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์เอเชียแปซิฟิกมีค่าดัชนีความโปร่งใสเพิ่มสูงขึ้น แต่การปรับเพิ่มขึ้นมีอัตราที่แตกต่างกันไปสำหรับประเทศต่างๆ
ในปีนี้ ญี่ปุ่นได้ขยับสถานะจากกลุ่มตลาดโปร่งใส ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มโปร่งใสสูง จากหลายปัจจัย อาทิ การกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ การนำมาตรฐานอาคารต่างๆ เข้ามาใช้ ซึ่งมุ่งเน้นความยั่งยืนมากขึ้น การมีความโปร่งใสมากขึ้นในกระบวนการรายงานความเสี่ยงต่างๆ เกี่ยวสภาพภูมิอากาศ
ส่วนสิงคโปร์ กำลังขยับใกล้เข้ากลุ่มตลาดโปร่งใสสูงมากขึ้น จากการมีข้อมูลให้เข้าถึงได้ในเชิงลึกและครอบคลุมมากขึ้น อีกทั้งยังมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนด้านความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
อินเดียติดอยู่ในกลุ่มตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีค่าดัชนีความโปร่งใสปรับตัวดีขึ้นมากที่สุด อันเป็นผลมาจากการลงทุนระดับสถาบันที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น และการเติบโตของภาคกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งเสริมให้มีความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น
ส่วนจีน สถานภาพของการเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่โปร่งใสมีความชัดเจนมากขึ้น ตอกย้ำโดยการประกาศใช้มาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพอาคาร มาตรฐานที่สูงขึ้นเกี่ยวการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นของกระบวนการและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
นายแอนโธนี เคาส์ ซีอีโอภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เจแอลแอล กล่าวว่า "การเสริมสร้างความโปร่งใสของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิก จะช่วยให้ภูมิภาคนี้สามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้มากขึ้น และทำให้บริษัทผู้เช่า-ใช้อสังหาริมทรัพย์มีความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้น คาดว่า จะมีการลงทุนมากขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศที่มีความพยายามในการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง การปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการปกป้องการคอบครองอสังหาริมทรัพย์ และกฎระเบียบเกี่ยวกับการทำธุรกรรมซื้อขายเช่า"
"ในปีนี้ เราสังเกตพบว่า ประเด็นเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม มีบทบาทมากขึ้นในการตัดสินใจใดๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายและการดำเนินแผนงานในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ดังนั้น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยมุ่งเน้นให้มีความยืดหยุ่นและส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ในภูมิภาคนี้ สามารถดึงดูดความสนใจในระยะยาวของทั้งนักลงทุน และผู้เช่า-ใช้อสังหาริมทรัพย์ได้" นายเคาส์กล่าว
ผลการศึกษาของเจแอลแอล แสดงให้เห็นว่า ประเทศและเมืองต่างๆ ของเอเชียแปซิฟิกมีการดำเนินการตามrพันธสัญญาเกี่ยวกับการบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ได้เคยประกาศไว้ ด้วยการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับอาคารสิ่งปลูกสร้างให้สอดรับกับเป้าหมายภาพกว้างเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ทั้งนี้ พบว่า มีการใช้ระบบรับรองมาตรฐานอาคารเขียวและอาคารที่เป็นมิตรต่อสุขภาวะของผู้ใช้อาคารอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยประเทศและเมืองชั้นนำ ได้กำหนดข้อบังคับให้บริษัทต่างๆ มีการรายงายผลการดำเนินการด้านความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และมีการจัดข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอาคารสิ่งปลูกสร้าง
รายงานดัชนีความโปร่งใสตลาดอสังหาริมทรัพย์โลกโดยเจแอลแอล ได้รับการจัดทำและเผยแพร่ทุกๆ สองปี โดยในปีนี้เป็นฉบับที่ 12 ครอบคลุม 154 เมืองใน 94 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก
ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ฟรีที่ http://www.jll.co.th/en/trends-and-insights/research/global-real-estate-transparency-index
ส่องเทคนิคเลือกซื้อ "บ้านมือสอง" อย่างไรให้คุ้มค่า
"CG Capital" Private Equity Fund อันดับ 1 ของประเทศจาก Central Group ทุ่มต่อจิ๊กซอว์กรุงเทพฯ สู่ "World Class City" เตรียมเปิด InterContinental Residences Bangkok Asoke มูลค่า 5,500 ล้านบาท เร็ว ๆ นี้
อนันดาฯ เปิดตัวแคมเปญ ลุยไตรมาส 4 #ดีลใหญ่ย้ายด่วน ช่วงเวลาดีที่สุดย้ายเข้าโครงการพร้อมอยู่ ดีลแรงจัดเต็ม!!! ลดสูงสุด 8 ลบ. รับเงินคืนสูงสุด 4 ลบ.
A5 ตอกย้ำผู้นำตลาดบ้านหรูกรุงเทพกรีฑา เปิดแบรนด์ใหม่ "Cinquieme" Private Pool Villa เดินหน้าลุย 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,130 ล้านบาท ภายในปี 2571
แสนสิริ ผู้นำอสังหาฯ เผยยอดขาย 9 เดือน อยู่ที่ 39,000 ลบ. รุกโค้งสุดท้ายเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่า 18,000 ลบ.
MMM นำเสนอข้อมูลนักวิเคราะห์ ก่อนเสนอขายหุ้น PO 64.20 ล้านหุ้น โชว์ศักยภาพ "ผู้นำด้านการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร"
EnCo ชวนอัปเดตทิศทางอสังหาฯ ไทย ปี 2569 ในงานสัมมนา "Thailand's Real Estate Outlook 2026" ฟรี!
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดกลยุทธ์หนุนธุรกิจ Property Management โตต่อครึ่งปีหลัง โชว์ผลความพึงพอใจลูกค้าทะลุ 90%
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เผยศักยภาพตลาดอสังหาฯ ภาคอีสาน ชู "แกรนดิโอ โคราช-เทอมินอล" (GRANDIO Korat-Terminal) รับดีมานด์โตต่อเนื่อง