FINNOMENA (ฟินโนมีนา) เดินหน้าตอกย้ำการเป็นบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายกองทุนอันดับหนึ่งของเมืองไทย สร้างผลกำไรเติบโต 497.77% เมื่อปี 2564 พร้อมเผยอินไซต์คนไทยสนใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น พบเทรนด์การลงทุนเปลี่ยนไป โดยคนรุ่นใหม่ชอบเลือกด้วยตนเอง หนุนการลงทุนแบบ DIY มาแรงขึ้นแท่นแผนยอดนิยม เตือนตลาดการลงทุนปี 2565 มีความผันผวน ต้องกระจายความเสี่ยง ควรจัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะสม นำเสนอ "Guru Port ลงทุนตามกูรูชั้นนำ" เพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนรับความเสี่ยงจากปัจจัยเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและเงินเฟ้อพุ่ง
นายกสิณ สุธรรมนัส CEO & Co-Founder บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2565 ถือเป็นปีที่ท้าทายของตลาดการลงทุนในทุกๆ ด้าน เนื่องจากมีความผันผวนและปัจจัยเสี่ยงที่รุมเร้าหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว เพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ และหากเงินเฟ้อไม่ชะลอตัวลง ความเสี่ยงของการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะยิ่งสูงขึ้น ดังนั้นในแง่ของการลงทุนจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระจายความเสี่ยงและเพิ่มการตั้งรับในภาพรวมให้เหมาะสม และแม้ว่าบริษัทนายหน้าซื้อขายกองทุนในประเทศไทยจะมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น FINNOMENA (ฟินโนมีนา) ก็ยังสามารถตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งด้วยผลกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2564 สามารถสร้างผลกำไรเติบโตกว่า 497.77% จากปี 2563 ที่มีกำไร 4.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 29.6 ล้านบาท ขณะที่รายได้เติบโตจาก 159.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 466.35 ล้านบาท ในปี 2564 หรือ เพิ่มขึ้น 192.69% ซึ่งจากข้อมูลของผู้ลงทุนบนแพลตฟอร์ม FINNOMENA พบว่าอาชีพที่สนใจลงทุนสูงสุด 52% เป็นพนักงานบริษัทเอกชน รองลงมาเป็นธุรกิจส่วนตัว 12% และข้าราชการ 10% สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจด้านการลงทุนของคนไทย ที่เน้นเป็นกลุ่มคนทำงานมากยิ่งขึ้น และโดยสัดส่วนอายุของนักลงทุนอายุ 30-39 ปี คิดเป็น 35% และอายุ 20-29 ปี คิดเป็น 28% บ่งบอกถึงภาพรวมของเทรนด์การลงทุนที่เปลี่ยนไป โดยแผนการลงทุนยอดนิยมของคนไทยคือ การเลือกลงทุนด้วยตนเอง หรือแบบ DIY ที่มากถึง 40% รองลงมา 20% เป็นการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี และ 10% เป็นการลงทุนเพื่อเป้าหมายเงินเก็บ 1 ล้านบาท
ด้านดร.แอนดรูว์ สต๊อทซ์ นักวิเคราะห์และนักวิจัย ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงการเงินและการลงทุนมากว่า 20 ปี ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้ง A.Stotz Investment Research (ASIR) กล่าวว่า "โครงการ Guru Port ลงทุนตามกูรูชั้นนำ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2562 โดยพอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ได้แก่ พอร์ต A.Stotz All-Weather Strategy ที่ทางตนได้ออกแบบและร่วมพัฒนากับทางฟินโนมีนา ซึ่งจากสำเร็จดังกล่าว นำมาสู่การร่วมกันออกแบบพอร์ตที่ 2 คือ All-Weather Alpha Focus ที่นักลงทุนให้ความสนใจร่วมลงทุนภายใต้คำแนะนำดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 2 พันกว่าล้านบาท และในเร็ว ๆ นี้ กำลังจะร่วมมือกันในการออกแบบพอร์ตการลงทุนที่ 3 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการบริหารความเสี่ยงในสถานการณ์ตลาดที่ผันผวนอย่างเช่นทุกวันนี้"
โดยโครงการ Guru Port ในปีนี้ FINNOMENA ได้ร่วมมือกับกูรูด้านการลงทุน อย่าง Deepscope, BottomLiner และ MacroView นำแนวคิดที่โดดเด่นของแต่ละกูรูมาพัฒนาเป็นพอร์ตการลงทุนทางเลือกสำหรับการตัดสินใจของนักลงทุนในสภาวะที่ตลาดมีความผันผวน ซึ่งแต่ละพอร์ตของทั้ง 3 กูรู จะมีความพิเศษและแตกต่างกันออกไป เพื่อให้นักลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- Guru Port - Growth Momentum AI (GMAI) โดย Deepscope: พอร์ตลงทุนที่เน้นการลงทุนในกองทุนที่ NAV เติบโตเร็วด้วย momentum ผ่านการคัดเลือกโดย AI จาก Deepscope ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนา AI สำหรับการลงทุน
- Guru Port - Optimal Megatrend Opportunities (OMO) โดย BottomLiner: ลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นธีม เมกะเทรนด์ โดยปรับระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ได้รับ ในระดับที่ควบคุมได้
- Guru Port - MRI โดย MacroView: ลงทุนผ่านแนวทางการสแกนกองทุนด้วยปัจจัยเชิง Macro ความเสี่ยง (Risk) และการวิเคราะห์แบบ Induction (MRI)
ในปี 2565 ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความท้าทายของการลงทุน โดยเฉพาะปัจจัยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แม้ว่าขณะนี้หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติกันอีกครั้ง แต่เศรษฐกิจก็อาจจะยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ราคาพลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้น การลงทุนเพื่อลดความผันผวน จำเป็นต้องจัดพอร์ตในภาพรวมให้เหมาะสม โดยผู้ที่สนใจลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/guruport/
KTAM เตรียมจ่ายปันผลและลดทุน กลุ่มกองทุนอสังหาฯ-อินฟราฯ Q3 ปี 68 กว่า 1.1 พันล้านบาท ในวันที่ 15 ธ.ค. และ 25 ธ.ค. นี้
"โกลเบล็ก" จับตา FTSE ประกาศ Rebalance รอบใหม่ 19 ธ.ค.นี้
ออริจิ้น โฮเทล เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 ชูอัตราดอกเบี้ยระหว่าง [6.40 - 6.80]% ต่อปี คาดเปิดจองระหว่างวันที่ 22 - 24 ธันวาคมนี้
FINANSIA เปิดการซื้อขาย DR24 วันแรก 5 หลักทรัพย์ อ้างอิง ETF ชั้นนำระดับโลก หนุนโอกาสลงทุนเมกะเทรนด์ให้คนไทย
KTAM มองโอกาสจากตราสารหนี้ทั่วโลก เสนอขาย "KTWC-INCOME RMF" IPO 11-17 ธ.ค.นี้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
"NTF" หุ้นส่งออกผลไม้สด เผยยอดจอง IPO 60 ล้านหุ้นเกลี้ยง นักลงทุนตอบรับดี มั่นใจเติบโตแข็งแกร่ง พร้อมเข้าเทรด mai เร็วๆนี้
บลจ.ทิสโก้ ปลื้ม ! กองทุน TGSMART กระแสตอบรับดี ประกาศเพิ่มทุนเป็น 4,000 ล้านบาท
EKH อัพไซด์เด่น! Q4/68 กำไรแรงเกินคาด โบรกฯเคาะเป้าราคา 6.90 บ./หุ้น ยิลด์ปันผลเกือบ 5% ต่อปี ธุรกิจแพทย์เฉพาะทาง-โรงพยาบาลในเครือ ดันปี69 เติบโตต่อเนื่อง