การรับรู้และการเปิดกว้างของสังคมกับความหลากหลายทางเพศในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับมากขึ้น เห็นได้จากกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง "Pride Month" หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งได้รับผลตอบรับและเปิดรับความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น โดยผู้บริโภคกลุ่ม LGBTQIA+ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจต่าง ๆ ไม่น้อย ข้อมูลล่าสุดจาก LGBT Capital ณ สิ้นปี 2562 ระบุว่าผู้บริโภคกลุ่ม LGBTQIA+ กว่า 371 ล้านคนทั่วโลก (อายุ 15 ปีขึ้นไป) มีอำนาจการใช้จ่ายรวมกันถึง 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยคิดเป็นผู้บริโภค LGBTQIA+ ชาวไทย 3.6 ล้านคน มีอำนาจการใช้จ่ายอยู่ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ประมาณการส่วนแบ่งความมั่งคั่งในครัวเรือนของผู้บริโภค LGBTQIA+ ชาวไทยยังมีถึง 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 จากที่เคยแตะระดับ 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2560 สะท้อนให้เห็นกำลังซื้อของชาว LGBTQIA+ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องและยังมีพฤติกรรมการใช้เงินในระดับดีอีกด้วย เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย กลายเป็นเป้าหมายที่น่าจับตามองของหลายธุรกิจ
ร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต และร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม เปิดประตูโอกาสเป็นเจ้าของบ้านของกลุ่ม LGBTQIA+
อีกหนึ่งปรากฏการณ์ใน Pride Month ปีนี้คือความเคลื่อนไหวด้านกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีและที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. ... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ …) พ.ศ. ... รวมทั้งร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ …) พ.ศ. … หรือ ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมในวาระที่ 1 ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคกลุ่ม LGBTQIA+ ได้รับสิทธิทางกฎหมายในหลายด้าน แม้จะมีความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับความชัดเจนและความครอบคลุมของเนื้อหาในทางกฎหมายในด้านสิทธิและสวัสดิการบางอย่าง แต่นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าจับตาสำหรับผู้บริโภคกลุ่ม LGBTQIA+ ที่จะมีบทบาทร่วมกันมากขึ้นในการดูแลหรือทำธุรกรรมต่าง ๆ ภายใต้กฎหมายในฐานะคู่สมรส
ด้านการซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นและมีความสำคัญในการเริ่มต้นสร้างครอบครัว แม้ปัจจุบันจะมีธนาคารหลายแห่งที่อนุมัติสินเชื่อบ้านการกู้ร่วมกันระหว่างคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ แต่คาดว่าร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต และร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมนี้จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันให้ธนาคาร/สถาบันการเงินต่าง ๆ พิจารณาและเปิดโอกาสให้คู่รักชาว LGBTQIA+ มีสิทธิขอกู้ร่วมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งมีมาตรการส่งเสริมเฉกเช่นคู่รักชายหญิง ซึ่งการกู้ร่วมนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้คู่รักชาว LGBTQIA+ ยื่นกู้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในวงเงินที่สูงขึ้น และเลือกบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้มากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคาร/สถาบันการเงินหลายแห่งไม่สามารถให้สินเชื่อแก่ผู้กู้ร่วม LGBTQIA+ ได้ โดยให้เหตุผลสอดคล้องกันว่า ผู้กู้ร่วมนั้นจะต้องเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกัน คือเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์ร่วมเชื้อสายเดียวกัน หรือเป็นชายหญิงที่เป็นคู่สมรสกันนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้คู่รัก LGBTQIA+ ต้องใช้สินเชื่อประเภทอื่นในการซื้อที่อยู่อาศัย โดยการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจหรือ SME โดยคู่รัก LGBTQIA+ สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อสินทรัพย์ถาวรเพื่อประกอบกิจการได้ เช่น สถานประกอบการพร้อมที่ดิน หรือที่ดินเปล่าเพื่อใช้ดำเนินกิจการ แต่การกู้โดยใช้สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME นั้นจะให้ช่วงระยะเวลากู้นานสุดเพียง 10 ปีเท่านั้น ซึ่งสั้นกว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งให้ระยะเวลาผ่อนสูงสุดถึง 30 ปี นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME นั้นยังมีอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอีกด้วย
นอกจากนี้ ปัจจุบันบางธนาคาร/สถาบันการเงินเปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQIA+ สามารถกู้ร่วมได้ แต่มีรายละเอียดบางอย่างแตกต่างจากการกู้ร่วมของคู่รักชายหญิง เช่น กู้ได้เพียง 90% ของมูลค่าที่อยู่อาศัย เป็นต้น คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ธนาคาร/สถาบันการเงินจะมีมาตรการออกมารองรับผู้กู้ร่วมที่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น และมีการประเมินความเสี่ยงของผู้กู้ร่วมชาว LGBTQIA+ อย่างเท่าเทียมกับคู่รักเพศชายและเพศหญิง
คู่รักชาว LGBTQIA+ กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่าน
ปัจจุบันมีหลายธนาคารที่เปิดโอกาสให้คู่รักชาว LGBTQIA+ กู้ร่วมซื้อบ้านได้เช่นเดียวกับคู่รักต่างเพศ โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นค่อนข้างคล้ายคลึงกัน เช่น
- มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
- มีรายได้มั่นคง โดยมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ทั้งผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม (บางธนาคารกำหนดให้ผู้กู้หลักมีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป)
- พนักงานประจำต้องมีอายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป (บางธนาคารไม่มีกำหนด)
- ผู้กู้ต้องมีเอกสารหรือหลักฐานแสดงความสัมพันธ์หรือการอยู่ร่วมกันอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี ตามที่ธนาคารกำหนด เช่น ทะเบียนบ้านที่อยู่ด้วยกัน, บัญชีเงินฝากที่เปิดร่วมกัน เป็นต้น (บางธนาคารไม่มีกำหนด)
นอกจากนี้ยังต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามปกติ คือต้องมีภาระหนี้ไม่เกิน 30-40% ของรายได้ มีเงินออมอย่างน้อย 10% ของราคาที่อยู่อาศัย รวมทั้งมีบันทึกการเคลื่อนไหวบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน หากมีการเตรียมตัวเบื้องต้นให้พร้อมตามรายละเอียดต่าง ๆ ข้างต้น ก็จะช่วยให้การกู้ซื้อบ้านของชาว LGBTQIA+ ลุล่วงไปได้ด้วยดี
เมื่อเทรนด์ที่อยู่อาศัยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเพศสภาพ บ้านแบบไหนตอบโจทย์
ความต้องการที่อยู่อาศัยถือเป็นเทรนด์ที่ปราศจากเพศ (Genderless) และปัจจัยที่ผู้บริโภคกลุ่ม LGBTQIA+ ใช้เมื่อเลือกที่อยู่อาศัยก็ไม่ต่างจากผู้บริโภคเพศชายและหญิงเลย เนื่องในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศนี้ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ชวนมาอัปเดตเทรนด์ที่อยู่อาศัยที่น่าจับตามอง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งรวมถึงชาว LGBTQIA+
- บ้านที่ใช่ต้องมีขนาดเหมาะสม ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด เผยว่า เมื่อค้นหาที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเพื่อซื้อหรือเช่า ปัจจัยภายในที่ผู้บริโภคชาวไทยเกือบครึ่ง (49%) ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ขนาดของที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากให้ความสำคัญกับการแบ่งพื้นที่ใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกกิจกรรม ตามมาด้วยที่อยู่อาศัยจะต้องมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน (46%) นอกจากนี้ ยังมองหามาตรการหรือโครงการที่จะช่วยให้มีบ้านเป็นของตัวเองง่ายขึ้น (37%)
- ทำเลปัง เดินทางง่าย ตอบโจทย์ Social Life ด้านปัจจัยภายนอกที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ เมื่อผู้บริโภคชาวไทยตัดสินใจซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยนั้น มากกว่าครึ่งให้ความสำคัญไปที่ทำเลที่ตั้งโครงการ (52%) ที่จำเป็นต้องอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งความเจริญ ช่วยให้การใช้ชีวิตทุกวันง่ายขึ้น ตามมาด้วยสามารถเดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ (51%) เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเดินทางเมื่อไปทำงานหรือสังสรรค์ใจกลางเมือง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังมองว่า โครงสร้างพื้นฐาน/สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ถือเป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญในการพิจารณาไม่แพ้กัน (สัดส่วนเท่ากันที่ 43%) เนื่องจากเป็นปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัย การเดินทาง รวมไปถึงรองรับการใช้ชีวิตเมื่อพบปะสังสรรค์ หรือทำกิจกรรมกับเพื่อนและครอบครัว
- อุ่นใจเมื่ออยู่ใกล้หมอ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลในการพิจารณาเลือกที่อยู่อาศัยคือความสะดวกในการเดินทางไปสถานพยาบาล โดยเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคต่างหันมาตระหนักถึงความสำคัญของการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เพิ่มความอุ่นใจไปอีกขั้น คือการมีที่อยู่อาศัยที่ไม่ไกลจากสถานพยาบาล เอื้อต่อการวางแผนดูแลสุขภาพในระยะยาว โดยมากกว่า 4 ใน 5 ต้องการที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลมากที่สุด (88%) ตามมาด้วยอยู่ใกล้ร้านขายยา (45%) และใกล้ศูนย์บริการสุขภาพเฉพาะทาง (37%)
- ดูแลบ้านง่ายแค่ปลายนิ้วด้วยระบบ Smart Home เทรนด์บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) ได้รับความสนใจมากขึ้นและเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี จากการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยสามารถควบคุมการทำงานระบบต่าง ๆ ตั้งแต่ความปลอดภัย หรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านผ่านการเชื่อมต่อด้วยระบบดิจิทัลและ Internet of Things (IoT) ให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงหรือจากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ช่วยยกระดับความปลอดภัยให้ที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นกลอนประตูดิจิทัล (Digital Door Lock) หรือกล้องวงจรปิดที่รองรับการรับชมภาพออนไลน์ได้ตลอดเวลาบนสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านผ่านสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
แม้ร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต และร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมจะต้องรอติดตามความชัดเจนต่อไปในการพิจารณาวาระอื่น ๆ แต่ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของสังคมไทยกับความเสมอภาคทางเพศที่คาดว่าในอนาคตจะมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีสถาบันการเงินหลายแห่งที่ออกมาตรการสนับสนุนการยื่นกู้สินเชื่อร่วมกันสำหรับคู่รักชาว LGBTQIA+ ที่ต้องการกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้าน ทั้งนี้เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย อย่างดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (www.ddproperty.com) ได้รวบรวมข้อมูลข่าวสารล่าสุดและเรื่องราวน่ารู้ในแวดวงอสังหาฯ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ พร้อมเป็นแหล่งรวมประกาศซื้อ-ขาย-เช่าที่อยู่อาศัยในหลากหลายทำเลทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยสามารถศึกษาหาข้อมูลเรื่องที่อยากรู้ เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อให้เป็นเจ้าของบ้านได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
รู้จักกับ DDproperty
DDproperty (ดีดีพร็อพเพอร์ตี้) เป็นเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทยที่มียอดผู้เข้าชมและใช้บริการบนเว็บไซต์กว่า 3.5 ล้านรายต่อเดือน ด้วยตัวเลือกอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบรวมกว่า 700,000 รายการ DDproperty ได้รับการโหวตให้เป็นเว็บไซต์ค้นหาอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ยอดเยี่ยม (Top Brand in Online Property Search) ที่ช่วยให้คนไทยค้นหาและพบกับบ้านที่ "ใช่" สำหรับตัวเอง DDproperty เป็นเว็บไซต์ในเครือ PropertyGuru Group (พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป) ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชีย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ www.DDproperty.com; www.PropertyGuruGroup.com รวมไปถึงช่องทางโซเชียล มีเดียของเรา ได้แก่ Facebook, Instagram, YouTube, และ Linkedin
รู้จักกับ PropertyGuru Group
พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป (NYSE: PGRU) เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้* ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ค้นหาบ้านกว่า 38 ล้านราย#เข้าเยี่ยมชมและใช้บริการบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ภายใต้การบริหารของบริษัทในแต่ละเดือน พร็อพเพอร์ตี้กูรูและบริษัทในเครือช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทั่วภูมิภาคได้เข้าถึงรายการประกาศขาย-เช่าที่มีมากกว่า 3.3 ล้านรายการ อีกทั้งยังมีข้อมูลเชิงลึกและโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคในสิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, อินโดนีเซีย และเวียดนาม ใช้ประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญได้อย่างมั่นใจ
PropertyGuru.com.sg เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 2550 นับเป็นการปฏิวัติตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ด้วยการนำระบบออนไลน์เข้ามาใช้และช่วยให้การหาบ้านมีความโปร่งใสมากขึ้น ในช่วงเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้พัฒนาและเติบโตจากสื่ออสังหาฯ ชั้นนำของภูมิภาคมาเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง มีเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาฯ อันดับ 1 อยู่ภายใต้การบริหาร มีแอปพลิเคชั่นที่มีรางวัลเป็นเครื่องการันตีคุณภาพ มีแพล็ตฟอร์มที่ดีที่สุดเพื่อช่วยส่งเสริมการขายให้กับผู้พัฒนาอสังหาฯ อย่าง FastKey, เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านสินเชื่อบ้าน PropertyGuru Finance อีกทั้งยังมีบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ ที่สำคัญ ๆ อาทิ การจัดงานแจกรางวัลด้านอสังหาฯ กิจกรรมส่งเสริมการตลาด รวมไปถึงสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วภูมิภาคเอเชีย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ PropertyGuruGroup.com; PropertyGuru Group on LinkedIn.
*แหล่งข้อมูลอ้างอิง SimilarWeb
หลักสูตรไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์ สู่อาชีพสร้างรายได้ คืนความเท่าเทียมผู้พิการ ความสำเร็จจากโครงการ Heart to Heart โดย อำพลฟูดส์ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
หลักสูตรไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์ สู่อาชีพสร้างรายได้ คืนความเท่าเทียมผู้พิการ ความสำเร็จจากโครงการ Heart to Heart โดย อำพลฟูดส์ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ DKSH ประเทศไทย สานต่อโครงการ 'Patient Purpose Day 2025' ระดมทุนตรวจคัดกรองมะเร็งเพื่อผู้หญิงไทย
ร่วมสร้างโลกแห่งความเท่าเทียมในงาน 'วันภาษามือโลกและสัปดาห์คนหูหนวกโลก 68'
แสนสิริ ผู้บุกเบิกและยืนหยัดเพื่อความเท่าเทียมในสังคม คว้ารางวัล Best Social Movement of the Year
ITEL คว้ารางวัล CSR Award 2025 ตอกย้ำจุดยืนในการสร้างความเท่าเทียม ผ่านแนวคิด "การนำเทคโนโลยี มาพัฒนาประเทศไทย"
TILFF ดัน "ซีรีส์วายไทย" แรงไม่หยุด! หนุนเกิด Business Matching กว่า 300 ครั้งจากกว่า 50 บริษัท ตอกย้ำศักยภาพคอนเทนท์ไทย เป็นที่ต้องการระดับโลก
เข้าพักกับ IHG และร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในเดือนกันยายนนี้
TILFF 2025 กลับมาอีกครั้ง ชวนทุกคนกลับ "บ้าน" หลังใหญ่ที่ชื่อว่าความเท่าเทียม