ม.มหิดล ส่งเสริมการใช้ภาษาและวัฒนธรรม เปลี่ยนโลกที่แตกต่างสู่ความเป็นหนึ่งเดียว ด้วยนวัตกรรมMU Thai Test

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ปัจจุบัน "สังคมพหุวัฒนธรรม" เป็นเรื่องที่ทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัวในความหลากหลาย โดยมีภาษาและวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ความแตกต่างกลายเป็นหนึ่งเดียว

ม.มหิดล ส่งเสริมการใช้ภาษาและวัฒนธรรม เปลี่ยนโลกที่แตกต่างสู่ความเป็นหนึ่งเดียว ด้วยนวัตกรรมMU Thai Test

รองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญจิต ศศิวงศาโรจน์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย (RILCA) มหาวิทยาลัยมหิดล คือ หนึ่งในความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้ทุ่มเทเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ศึกษาวิจัยและส่งเสริมการใช้กลไกทางภาษาและวัฒนธรรมเพื่อความเสมอภาคในความหลากหลายของสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ขยายวงกว้างออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มแรงงานต่างชาติ ม.มหิดล ส่งเสริมการใช้ภาษาและวัฒนธรรม เปลี่ยนโลกที่แตกต่างสู่ความเป็นหนึ่งเดียว ด้วยนวัตกรรมMU Thai Test

ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา ที่เริ่มมีคลื่นประชากรแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านไหลเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นับจากรุ่นแรกซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานทั่วไปที่พบมากในภาคการประมง และเกษตรกรรม ที่ใช้แรงงานเป็นหลัก

มาถึงรุ่นลูกหลาน พบว่าการประกอบวิชาชีพของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมีทิศทางเปลี่ยนไป โดยมุ่งสู่ภาคบริการที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสารเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทางสังคม และการเข้าถึงสวัสดิการที่จำเป็นจากภาครัฐ ซึ่งรวมถึงด้านสุขภาพ การเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทยให้รู้จริงจึงกลายเป็นความจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต พัฒนาทักษะในการทำงาน และโอกาสในการจ้างงานที่หลากหลายมากขึ้น

สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย (RILCA) มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้สร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรม"MU Thai Test" เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคทางภาษาในกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งรวมถึงกลุ่มแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย เพื่อใช้วัดประเมินความสามารถในการฟังพูด อ่าน และเขียนภาษาไทย

ในเบื้องต้น "MU Thai Test" ได้นำไปใช้ทดสอบกลุ่มผู้อพยพจากประเทศเมียนมาที่เป็นลูกหลานแรงงานที่เรียนในระดับประถมและแรงงานต่างชาติที่เรียนหลักสูตรนอกระบบของไทย (กศน.) ซึ่งการทดสอบได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักเรียนและแรงงานต่างชาติที่ต้องการทราบระดับความสามารถทางภาษาไทยของตนเอง เพื่อการพัฒนาทักษะทางภาษา และใช้ในการสมัครงาน รวมทั้งสถานศึกษาที่นำผลการทดสอบไปพัฒนาการเรียนการสอนภาษาให้กับแรงงานต่างชาติอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

"นวัตกรรมทางภาษาที่พัฒนาขึ้น ช่วยสนับสนุนนโยบายภาษาแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและศักดิ์ศรีของมนุษย์โดยไม่กีดกันด้านเชื้อชาติครอบคลุมไปถึงคนทุกกลุ่มในสังคมไทย รวมทั้งผู้ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยให้มีทักษะการใช้ภาษาไทย หรือเพื่อการสื่อสารในการดำรงชีวิต"

"นอกจากนี้ ยังตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ข้อที่ 3 ว่าด้วยการมีสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน และข้อที่ 10 ว่าด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากภาษาเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงบริการและสวัสดิการต่าง ๆ เป็นบันไดขั้นสำคัญที่ช่วยให้ก้าวสู่ความเท่าเทียม" รองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญจิต ศศิวงศาโรจน์ กล่าว

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรพล วิบูลยศริน รองผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา บริการวิชาการ และสื่อสารองค์กร และอาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาและการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม สถาบัน RILCA มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวเพิ่มเติมในฐานะผู้พัฒนา(Developer) นวัตกรรม "MU Thai Test" ซึ่งใช้ในการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาไทยของกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นครั้งแรกว่า ถือเป็นโอกาสที่ทางสถาบันฯ จะได้นำองค์ความรู้อันเป็น "ปัญญาของแผ่นดิน" เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมพหุวัฒนธรรม

โดยในเบื้องต้นได้พัฒนา  "MU Thai Test" เพื่อใช้ทดสอบแบบ Paper-based หรือทดสอบ ณ สถานที่ตั้ง (Onsite) โดยพบว่าในการทดสอบส่วนของการฟัง ผู้เข้ารับการทดสอบที่เป็นกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นชินกับเสียงภาษาไทยที่หลากหลาย จึงส่งผลให้ยังไม่สามารถทำคะแนนได้ดีเท่าที่ควร ทีมวิจัยจึงได้นำfeedback ดังกล่าวมาปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น

และต่อไปจะได้ขยายประโยชน์สู่การทดสอบในแบบInternet-based ในลักษณะของการทดสอบบนระบบออนไลน์ โดยเตรียมหารือร่วมกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เพื่อพัฒนาสู่การเป็น "ศูนย์ทดสอบภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ" ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับต่อไป

ไม่ว่าโลกในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด อย่าปล่อยให้ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรมกลายเป็นจุดอ่อน และเป็นบ่อนทำลายความสมานฉันท์ของสังคม เพียงเปิดใจยอมรับและเปลี่ยนความต่างให้เป็นพลังบวก โลกทั้งใบก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียว

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th


ข่าวขวัญจิต ศศิวงศาโรจน์+มหาวิทยาลัยมหิดลวันนี้

จุฬาฯ - มหิดลผนึกความร่วมมือถ่ายทอดเทคโนโลยี "AnthoRice(TM) Complex" นวัตกรรมเซรั่มบำรุงรากผมจากสารสกัดข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ของไทย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลยกระดับ "AnthoRice(TM) Complex From Thai Soil to Global Science" นวัตกรรมเซรั่มบำรุงรากผมจากสารสกัดข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ของไทย ผสานเทคโนโลยี StemAktiv(R) ผลงานการวิจัยโดยอาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งผ่านการวิจัยและตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ เตรียมเข้าสู่การทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัคร ที่โรงพยาบาลศิริราชในปีหน้า ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเปิดงานแถลงข่าวและ

เตรียมลงทุน Medical AI การแพทย์สมุนไพรมูล... รับมือ Future Trend 2026 "ม.มหิดล" เดินหน้าเปิดแผน Medical Disruption ทุ่ม 3,000 ล้านบาท — เตรียมลงทุน Medical AI การแพทย์สมุนไพรมูลค่าสูง โรงงานยาที่มีชี...

สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครั... มหิดล-Dow ผนึกกำลังยกระดับสมองเด็กไทย สร้างทักษะ EF ปูรากฐานสู่อนาคตที่ยั่งยืน — สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และกลุ่มบริษั...

เชิญร่วมงานเสวนาเปิดตัวหนังสือ "ธรรมดา แต่ไม่สามัญ: ผู้หญิงเมียนมากับชีวิตย้ายถิ่นข้ามชาติในประเทศไทย"

โครงการพหุวัฒนธรรมอาเซียน สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญร่วมงานเสวนาเปิดตัวหนังสือ "ธรรมดา แต่ไม่สามัญ : ผู้หญิงเมียนมากับชีวิตย้ายถิ่นข้ามชาติในประเทศไทย" ในวันอังคารที่...