Dyson เดินหน้าสู่เทคโนโลยีเครื่องเสียง ส่ง Dyson Zone หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active วางขายปีหน้า

08 Dec 2022

  • Dyson Zone(TM) หูฟังระบบ Active Noise Cancelling มอบเสียงเต็มคุณภาพ คมชัด สมจริง แบบไม่สูญเสียคุณภาพเสียง มาพร้อมระบบ Noise Cancellation ที่ทรงพลัง ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง1
  • Active Noise Cancelling: ใช้ไมโครโฟน 8 จาก 11 ตัวภายในเครื่อง เพื่อลดเสียงรบกวนสูงสุดถึง 38 เดซิเบล พร้อมความสามารถในการตรวจสอบเสียงรอบข้างได้มากถึง 384,000 ครั้งต่อวินาที
  • ให้เสียงเต็มแบบเต็มสเป็กตรัม: Dyson Zone(TM) ให้เสียงได้ในย่านความถี่ที่ 6Hz - 21kHz เพื่อให้มั่นใจได้ว่าดนตรีทุกโน๊ตสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
  • เสียงแบบไม่ผิดเพี้ยน: ทั้งไดร์เวอร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเครื่องกล วัสดุที่ใช้ ล้วนแล้วแต่ออกแบบมาอย่างดีเพื่อลดการผิดเพี้ยนของเสียง โดยเทคโนโลยีสัญญาณอัจฉริยะที่ทำงานถึง 48,000 ครั้งทำให้ได้เสียงที่สมดุล ผนวกกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ทำหน้าที่ลดการผิดเพี้ยนของเสียงในทุกย่านความถี่
  • มาพร้อมระบบกรองอากาศทรงประสิทธิภาพที่สามารถต่อสู้ปัญหามลภาวะได้ในทุกที่: หน้ากากแบบถอดได้ ออกแบบมาเพื่อส่งกระแสอากาศบริสุทธิ์ไปยังจมูกละปากของผู้สวมใส่ มาพร้อมตัวกรองประจุไฟฟ้าสามารถดักจับฝุ่นละออกได้มากสุดที่ 99% ขนาดเล็กสุดถึง 0.1 ไมครอน ในขณะที่ไส้กรอง K-Carbon เคลือบโพแทสเซียมทำหน้าที่ดักจับก๊าซมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมภายในเมือง
  • ออกแบบโดยวิศวกรเพื่อให้สวมใส่สบาย: Dyson ได้ทดลองและทดสอบ Dyson Zone(TM) กับศีรษะหลากหลายขนาดและรูปแบบ ทำให้ได้หูฟังแบบครอบหูที่ใส่สบายและส่งเสริมประสบการณ์ฟังสำหรับทุกคน
  • รองรับการสนทนา ด้วยเทคโนโลยีบีมฟอร์มมิงไมโครโฟนคู่และการตัดเสียงรบกวน ทำให้ Dyson Zone(TM) สามารถสนทนา อัดเสียง และควบคุมด้วยเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Dyson เดินหน้าสู่เทคโนโลยีเครื่องเสียง  ส่ง Dyson Zone หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active วางขายปีหน้า

Dyson เผยข้อมูลล่าสุดของ Dyson Zone(TM) หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active โดยจะวางขายในประเทศจีน เดือนมกราคมปีหน้า และวางขายในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และสิงคโปร์ หลังจากประกาศอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Dyson Zone(TM) กลับมาพร้อมข้อมูลรายละเอียดในการเป็นหูฟังที่มอบประสบการณ์การฟังเพลงแบบอิมเมอร์ซีฟที่มาพร้อมความสามารถในการกรองอากาศ

ด้วยการวิจัยและพัฒนากว่า 6 ปี Dyson Zone(TM) สามารถให้เสียงเต็มคุณภาพ คมชัด สมจริง ได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนอันทรงพลัง และการทำสำเนาเสียงที่แม่นยำ เต็มสเป็กตรัม มาพร้อมกับความสามารถในการกรองอากาศ สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กสุดที่ 0.1 ไมครอน และตัวกรอง K-Carbon เคลือบโพแทสเซียมที่ทำหน้าที่ดักจับก๊าซมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมในเมือง เช่นไนโตรเจนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกแบบมาเพื่อปกป้องคุณจากมลพิษในตัวเมืองทุกรูปแบบ

ประชากรของโลกจำนวนมากกว่าครึ่งอาศัยอยู่ในตัวเมือง โดยคาดว่าสัดส่วนของคนที่อาศัยในตัวเมืองจะอยู่ที่ 7 ใน 10 ภายในปี 2050 แน่นอนว่าเมื่อประชากรในเมืองขยายตัว โครงข่ายสาธารณูปโภคต่างๆ ก็เติบตัวควบคู่ไปด้วย ทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของการขนส่ง การก่อสร้าง การเดินทาง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสภาพแวดล้อมภายในเมืองทั้งมลภาวะทางอากาศและมลภาวะทางเสียง ตัวอย่างเช่น

  • ชาวนิวยอร์คจำนวน 90% โดยประมาณที่เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะมักพบเจอกับมลภาวะทางเสียงที่มีความดังเกินค่าที่แนะนำ ในขณะที่ประชากรในสหภาพยุโรปจำนวน 1 ใน 5 ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียง
  • 99% ของประชากรโลกอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีค่ามลภาวะสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ
  • ในหลายภูมิภาคปัญาหามลภาวะทางอากาศไม่ได้เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ตัวอย่างเช่นในทวีปยุโรป เอเชียตะวันตก และแอฟฟริกา ตามรายงานของโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ สาเหตุหลักของมลภาวะทางอากาศเกิดจากฝุ่นขนาดเล็กที่เกิดจากกระแสลม

Dyson Zone(TM) จะมาแก้ไขปัญหาได้อย่างไร?
Dyson Zone(TM) หูฟังกรองอากาศถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับปัญหามลภาวะในตัวเมืองทั้งเสียงรบกวนและมลพิษในอากาศ ด้วยขุมพลังจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และระบบชาร์จ USB-C Dyson Zone สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมงเมื่อใช้เฉพาะตัวหูฟัง หรือใช้ได้สูงสุดถึง 4 ชั่วโมงเมื่อใช้ทั้งหูฟังและเครื่องกรองอากาศพร้อมกัน โดยสามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 3 ชั่วโมง

Dyson Zone(TM) หูฟังกรองอากาศชิ้นนี้เกิดจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 30 ปี ด้านการไหลของอากาศ การกรอง และมอเตอร์ ของ Dyson และความเข้าใจเชิงลึกเรื่องคุณภาพอากาศทั้งภายในและภายนอกอาคาร การทำงานของเครื่องกรองอากาศจะอาศัยคอมเพรสเซอร์บริเวณฝาครอบหูทั้งสองข้างในการนำอากาศเข้ามาสู่เครื่องผ่านตัวกรองสองชั้นและปล่อยกระแสอากาศบริสุทธิ์ไปยังจมูกและปากของผู้สวมใส่ผ่านกะบังหน้าแบบไร้สัมผัส ในส่วนของตัวกรองจะประกอบด้วยตัวกรองประจุไฟฟ้าที่สามารถดักจับอนุภาคได้ขนาดเล็กสุดที่ 0.1 ไมครอน ในขณะที่ตัวกรอง K-Carbon ที่เคลือบโพแทสเซียมทำให้สามารถดักจับก๊าซมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมในเมือง เช่นไนโตรเจนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์

Dyson Zone(TM) ออกแบบมาเพื่อมอบเสียงที่คมชัด สมจริง โดยสูญเสียคุณภาพเสียงน้อยที่สุด ครอบคลุมทุกย่านเสียงทั้งต่ำ กลาง สูง นอกจากนั้นยังสามารถใช้คุยโทรศัพท์ อัดเสียง และรับคำสั่งเสียงได้ด้วย ไมโครโฟนสำหรับการสนทนาจะทำงานร่วมกับไมโครโฟนที่ใช้ในฟังก์ชัน ANC ในการบีมฟอร์มมิ่ง ซึ่งทำให้สามารถรับเสียงพูดจากผู้สวมใส่ได้โดยป้องกันเสียงรบกวนจากทั้งด้านข้างและด้านหลังของผู้สวมใส่ได้
?
Dyson บนเส้นทางของวิศวกรรมด้านเสียงที่แตกต่าง
Dyson Zone(TM) มอบประสบการณ์การฟังเพลงแบบอิมเมอร์ซีฟ โดยถึงแม้ผู้พัฒนาเครื่องเสียงส่วนมากในตลาดมักจะใช้ Golden Listener ในการทดสอบเครื่องเสียง บุคคลที่ได้รับการฝึกให้ฟังและจำแนกเสียงเหล่านี้จะเป็นผู้กำหนดว่าเสียงแบบไหน เป็นเสียงที่ "ดี" แต่วิศวกรของ Dyson ต้องการที่จะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการวิจัยและยืนยันผลลัพธ์ด้วยการขยายกลุ่มคนในการทดสอบไปมากกว่าเหล่า Golden Listener

  • ออกแบบมาเพื่อมอบเสียงที่ผิดเพี้ยนน้อยที่สุด: ทั้งไดร์เวอร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเครื่องกล วัสดุที่ใช้ ล้วนแล้วแต่ออกแบบมาอย่างดีเพื่อลดการผิดเพี้ยนของเสียง โดยเทคโนโลยีสัญญาณอัจฉริยะที่ทำงานถึง 48,000 ครั้งทำให้ได้เสียงที่สมดุล ผนวกกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ทำหน้าที่ลดการผิดเพี้ยนของเสียงในทุกย่านความถี่
  • ระบบตัดเสียงแบบ Active ทรงประสิทธิภาพ: ใช้ไมโครโฟน 8 จาก 11 ตัวภายในเครื่องเพื่อตรวจสอบเสียงรอบข้างได้มากถึง 384,000 ครั้งต่อวินาที ทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนได้มากสุดที่ 38 เดซิเบล ตั้งแต่ 20Hz ถึง 20kHz
  • เสียงสมจริง เต็มสเป็กตรัม: Dyson Zone สามารถทำสำเนาเสียงได้ในย่าน 6Hz ถึง 21kHz เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสามารถมอบเสียงได้ครบทุกโน๊ต ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายในการทำสำเนาเสียงให้ตรงกับเรนจ์เสียงของคนพูด ดังนั้นการที่ Dyson Zone สามารถทำสำเนาเสียงในย่านที่เหนือการรับรู้ของบุคคล ทำให้เราสามารถมอบเสียงที่คมชัด และสมจริง เก็บครบทุกสเป็กตรัมเสียง โดยเรนจ์เสียงที่กว้างเกิดจากระบบวิศวกรรมอิเล็กโทรอคูสติก และส่วนประกอบหลักได้แก่ สปีคเกอร์ไดร์เวอร์ นิโอดิเมี่ยม ขนาด 40 มม. 16 โอห์ม
  • ปรับแต่งมาเพื่อให้ได้ยินครบทุกเสียง: ขับเคลื่อนด้วยมาตรวัดทางวิทยาศาสตร์และยืนยันด้วยการทดสอบโดยกลุ่มคนที่หลากหลาย วิศวกรของ Dyson สามารถระบุย่านเสียงที่สามารถมอบเสียงที่คมชัดและสมจริงที่สุดได้ และด้วยการตั้งค่า EQ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่ชัดเจน
  • สัมผัสประสบการณ์การฟังแบบสบาย: ไม่มีศีรษะไหนที่เหมือนกันแบบ 100% ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เองทำให้ความสบายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่งผลในการออกแบบทั้งแรงกดของที่ครอบหัว รูปทรงและวัสดุของกะบังหน้าแบบถอดได้ การปรับแต่งอุปกรณ์ และอีกมากมาย โดยโฟมครอบหูถูกออกแบบมาให้แบรนกว่าหูฟังแบบปกติเพื่อลดเสียงจากภายนอก โดยทำองศาเพื่อสอดรับกับบริเวณหูเพื่อความสบายสูงสุด

เสียงคมชัดในทุกสถานการณ์จริง
มีประชากรทั่วโลกจำนวนกว่า 190 ล้านคนที่เดินทางโดยรถไฟใต้ดิน ที่ทำให้ผู้เดินทางถูกสัมผัสโดยมลภาวะทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และ PM10 ซึ่งในบางประเทศอากาศในรถไฟใต้ติดมีฝุ่นละอองมากกว่าบนถนน

ระบบเซนเซอร์ การเชื่อมต่อ และการพัฒนาแอปพลิเคชัน
ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) คือหนึ่งในก๊าซมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ที่เกิดจากทั้งรถยนต์และการก่อสร้าง และยังมีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ที่พบได้บ่อยที่สุดในตัวเมือง โดยตัวกรองคาร์บอนเคลือบโพแทสเซียมถูกออกแบบมาเพื่อดักจับแก๊ซเหล่านี้ เพื่อต่อสู้กับปัญหามลภาวะทางอากาศในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นใน Dyson Zone(TM) ยังมีเซนเซอร์ที่คอยวัดระดับไนโตรเจนไดออกไซด์และระดับมลพิษทางเสียงแบบเรียลไทม์และแสดงผลผ่านแอปฯ MyDyson(TM) นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์แบบเดียวกับที่เครื่องฟอกอากาศของ Dyson ทำได้ด้วยการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้สวมใส่และให้คำแนะนำด้านสุขภาพ หนึ่งในฟังก์ชันของ Dyson Zone(TM) คือการที่สามารถปรับระดับความแรงของอากาศได้อัตโนมัติเมื่อเปิดโหมด Auto และสวมกะบังหน้า ระบบตรวจจับศีรษะจะเปิดเครื่องในโหมด Standby เมื่อไม่ได้สวม และเมื่อถอดกะบังหน้าจะเข้าสูโหมดพูดคุยอัตโนมัติ ทำการปิดเครื่องกรองอากาศ และหยุดเพลง ทำให้สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

MyDyson(TM) สามารถใช้เพื่อควบคุม Dyson Zone(TM) ปรับความเร็วของกระแสลม และเปิด-ปิดระบบตัดเสียงรบกวน รวมไปถึงปรับการตั้งค่า EQ ได้ตามความต้องการ โดยสามารถเลือกจาก 3 โหมด Dyson EQ (คุณภาพเสียงสูง) Bass Boost (เน้นเบส) และ Neutral (flatter response curve) นอกจากนั้นใน MyDyson(TM) ยังสามารถปรับเสียงรวมถึงรับคำแนะนำเรื่องสุขภาพของหูได้ด้วย

Dyson Zone(TM) หูฟังกรองอากาศถูกออกแบบโดยทีมวิศวกรจากทั้งสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน โดยสำนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ การพัฒนาแอปฯและการบูรณาการถือเป็นโครงการที่สำคัญที่จะมีส่วนช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างราบลื่น และมอบฟีเจอร์ในการติดตามมลภาวะทั้งทางเสียงและอากาศอย่างชาญฉลาด

เช่นเดียวกันกับเครื่อง Dyson ทุกเครื่อง Dyson Zone(TM) หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active ถูกทดสอบอย่างถึงที่สุด ทั้งในห้องควบคุมอุณหภูมิ ทดสอบการตกจากที่สูง ทดสอบการสึกหรอของวัสดุ ทดสอบความทนทานของปุ่ม และอีกมากมาย โดยผู้ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากคือเหล่าวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบที่ Dyson Malaysia Development Centre ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งทำให้สามารถทดลองสวมใส่ได้ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นนอกเหนือจากห้องปฏิบัติการในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีการทดสอบในผู้ใช้จริงในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน และสิงคโปร์

Dyson Zone(TM) หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active จะเปิดตัวในปี 2023 ในบางภูมิภาคเท่านั้น โดยระยะเวลาการวางจำหน่ายจะแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยทาง Dyson จะแจ้งให้ทราบเมื่อใกล้ถึงเวลาจัดวางขาย โดยสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม และลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ Dyson.co.th

Dyson เดินหน้าสู่เทคโนโลยีเครื่องเสียง  ส่ง Dyson Zone หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active วางขายปีหน้า
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit