วช. หนุนทีมวิจัย เอ็นเทค สวทช.พัฒนาเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับบำบัดมูลฝอยติดเชื้อภายในสถานประกอบการด้านสาธารณสุข

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

วช. หนุนทีมวิจัย เอ็นเทค สวทช.พัฒนาเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับบำบัดมูลฝอยติดเชื้อภายในสถานประกอบการด้านสาธารณสุข สามารถลดการนำเข้าเทคโนโลยีและสารเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปริมาณขยะติดเชื้อ สร้างความตระหนักในการบริหารจัดการขยะติดเชื้อในสถานพยาบาลในแต่ละจังหวัดได้

วช. หนุนทีมวิจัย เอ็นเทค สวทช.พัฒนาเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับบำบัดมูลฝอยติดเชื้อภายในสถานประกอบการด้านสาธารณสุข

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ขยะเป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศ หากไม่ได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธี จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ทั้งนี้ ในช่วงที่ประเทศไทยรวมถึงทั่วโลกประสบกับปัญหาวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ในสถานประกอบการด้านสาธารณสุขต่าง ๆ มีขยะติดเชื้อรวมถึงเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่สัมผัสเชื้อก่อโรคเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีการบำบัดอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงสนับสนุนทุนวิจัยประจำปี 2563 ให้กับโครงการ "การพัฒนาชุดผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีสารประกอบคลอรีนเป็นส่วนประกอบด้วยวิธีทางไฟฟ้าเคมี สำหรับบำบัดมูลฝอยติดเชื้อภายในสถานประกอบการด้านสาธารณสุข" ซึ่งมี ดร.สมศักดิ์ สุภสิทธิ์มงคล จากศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหัวหน้าโครงการ เพื่อพัฒนาต้นแบบเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม และพร้อมใช้งานจริงภายในสถานประกอบการด้านสาธารณสุขและโรงพยาบาล วช. หนุนทีมวิจัย เอ็นเทค สวทช.พัฒนาเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับบำบัดมูลฝอยติดเชื้อภายในสถานประกอบการด้านสาธารณสุข

ดร.สมศักดิ์ สุภสิทธิ์มงคล หัวหน้าโครงการ ฯ เปิดเผยว่า ในช่วงแรกที่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ สารฟอกขาว เป็นที่ต้องการอย่างมากจนเกิด ขาดตลาด จึงเกิดแนวคิดที่จะนำความรู้เรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมีมาประยุกต์ใช้ในการดัดแปลงระบบของเซลล์เชื้อเพลิงให้กลายเป็นเครื่องผลิตสารอื่นๆ ตามที่ต้องการ ทั้งนี้ คณะวิจัยที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาทั้งจาก ENTEC, MTEC และ BIOTEC สวทช. ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้ออิเล็กโทรไลต์ ที่ใช้ชื่อว่า "ENcase" โดยอาศัยหลักการเกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีภายในเครื่องเปลี่ยนเกลือแกงหรือโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ให้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้ออิเล็กโทรไลต์ ที่เรียกว่า "ENERclean" ที่มีกรดไฮโปคลอรัส (Hypochlorous acid : HOCl) เป็นองค์ประกอบหลัก มีความเป็นกรดอ่อน (pH 4-6) ปริมาณคลอรีนมากกว่า 400 ppm และค่า Oxidation-reduction potential (ORP) ในช่วง 900-1200 mV

ทั้งนี้ กรดไฮโปคลอรัส เป็นกรดอ่อน ๆ ตามธรรมชาติชนิดเดียวกับภูมิคุ้มกันในเม็ดเลือดขาวของมนุษย์ เป็นสารออกซิไดซ์ที่มีประสิทธิภาพการยับยั้ง หรือฆ่าเชื้อจุลชีพก่อโรคผ่านตามเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้สามารถใช้ได้กับร่างกายโดยตรง หรือ ใช้ฆ่าเชื้อวัตถุและชำระล้างสารพิษตกค้างในอาหารสำหรับบริโภคและสามารถชะล้างด้วยน้ำสะอาดออกได้ นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อดังกล่าว ยังสามารถผลิตโซดาไฟ (NaOH) ที่นำไปใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย เช่น ใช้ทำความสะอาดคราบไขมันที่ตกค้างตามท่อเครื่องดูดควันที่ใช้ในการปรุงอาหารในโรงครัวหรืออุดตันตามท่อระบายน้ำต่าง ๆ ได้

สำหรับงานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. ดร.สมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการต่อยอดพัฒนาน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับใช้งานกับขยะติดเชื้อเป็นหลัก มุ่งเน้นพัฒนาเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้ออิเล็กโทรไลต์ที่มีคลอรีนเป็นองค์ประกอบสำหรับใช้ภายในสถานประกอบการด้านสาธารณสุข ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการผลิตและประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SARS-CoV-2) ซึ่งมีการทดสอบภายใต้สภาวะควบคุมในห้องปฏิบัติการ รวมถึงทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของชุดอุปกรณ์ต้นแบบภายใต้สภาวะใช้งานจริง พร้อมทั้งปรับปรุงรูปแบบการทำงานของต้นแบบให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

ต้นแบบเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อ ENcase ที่พัฒนาขึ้น สามารถใช้งานได้หลายรอบด้วยอัตราการผลิต 30 ลิตรต่อชั่วโมง แบ่งเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ ENERclean 15 ลิตร และโซดาไฟ 15 ลิตร ส่วนผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้ออิเล็กโทรไลต์ที่ได้จากเครื่องต้นแบบ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา บนพื้นผิวที่ไม่มีรูพรุนได้ 59-60 carrier ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานทดสอบผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อก่อโรค (AOAC 955.14, 955.15, 955.17 และ 964.02) อีกทั้งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสก่อโรค เช่น Dengue virus, Japanese encephalitis virus, Zika virus และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง SARS-CoV-2 โดยมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ SARS-CoV-2 บนพื้นผิวได้มากกว่า 99.9% ตามมาตรฐานทดสอบ ASTM E1053-20

ปัจจุบันต้นแบบเครื่อง "ENcase" ถูกส่งมอบและใช้ประโยชน์แล้วภายในโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ทั้ง 10 แห่งใน 4 จังหวัด คือ ที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี รพ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รพ.ยางชุมน้อย รพ.เมืองจันทร์ รพ.ศรีสะเกษ รพ.สต.โนนคูณ รพ.สต.บ้านผักขะ และ รพ.สต.ยางชุมใหญ่ จ.ศรีสะเกษ รพ.พะโต๊ะ รพ.ปากน้ำหลังสวน จ.ชุมพร ส่วนผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อ "ENERclean" ถูกส่งมอบหน่วยงานราชการ สถานศึกษา ไม่น้อยกว่า 1,500 ลิตร สำหรับใช้ประโยชน์ในสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ ยังได้มีการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อและสาธิตการทำงานของชุดต้นแบบสำหรับการผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อ (ENcase) รวมถึงเครื่องมือวิเคราะห์สมบัติของน้ำยาฆ่าเชื้อที่ผลิตได้ (ENERclean) ให้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทั้ง 10 แห่ง ใน 4 จังหวัดดังกล่าว จนมีความรู้ ความชำนาญสำหรับการผลิต วิเคราะห์สมบัติ ตลอดจนการนำผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้ไปใช้งานจริงภายในหน่วยงาน งานวิจัยนี้นอกจากจะช่วยลดการนำเข้าเทคโนโลยีและสารเคมีในการผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อจากต่างประเทศแล้ว ยังสร้างความตระหนัก และช่วยในการวางแผนจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อของเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยและคลินิกในแต่ละจังหวัด ช่วยลดปัญหามลพิษทางน้ำจากการชะล้างของสารเคมีตกค้าง เนื่องจากน้ำยาฆ่าเชื้อที่ผลิตได้จากต้นแบบเครื่อง ENcase มาจากเกลือแกงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีความเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมค่อนข้างต่ำและยังลดปริมาณขยะติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเครื่องมือเครื่องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น Face shield หรือแว่นตานิรภัย สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ภายหลังผ่านการฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแล้ว อีกทั้งการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่ผลิตขึ้นจากต้นแบบ ยังเป็นการกำจัดเชื้อจุลชีพก่อโรคเบื้องต้น เพื่อควบคุมการแพร่ของเชื้อก่อโรค ระหว่างกักเก็บและขนย้ายไปเผาทำลายต่อไป


ข่าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม+การวิจัยแห่งชาติวันนี้

วช. นำเสนอผลงาน ต้นแบบอาคารคาร์บอนต่ำ ในงาน NRCT Talk ยกระดับการใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมร่วมกับงานสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดเวทีแถลงข่าว NRCT Talk Phase 2 ครั้งที่ 1 ผลงานวิจัย "อาคารคาร์บอนต่ำ" โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของ ผศ.ดร.ณรงค์ฤทธิ์ จินต์จันทรวงศ์ หัวหน้าโครงการวิจัย และ ดร.มนสินี อรรถวานิช ผู้ร่วมโครงการ และคณะ จากคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมด้วย นายกฤษฎา พลทรัพย์ บริษัท กรีนสเปซ อาคิเทค จำกัด

นักศึกษาคณะโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิท... เด็กคณะโลจิสติกส์ฯ ม.ศรีปทุม ชลบุรี คว้ารางวัลติดดาวระดับ 4 ดาว งานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2566 — นักศึกษาคณะโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิท...

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนิสิตชั้นปีที... เปิดโลกอุตสาหกรรมสีเขียว! ดั๊บเบิ้ล เอ ต้อนรับนิสิตวิศวฯ จุฬาฯ เยี่ยมชมโรงงานผลิตกระดาษ — ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนิสิตชั้นปีที่ 4 ภาควิชาวิศวกรรมเคมี...

CHANGAN Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์อ... CHANGAN Automobile ชูนวัตกรรมสุดล้ำภายใต้แนวคิด "Together for a Smarter World" ในงาน Auto Shanghai 2025 — CHANGAN Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ...

รอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ปได้รับตราสัญลักษณ์... รอยัล คลิฟ พัทยา ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม กับการคว้ารางวัล G-Green ระดับดีเยี่ยม — รอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ปได้รับตราสัญลักษณ์ G-Green โรงแรมที่เป...

ประภัสรา นิมมานเทวินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บ... MSM รับตราสัญลักษณ์ G-Green — ประภัสรา นิมมานเทวินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมืองทอง เซอร์วิสเซส แอนด์ แมเน็จเม้นท์ จำกัด หรือ MSM เครือบางกอกแลนด์ ...