JSP เตรียมเปิดไลน์ผลิตที่สอง ธ.ค.นี้ ล่าสุดคืบหน้า80% ดันธุรกิจยาน้ำโตเต็มสูบ ธ.ค.เล็งเพิ่มเต็มกำลังผลิตแตะเดือนละ2ล.ขวด หนุนรายได้ปีหน้าเพิ่ม2-3เท่า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บมจ. โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี นับถอยหลังเปิดใช้งานไลน์ผลิตที่สอง ธ.ค.นี้ ล่าสุดคืบหน้าแล้ว 80% หลังเปิดใช้งานเตรียมลุยธุรกิจยาน้ำเต็มสูบ เพิ่มกำลังการผลิตสู่เดือนละ 2 ล้านขวด จากปัจจุบันอยู่ที่เดือนละ 7 แสนขวด ปีหน้าเดินเครื่องผลิตเต็มกำลังรองรับแบกล็อกที่ล้นมือหลังเทรนด์ยาน้ำเติบโตตั้งแต่ช่วงโควิดจนขาดตลาด คาดหนุนรายได้ปีหน้าโต 2-3 เท่า พร้อมมองโอกาสยาน้ำยังโตได้อีกไกลเหตุปัจจุบัน 90% เสิร์ฟลูกค้าภายในประเทศ ช่องทางต่างประเทศยังมีโอกาสโตสูง มองเพื่อนบ้าน พม่า ลาว กัมพูชา น่าสนใจ มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงคนไทยและยังไม่มีโรงงานผลิตยาเอกชนของตนเอง

JSP เตรียมเปิดไลน์ผลิตที่สอง ธ.ค.นี้ ล่าสุดคืบหน้า80% ดันธุรกิจยาน้ำโตเต็มสูบ ธ.ค.เล็งเพิ่มเต็มกำลังผลิตแตะเดือนละ2ล.ขวด หนุนรายได้ปีหน้าเพิ่ม2-3เท่า

นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เปิดเผยว่าหลังจากที่ JSP ได้ลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตไลน์ที่ 2 ไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันไลน์ผลิตที่ 2 คืบหน้าแล้วกว่า 80% คาดว่าจะพร้อมเปิดใช้เชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหลังเปิดใช้งานไลน์ที่ 2 จะทำให้ผลการดำเนินงานของ JSP เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ JSP เตรียมเปิดไลน์ผลิตที่สอง ธ.ค.นี้ ล่าสุดคืบหน้า80% ดันธุรกิจยาน้ำโตเต็มสูบ ธ.ค.เล็งเพิ่มเต็มกำลังผลิตแตะเดือนละ2ล.ขวด หนุนรายได้ปีหน้าเพิ่ม2-3เท่า

สำหรับในส่วนของผลิตภัณฑ์ยาน้ำปัจจุบัน JSP มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 7 แสนขวดต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5 แสนขวดต่อเดือน อย่างไรก็ดีภายในไตรมาส 4/2565 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 1 ล้านขวดต่อเดือน เนื่องจากบริษัทจะเพิ่มการผลิตเป็น 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับงานในมือที่มีอยู่ในตอนนี้ค่อนข้างมาก และที่สำคัญในเดือน ธ.ค.ที่จะถึงนี้ที่จะเริ่มเปิดใช้ไลน์ผลิตที่ 2 จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตแตะ 2 ล้านขวดต่อเดือน ซึ่งคาดว่าในปีหน้ากำลังการผลิตจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ ส่งผลให้รายได้จากส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้คิดเป็นประมาณ 2-3 เท่าจากปัจจุบัน

"ยาน้ำที่ขายดี คือยาน้ำสำหรับเด็ก เนื่องจากหลังโควิดจบ เด็กกลับมาเปิดเทอมตามปกติ ทำให้เด็กไม่สบายกันเยอะมากเพราะหากมีเด็กเป็นหวัดก็จะติดกันได้ง่าย จึงส่งผลให้ยาน้ำขาดตลาด เทรนด์ยาน้ำจึงยังเติบโต เรา IPO ช่วงที่มีการระบาดของโควิดยาน้ำเราจึงขายดีขึ้น การเข้าตลาดหุ้นก็ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นเรามากขึ้น มีออเดอร์มามากขึ้น ตอนนี้มีแบกล็อคพอสมควร แต่ก่อนกำลังการผลิตเราเต็มกำลังแล้ว หลังได้ทุนจาก IPO ทำให้เรามีทุนสำหรับขยายกำลังการผลิต เราใช้เวลา 1 ปีในการสร้างโรงงาน และเดือน ธ.ค.นี้เราจะพร้อมเดินเครื่องไลน์ 2 แล้ว" นายสิทธิชัย กล่าว

นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของตลาดยาน้ำโอกาสในการเติบโตยังมีอีกค่อนข้างสูงเพราะปัจจุบัน 90% เป็นตลาดในประเทศ ตลาดส่งออกยังมีเพียง 10% จึงมีช่องให้เติบโตได้อีกมาก ในปีนี้ลูกค้าในกลุ่ม AEC ก็เริ่มกลับมา เพราะหลายๆประเทศเริ่มเปิดเมือง อีกทั้งในกลุ่ม AEC ความชื่นชอบยาก็ใกล้เคียงกับไทย รวมถึง ประเทศ พม่า ลาว กัมพูชา ไม่มีโรงงานยาของเอกชน จึงเป็นโอกาสของเราในการขยายไปประเทศเหล่านี้


ข่าวโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี+โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมวันนี้

JSP โชว์ฟอร์มร้อนแรง Q3/66 กำไร 35 ล้านบาท บ.ลูกธุรกิจน้ำยาฟอกไตมาแรงสุดอู้ฟู่ - รายได้สินค้า Own Brand โตต่อเนื่อง

บมจ. โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) เผยรายได้ไตรมาส 3 / 2566 รวม 171 ล้านบาท เติบโต 59.5% หนุนกำไรแตะ 35 ล้านบาท ชื่นมื่น กวาดรายได้ บ.เกรซ วอเทอร์ เมด บริษัทลูก ประกอบธุรกิจน้ำยาฟอกไตเต็มที่ 26 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 10% ของรายได้รวม ขณะที่รายได้ OEM และรายได้สินค้า Own Brand รวมยังโตดีที่ 139 ล้านบาท พร้อมเล็งช่องทางเพิ่มรายได้ในอนาคตจากเกรซ วอเทอร์ เมด จากการนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์เพื่อจำหน่ายให้ศูนย์ฟอกไต และเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าของ JSP พร้อมชู CDIP อีกหนึ่งบริษัทลูกมาแรง

กระแสแรงดีไม่มีหยุด หุ้นน้ำดีอีกรายที่ต้อ... JSP ฮอตเว่อร์ "เมธา สิมะวรา" ขึ้นแท่นผถห.เบอร์ใหญ่ มั่นใจผลงานโตเกินต้าน คาดสตอรี่ปีนี้โต 20-30% — กระแสแรงดีไม่มีหยุด หุ้นน้ำดีอีกรายที่ต้องจับตา "JSP หร...