"ดังสุภาษิตไทยที่ว่า "บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น" เราได้ร่วมกันหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งวิสัยทัศน์ปุตราจายา และถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องพรวนดิน บำรุง และดูแลดอกไม้ที่ผลิบานจากการพัฒนาร่วมกันของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก" นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวในการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ครั้งที่ 29 ที่ประเทศไทย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ในปี 2563 ผู้นำเอเปคได้รับรองวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. 2040 (Putrajaya Vision 2040) หรือ พ.ศ. 2583 ซึ่งเป็นพิมพ์เขียวระยะยาวฉบับใหม่ที่มาแทนที่ "เป้าหมายโบกอร์" (Bogor Goals) ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาที่ผู้นำเอเปคให้ไว้ในปฏิญญาโบกอร์เมื่อปี 2537 เพื่อบรรลุเป้าหมายการค้าและการลงทุนที่เสรีและเปิดกว้างภายในปี 2553 สำหรับประเทศอุตสาหกรรม และภายในปี 2563 สำหรับประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เป้าหมายโบกอร์ช่วยให้เขตเศรษฐกิจเอเปคบรรลุความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในด้านการค้า การลงทุน และการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ โดยภายใน 26 ปี มูลค่าการค้าในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 5 เท่า ขณะที่การลงทุนสองทางเพิ่มขึ้น 12 เท่า และสินค้าเกือบครึ่งหนึ่งไม่ต้องเสียภาษี
กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า เมื่อครบกำหนดของเป้าหมายโบกอร์ในปี 2563 มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับเขตเศรษฐกิจเอเปคสูงถึง 2.87 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็น 62% ของการค้าต่างประเทศทั้งหมด ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นเกือบ 18 เท่า ส่วนอัตราภาษีเฉลี่ยลดลงจาก 23.6% เหลือ 7.5% และมีข้อตกลงการค้าเสรี 19 ฉบับจากเดิมที่ไม่มีเลย
นอกจากนี้ จีนยังได้แบ่งปันตลาดอันกว้างใหญ่ของจีนกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการค้าประจำปีหลายงาน เช่น มหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (China International Import Expo) เป็นต้น
เปิดบทใหม่
ภายใต้วิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. 2040 เขตเศรษฐกิจเอเปคตั้งเป้าที่จะสร้าง "ประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่เปิดกว้าง มีพลวัต พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และมีสันติภาพ ภายในปี ค.ศ. 2040 เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทุกคนและคนรุ่นต่อไปในอนาคต"
พิมพ์เขียวใหม่นี้ต่อยอดมาจากความก้าวหน้าของเป้าหมายโบกอร์ โดยมุ่งเน้นไปที่การเดินหน้าส่งเสริมการค้าเสรีระดับภูมิภาค สนับสนุนนวัตกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ตลอดจนบรรลุ "การเติบโตที่แข็งแกร่ง สมดุล มั่นคง ยั่งยืน และครอบคลุม"
เป้าหมายของจีนในการส่งเสริมการเปิดกว้างที่มีมาตรฐานสูงได้กำหนดทิศทางในอนาคตสำหรับการปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. 2040
ในรายงานที่นำเสนอในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะขยายการเปิดกว้างทางสถาบันอย่างต่อเนื่อง เร่งเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นผู้ค้าที่มีคุณภาพ ส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลก ตลอดจนพยายามรักษาความหลากหลายและเสถียรภาพของภูมิทัศน์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า
"เราจะผลักดันวาระที่กว้างขึ้นด้วยการเปิดกว้างในหลายภาคส่วนมากขึ้นและลึกซึ้งมากขึ้น รวมถึงเดินตามเส้นทางของจีนสู่ความทันสมัย วางระบบใหม่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่เปิดกว้างด้วยมาตรฐานสูงขึ้น และยังคงแบ่งปันโอกาสในการพัฒนาของเราร่วมกับทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก" นายสี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันศุกร์
นายสี จิ้นผิง กล่าวในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเมื่อปีที่แล้วว่า การเปิดกว้างคือเส้นชีวิตของความร่วมมือในเอเชียแปซิฟิก "เราจำเป็นต้องรักษาความเป็นภูมิภาคนิยมที่เปิดกว้าง ปฏิบัติตามแนวทางของวิสัยทัศน์เอเปค ค.ศ. 2040 ในการพัฒนาการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้ก้าวหน้า และทำงานอย่างแข็งขันเพื่อให้เขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) ที่มีคุณภาพสูงเกิดขึ้นจริงอย่างรวดเร็ว"
จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ให้สัตยาบันในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 กำลังหาทางเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) โดยความตกลงทั้งสองเป็นเส้นทางสำคัญในการสร้างเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก
นอกจากนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจดิจิทัลมีความสำคัญมากขึ้นในภูมิภาค จีนจึงได้สมัครเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เพื่อขยายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ เศรษฐกิจดิจิทัลของจีนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ขณะเดียวกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างทั่วถึงและยั่งยืน จีนมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนถึงเพดานสูงสุดภายในปี 2573 ก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2603
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการพัฒนาพลังงานสีเขียวและคาร์บอนต่ำ ตลอดจนทำงานร่วมกับประเทศพันธมิตรเพื่อพัฒนาความร่วมมือคุณภาพสูงภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางต่อไป
https://news.cgtn.com/news/2022-11-18/China-will-continue-to-drive-implementation-of-Putrajaya-Vision-2040-1f3KsxA49bO/index.html
ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ โรงแรมม็อกซี่แห่งแรกในประเทศไทยและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมสาธารณรัฐประชาชนจีน) ตั้งอยู่ใจกลางย่านราชประสงค์ ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคักของกรุงเทพฯ ประกาศเปิดตัวเว็บไซต์ทางการหลายภาษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แขกจากทั่วโลกสามารถจองห้องพัก ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร และสำรวจพื้นที่จัดงานสุดครีเอทีฟใจกลางกรุงเทพฯ ได้ง่ายยิ่งขึ้น เว็บไซต์ใหม่นี้พร้อมให้บริการในภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอาหรับ โดยแขกผู้เข้าพักสามารถดูรายละ
ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ ชวนอิ่มจัดจ้านกับแคมเปญ Eat Out with Marriott Bonvoy ที่ม็อกซี่ชู 2 เซ็ตเมนูอร่อยสุดมันส์
—
ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ โรงแรมม็อก...
ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ เปิดตัวเว็บไซต์ Moxy Bar & Restaurant อย่างเป็นทางการ พร้อมมอบส่วนลด 10% สำหรับสมาชิกแมริออท บอนวอยทั้งการเข้าพักและจัดอีเวนต์
—
ม็อกซี่ แบง...
ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ ชวนสายมันส์มาปะทะความสนุกตลอดเมษานี้ ฉลองสงกรานต์ บรันช์ อีสเตอร์ และ ม็อกซี่แบ็คยาร์ดบาร์บีคิว
—
ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ โรงแ...
ความสำเร็จอีกขั้นของวงการแพทย์แผนจีนในประเทศไทย วารสารการแพทย์แผนจีนในประเทศไทย ได้รับการรับรองคุณภาพจาก TCI จัดอยู่ในวารสารกลุ่มที่ 2
—
"วารสารการแพทย์แผ...
วว. ร่วมคณะ รมว.อว. ประชุม DBAR 2025 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ณ เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน
—
ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันว...
เปิดงาน "CIOSH Thailand 2025" มหกรรมแสดงสินค้า PPE ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยแรงงานไทย
—
เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้...
"ท่าเรือประจวบ" ร่วมงานประชุม 7th WCIFIT มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านการลงทุนและการค้าตะวันตก
—
ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศเกียรติยศในงานครั้งนี้ ...
สวทช. และ สถาบันพฤกษศาสตร์คุนหมิง (KIB) สาธารณรัฐประชาชนจีน ลงนามความร่วมมือวิจัยเกษตรและชีวภาพ เพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากร
—
สำนักงานพัฒนาวิทย...
50 ปี มิตรภาพไทย-จีน กยท. ร่วม สมาคมการค้าหกประเทศลุ่มน้ำโขงฯ เปิดโต๊ะหารือมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจยาง
—
ดันมาตรการลดภาษีนำเข้ายางในจีน พร้อมหนุนระบบโลจิสติ...