ราคาหุ้น BVG ยังมีอัพไซด์อีกเพียบ โบรกเกอร์จาก 4 ค่ายประเมินราคาเหมาะสมสูงสุด 5.70 บาท/หุ้น ชี้หลังเข้าตลาด mai เพิ่มศักยภาพฐานทุน หนุนทั้งรายได้และกำไรโตก้าวกระโดดจากปัจจัยหนุนการเปิดประเทศหลัง Covid-19 การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจประกันภัย รายได้ส่วนเพิ่มจาก AI และการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
มีรายงานบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ 4 แห่ง ซึ่งได้ประเมินราคาเหมาะสมสูงสุดของหุ้น BVG 5.70 บาทต่อหุ้น โดย บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ฝ่ายวิจัยได้ประเมินราคาเหมาะสมที่ 5.70 บาทต่อหุ้น บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเหมาะสมที่ 5.20 บาท บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาพื้นฐานปี 2563 อยู่ที่ 5.00-5.40 บาท และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 4.48 บาทต่อหุ้น
BVG ดำเนินธุรกิจให้บริการระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันด้านการบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทนครบวงจร ประกอบด้วย 1) เป็นผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) 2) ให้บริการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทน ผ่านแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน (บริการ TPA) นอกจากนี้ กลุ่ม BVG ยังมีการให้บริการฝึกอบรมให้กับบุคลากรในธุรกิจประกันภัย ให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย และให้บริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ประเมินราคาที่เหมาะสมของหุ้น BVG อยู่ที่ระดับ 5.70 บาทต่อหุ้น อ้างอิงจากค่ากลางของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Tech ของ mai ซึ่งมีค่า PE อยู่ที่ 34 เท่า โดยเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 157.50 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 35.00 % ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
BVG มีข้อได้เปรียบในระยะยาวจากประสบการณ์ ฐานข้อมูลและจำนวนลูกค้า และยังมีศักยภาพในการเติบโตจากการนำเสนอบริการใหม่ๆ ด้วยระบบ AI รวมถึงการขยายตลาดการให้บริการไปยังต่างประเทศ
ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 2565 ที่ 57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62%YoY หลังจากกำไรงวด 9 เดือน ปี 2565 อยู่ที่ 45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%YoY โดยกำไรงวด 9 เดือน ปี 2565 คิดเป็นราว 79% ของประมาณการณ์กำไรทั้งปี ซึ่งมีปัจจัยหนุนหลักในปี 2565 มาจากรายได้รวมที่ดีขึ้น โดยในส่วนของรายได้จากระบบ EMCS (ภายใต้ BVG) ฟื้นตัวขึ้นจากยอดเคลมประกันรถยนต์ ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณการใช้รถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนที่ยังมีการปิดเมือง ขณะที่รายได้จากบริการ TPA (ภายใต้ BVTPA) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าองค์กรทั่วไปที่บริหารจัดการสวัสดิการพนักงานด้วยตนเอง (Self-insured)
สำหรับแนวโน้มในปี 2566-2567 ฝ่ายวิจัยคาดกำไรอยู่ที่ 75 ล้านบาท และ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 31%YoY และ 36%YoY ตามลำดับ โดยในภาพรวมธุรกิจคาดว่าจะยังได้รับผลบวกจากการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันภัย ทั้งประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ ขณะที่ในแง่จำนวนการเคลมประกันรถยนต์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ยังมีการปิดเมืองในช่วงต้นปีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังมีแผนจะขยายฐานลูกค้า โดยในส่วนลูกค้าที่ใช้บริการระบบ EMCS จะมีการขยายฐานคู่ค้า อาทิ ศูนย์บริการ อู่ซ่อม และคู่ค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการซ่อมรถยนต์ และในส่วนลูกค้าที่ใช้บริการ TPA จะมีการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าองค์กรทั่วไปที่บริหารจัดการสวัสดิการพนักงานด้วยตนเอง (Self-insured) อย่างต่อเนื่อง
กลุ่มบริษัทฯ ยังมีแผนจะลงทุนในระบบ AI ต่างๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจและเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ ระบบ AI Inspection และ Garage Lending ภายใต้ BVG และระบบ Optical Character Recognition, AI Claim Assessment Automation และ TPA Evo Revolution II ภายใต้ BVTPA เป็นต้น นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังมีแผนจะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเริ่มที่ประเทศกัมพูชา ที่มีแผนการจัดตั้ง Joint Venture ระหว่างบริษัทฯ และบริษัทรับประกันภัยต่อรายหนึ่งของกัมพูชา เพื่อให้บริการ TPA และโอกาสการลงทุนในประเทศอื่นๆ อาทิ เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาราคาเป้าหมายของ BVG ปี 2563 อยู่ที่ 5.00 - 5.40 บาทต่อหุ้น โดยระบุว่า BVG มี 4 ปัจจัยสำคัญช่วยสนับสนุนได้แก่ (1) เป็นผู้นำด้านการให้บริการระบบ EMCS และ TPA ที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทประกัน (2) มี Barriers to Entry จากเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศที่ใช้ระบบ EMCS และบริการ TPA ทำให้การเปลี่ยนไปใช้ระบบแพลตฟอร์มอื่นมีต้นทุนการพัฒนาระบบที่สูง ส่งผลให้ลูกค้าใช้บริการกับบริษัทฯ ระยะยาว (3) ผลการดำเนินงานกลับมาเติบโตแข็งแกร่งจากการเปิดประเทศหลัง COVID-19 และ (4) โอกาสในการเติบโตทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดกำไรปี เติบโตดีราว 15% เป็น 58 ล้านบาท และคาดกำไรสุทธิปี 2566 โตต่อราว 31% เป็น 76 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยหนุนโดย (1) จำนวนการเคลมที่เพิ่มมากขึ้นหลังการเปิดเมือง และ (2) รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการใหม่ๆ เช่น AI ช่วยพิจารณาสินไหมทดแทนสำหรับบริษัทประกันภัย
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนการลงทุนในอนาคต โดยเป็นโครงการที่จะเริ่มดำเนินการในช่วงระหว่างปลายปี 2565 ถึงปี 2568 ดังนี้
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า BVG เป็นผู้ให้บริการ Platform และ Application ในด้าน EMCS และ TPA ระดับแนวหน้าของไทย โดยจุดแข็งของธุรกิจ EMCS ได้แก่ i) การให้บริการ Solution แบบ End-to-end ในขณะที่บริการของคู่แข่งบางรายจำกัดอยู่เพียงบางบริการเท่านั้น ii) เข้าใจลูกค้าเป็นอย่างดีจากประสบการณ์กว่า 20 ปี และ iii) มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งในประเทศไทย โดยมีพันธมิตรในฐานข้อมูลมากกว่า 3,700 ราย (เช่น อู่ซ่อมรถ และผู้จำหน่ายอะไหล่รถ) สำหรับธุรกิจ TPA บริษัทฯ ก็ให้บริการ Solution แบบ End-to-end เช่นกัน และมีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้ จากเครือข่ายที่แข็งแกร่งและบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่ม (อย่างเช่น Big Data และ AI) ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า BVG จะสามารถรักษาลูกค้าเดิมเอาไว้ได้ และมีแนวโน้มเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ในช่วงที่ประมาณการไว้
ทั้งนี้ ประเมินราคาที่เหมาะสมปี 2566 ไว้ที่ 5.20 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรปกติของบริษัทฯ จะเติบโต 18% CAGR ในอีกสามปีข้างหน้าเป็น 85 ล้านบาทในปี 2567 จาก 52 ล้านบาทในปี 2564 โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญได้แก่ i) คาดรายได้รวมเติบโต 12% CAGR โดยมีปัจจัยผลักดันจากธุรกิจประกันภัยในประเทศไทยที่โตปีละ 5-6% และรายได้ส่วนเพิ่มจากธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ ii) EBIT Margin ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการประหยัดต่อขนาด ทั้งนี้ BVG ออกบริการ AI Review อย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปี 2564 โดยรายได้จากกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 0.9 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2564 (คิดเป็น 0.5% ของรายได้ EMCS) เป็น 11.9 ล้านบาทในงวด 9 เดือน ปี 2565 (8.7% ของรายได้ EMCS) โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้จากธุรกิจ AI จะช่วยสนับสนุนการเติบโตแบบ S-curve ของธุรกิจ EMCS ในช่วงที่ประมาณการ
บล.ทิสโก้คาดระยะสั้นหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวแตะ 1,200 จุด รับเงินกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และความคาดหวังการเจรจาการค้าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่มองเป็นจังหวะขายมากกว่าซื้อ หรือหมุนรอบเทรดดิ้งสั้นไวขึ้น นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บล.ทิสโก้มองว่าปัจจุบันดัชนีหุ้นไทย (SET Index) อยู่ในช่วงของการฟื้นตัวจากความหวังการเจรจาการค้าและเงินกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ไหล
IMPACT Growth REIT โชว์วิสัยทัศน์ - ต้อนรับนักลงทุนเยี่ยมชม Sky Entrance
—
คุณพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม...
SGC เปิดขายหุ้นกู้มีประกัน ดอกเบี้ย 7.20% ช่วง 19 - 21 พ.ค.นี้ รองรับสินเชื่อ Lock Phone โตก้าวกระโดด
—
บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เตรีย...
Thai ESGX 3 กองทุนใหม่ 3 แบบ 3 สไตล์ จาก BBLAM เลือกได้ตั้งแต่ Low Fee Low Beta ถึงลงทุนหุ้นเต็มที่เปิดโอกาสให้สุด
—
เสนอขายครั้งแรก 2-8 พฤษภาคม 2568 บริษ...
บลจ.อีสท์สปริง ตั้งThai ESGX กองผสม-กองหุ้นไทยปันผลดี ด้าน ESG เสริมพอร์ต พร้อมรับสิทธิประโยชน์ภาษี IPO 2-8 พ.ค. 68 นี้
—
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุน Tha...
"อเบอร์ดีน" เปิดตัวกองทุน ThaiESGX ชูปรับพอร์ตลงทุนเหมาะทุกสภาวะตลาด
—
บลจ.อเบอร์ดีน เปิดตัว "ABALL-TESGX" กองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ ลงทุนแบบผสมในหุ้นและต...
SCB WEALTH ชี้กนง.ปรับลดดอกเบี้ย มุมมองเศรษฐกิจเริ่มสอดคล้องเอกชน พร้อมเปิดขาย 4 กองทุน Thai ESGX IPO 2-8 พ.ค.นี้ หนุนตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคัก
—
SCB WEALTH ...
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุน TThai70ESGX และ TThaiESGX ช่วยลูกค้าบริหารภาษี - ลดหย่อนสูงสุด 800,000 บาท
—
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้น 70 ไทยเพื่อความยั่ง...
KTAM ร่วมส่งเสริมการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปล่อย 3 กองทุน "Thai ESGX" IPO 2 - 8 พ.ค.นี้
—
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จั...
บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX เปิดทางเลือกลงทุนแบบ Extra
—
บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX...