แอปสินเชื่อดิจิทัลฟินนิกซ์ (FINNIX) ลดความเหลื่อมล้ำให้คนไทยทุกคนขอสินเชื่อได้ ด้วยนวัตกรรมยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ใน 60 วินาที

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

มันนิกซ์ บริษัทฟินเทคสตาร์ทอัปร่วมทุนระหว่างประเทศของ SCB X และ Abakus Group ฟินเทคยูนิคอร์นจากประเทศจีน จับมือ ADVANCE.AI ผู้ให้บริการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากประเทศสิงคโปร์ นำนวัตกรรมพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ภายใน 60 วินาที หวังช่วยลดความเหลื่อมล้ำการเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินและยกระดับประสบการณ์การใช้สินเชื่อดิจิทัลผ่านแอปฟินนิกซ์

แอปสินเชื่อดิจิทัลฟินนิกซ์ (FINNIX) ลดความเหลื่อมล้ำให้คนไทยทุกคนขอสินเชื่อได้ ด้วยนวัตกรรมยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ใน 60 วินาที

นางสาวอาชี โจว ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยมีคนจำนวนมากที่เข้าไม่ถึงผลิตภัณฑ์การเงิน แต่มีความเข้าใจโลกดิจิทัล กลุ่มคนเหล่านี้มีศักยภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของมันนิกซ์ ดังนั้น บริษัทจึงต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินที่ใช่และถูกต้องสำหรับผู้บริโภค ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นและสะดวกด้วยแอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน แต่ยังคงรักษาความรวดเร็วและง่ายต่อการใช้งาน มันนิกซ์ได้ร่วมมือกับ ADVANCE.AI ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากประเทศสิงคโปร์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานการระบุและพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) หรือ Electronic Know Your Customer ที่ทำให้ผู้ขอสินเชื่อยืนยันตัวตนเสร็จได้ภายใน 60 วินาที ด้วยการถ่ายรูปตนเองและบัตรประจำตัวประชาชนด้วยกล้องของสมาร์ทโฟน

"เราอยากให้ลูกค้ามั่นใจว่าข้อมูลที่ให้เรามานั้นปลอดภัย ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์และบริษัทเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบ ดังนั้น เทคโนโลยีการบริการยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้เราให้บริการกลุ่มผู้ที่เข้าไม่ถึงการเงินได้ โดยเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ (Biometric Technology) ได้เป็นอย่างดี" นางสาวอาชีกล่าว

"ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญมากในอุตสาหกรรมฟินเทค สำหรับเราในบทบาทขององค์กร การยืนยันและพิสูจน์ตัวตนเป็นสิ่งสำคัญ จึงต้องมั่นใจได้ว่าเรามีเทคโนโลยีที่เหมาะสมจริงๆ และทำให้ลูกค้าไว้วางใจที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวกับเราด้วย" นางสาวชลินี บุญส่งทรัพย์ Product Owner บริษัท มันนิกซ์ จำกัด กล่าวเสริม

บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (MONIX) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2563 เป็นบริษัทร่วมทุนของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน SCB X และ Abakus Group ฟินเทคยูนิคอร์นจากประเทศจีน ด้วยการผสมผสานระหว่างนวัตกรรม เทคโนโลยี และองค์ความรู้ด้านผู้ใช้งานของทั้งสองกลุ่มธุรกิจ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการเงิน ที่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบเดิมยังไม่สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันฟินนิกซ์ (FINNIX)

แอปพลิเคชันฟินนิกซ์เป็นบริการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ผ่านช่องทางดิจิทัล 100% ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่การขอสินเชื่อจนถึงการอนุมัติสินเชื่อและเบิกถอน สร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยที่เคยถูกธนาคารหรือสถาบันการเงินปฏิเสธมาก่อนสามารถสมัครขอสินเชื่อได้อย่างง่ายดายภายใน 5 นาที ปัจจุบันแอปพลิเคชันฟินนิกซ์มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 7.5 ล้านครั้ง และมีคะแนนรีวิวแอปเฉลี่ยอยู่ที่ 4.5 จาก 5 ในกูเกิลเพลย์และแอปเปิลแอปสโตร์ โดยปัจจุบันมียอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Macquarie กลุ่มบริษัทการเงินระดับโลกระบุว่า ประเทศไทยมีประชากรวัยทำงานที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริการทางการเงินของธนาคารสูงถึง 63% ซึ่งรวมถึงผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยหรือธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางที่เข้าไม่ถึงผลิตภัณฑ์ของธนาคาร

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ที่มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินที่เท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินในประเทศ เรื่องนี้อยู่จัดอยู่ในเป้าหมายลำดับที่ 8 จาก 17 เป้าหมายขององค์การฯ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยที่มุ่งพัฒนาให้คนไทยกว่า 30 ล้านคนสามารถเข้าถึงระบบธนาคารและบริการภาคการเงินผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่

นาย โมฮัมหมัด ฟูลาดี Regional Head of Customer Value Proposition บริษัท ADVANCE.AI กล่าวว่า "เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจร่วมกับทางมันนิกซ์เป็นอย่างมาก และตระหนักถึงวิธีในการสนับสนุนกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เข้าถึงการบริการทางการเงินของธนาคารในประเทศไทยเพื่อให้ได้รับเครดิตที่ต้องการ ด้วยความก้าวหน้าทางปัญญาประดิษฐ์จะสามารถทำให้การเข้าถึงลูกค้า รวมถึงข้อกำหนดและขั้นตอนในการพิจารณาให้สินเชื่อทำได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น แต่ยังคงความปลอดภัยให้กับทั้งผู้ใช้งานและสถาบันการเงิน ความท้าทายในตอนนี้สำหรับสถาบันการเงินต่าง ๆ คือการคิดและตัดสินใจว่าจะสามารถใช้ AI เพื่อสร้างประสบการณ์แบบใหม่ให้กับลูกค้าธนาคารได้อย่างไรในยุคหลังโควิด-19"


ข่าวเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์+ลดความเหลื่อมล้ำวันนี้

สมศ. พลิกโฉมการประเมินคุณภาพภายนอกด้วย AI ภายใต้ "ONESQA 5.0" เสริมความโปร่งใส แม่นยำ และพัฒนาอย่างยั่งยืน

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เปิดเผยวิสัยทัศน์ และแนวทางการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence AI) ภายใต้ วิสัยทัศน์ ONESQA 5.0 โดยมุ่งเน้นการนำ AI เข้ามาใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความแม่นยำ ในกระบวนการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา พร้อมยกระดับสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ศาสตราจารย์ ดร.องอาจ นัยพัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เปิดเผยว่า

นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักก... กทม. หนุนใช้ AI เพิ่มศักยภาพครู-นักเรียน ลดภาระครู ยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในสังกัด — นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล...

PwC ประเทศไทย คาด 'AI agent' จะถูกนำมาใช้... PwC คาด AI agent จะพลิกโฉมธุรกิจและการจ้างงานในอีก 12 ถึง 24 เดือนข้างหน้า — PwC ประเทศไทย คาด 'AI agent' จะถูกนำมาใช้งานในธุรกิจไทยมากขึ้น หลังช่วยเพิ่มผ...

ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นหนึ่งในความท้าทาย... เทคโนโลยีเอไอ VS ภัยพิบัติ เอไอเข้ามามีบทบาทได้มากน้อยแค่ไหนในปัจจุบัน — ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ตั้งแต่ไฟป่า แผ่...