CARS24 แนะนำ 6 รถมือสองยอดนิยม ขายดี หมดไว จนต้องรีบจัดสักคัน!

25 Apr 2023

CARS24 (คาร์สทเวนตี้โฟร์) ศูนย์รวมรถมือสองออนไลน์ โปรเรื่องรถ ให้คุณซื้อ ขาย เทิร์น ครบจบในที่เดียว ตอกย้ำจุดยืนการเป็นที่สุดของการให้บริการรถมือสอง ด้วยการมอบประสบการณ์การซื้อรถยนต์มือสองในราคาคุ้มค่า พร้อมแนะนำรถมือสองยอดนิยม 6 รุ่น ที่มียอดจองและยอดจำหน่ายสูงติดท็อป 10 ของ CARS24 ได้แก่ Toyota Hilux Revo, Mazda 2, Isuzu D-Max, Toyota Yaris, Toyota Corolla Altis และ Toyota Yaris Ativ โดยใครที่กำลังเล็งรถยนต์รุ่นเหล่านี้ไว้ แนะนำให้รีบจอง พร้อมเลือกรับข้อเสนอจากธนาคารพันธมิตรชั้นนำได้หลากหลาย พิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้า CARS24 เท่านั้น!

CARS24 แนะนำ 6 รถมือสองยอดนิยม ขายดี หมดไว จนต้องรีบจัดสักคัน!

CARS24 ที่เดียวที่มีรถให้คุณเลือกมากกว่า 800+ คัน และตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยผู้ที่สนใจสามารถนัดทดลองขับได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทดลองขับฟรีที่บ้านหรือจะเข้าไปทดลองขับได้ที่ศูนย์บริการ CARS24 ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ CARS24 ลาดกระบัง, CARS24 อโศก และ CARS24 กาญจนาภิเษก โดยรถทุกคันรับประกันไม่มีชนหนัก ไม่เคยน้ำท่วม ไม่มีการกรอเลขไมล์ ซื้อแล้วเปลี่ยนใจ มีรับประกัน คืนเงินได้ใน 7 วัน* นอกจากนี้เรายังมีทีมมืออาชีพที่ให้บริการข้อมูลทางด้านไฟแนนซ์ ที่พร้อมช่วยดูแลแนะนำโปรโมชันที่เหมาะสมอย่างครบครัน จริงใจ พร้อมหารถที่ตรงใจและตรงงบประมาณตามที่ตั้งเป้าไว้มากที่สุด

สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์มือสองไว้ใช้งานสักคัน CARS24 ขอแนะนำรถยนต์ระดับ Best Sellers ทั้ง 6 รุ่น โดยทุกรุ่นได้รับการการันตีคุณภาพและราคาคุ้มค่า พร้อมสามารถเลือกซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา

  1. Toyota Hilux Revo เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โดยรุ่นโฉมล่าสุดปี 2020 ออกแบบด้านหน้าตัวรถใหม่ พร้อมกับการจูนเครื่องยนต์ใหม่ให้มีพละกำลังแรงขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ด้านท้ายรถยังมีการเปลี่ยนดีไซน์ไฟท้ายใหม่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของไฟหน้า Bi-Beam LED, กระจังหน้า, กันชนหน้า, ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว และไฟท้ายดีไซน์ใหม่ ส่วนภายในห้องโดยสาร Dashboard จะใช้ดีไซน์เดิม แต่มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ เล็กน้อย เช่น ชุดมาตรวัด, หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว, วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ และ ระบบเครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay(TM) และ Android Auto(TM) นอกเหนือจากงานดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนสำคัญที่มีการปรับเปลี่ยนเป็นครั้งแรกนับจากการเปิดตัว Toyota Hilux REVO คือเครื่องยนต์ ซึ่งมีการจูนเพิ่มพละกำลังในเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร VN เทอร์โบ รหัส 1GD-FTV Super Power เพิ่มพละกำลัง เป็น 204 แรงม้า 500 นิวตันเมตร (เพิ่มจากเดิม 27 แรงม้า 50 นิวตันเมตร) และยังติดตั้งระบบ Toyota SAFETY SENSE มาให้ใน Toyota Hilux REVO รุ่น ROCCO
  2. Mazda 2 เปิดตัวในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปี 2019 ได้ปรับโฉมใหม่ Minor change มีให้เลือกทั้งแบบ Hatchback 5 ประตู และ Sedan 4 ประตู มาพร้อม MZD Connect ที่มีพร้อมในทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่น Standard) จอทัชสกรีน Center Display ขนาด 7 นิ้ว จะถูกจัดวางในตำแหน่งศูนย์กลางบนคอนโซลหน้ารถ พร้อมให้คุณติดตามข่าวสารและความบันเทิงด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากในรถ โดยในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1,500 ซีซี มาพร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ให้อัตราเร่งด้วยแรงบิดสูงถึง 250 นิวตันเมตร พร้อมหัวฉีดโซลีนอยด์ ที่ฉีดน้ำมันได้แม่นยำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐาน Euro 5 ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำเพียง 100 กรัม/กม. ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE อาทิ ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้าง ABS 4 ล้อ พร้อม EBD ช่วยกระจายแรงเบรก DSC : Dynamic Stability Control ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ HLA : Hill Launch Assist ช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน TCS : Traction Control System ช่วยป้องกันรถลื่นไถล และระบบ i-ELOOP ระบบเปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการลดความเร็วเป็นพลังงานไฟฟ้า และเก็บไว้ในอุปกรณ์เก็บประจุไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้เลี้ยงระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ภายในรถ มาพร้อม i-Stop ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่ง
  3. Isuzu D-Max เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 รุ่นที่เราแนะนำเป็นโฉมใหม่ Model Change ที่ออกมาในปี 2019 ดีไซน์ภายนอกมีมิติใหญ่และบึกบึน ให้ความรู้สึกทรงพลังและแข็งแกร่ง แต่ยังคงเส้นสายของความพลิ้วไหว ช่วยให้รถดูมีความปราดเปรียว สปอร์ต รวมถึงยังเป็นรถรุ่นที่ช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมันอีกด้วย ในด้านเครื่องยนต์ของ isuzu D-Max มี 2 แบบ คือ เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น 4JJ3-TCX เป็นเทคโนโลยีดีเซลล่าสุดที่มีความสมบูรณ์แบบ ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/ นาที มีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,600 รอบ/นาที มาพร้อม E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า แรงจัดตั้งแต่รอบต่ำ แต่มีการตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมทั้งแรงม้า และแรงบิดสูงสุดในรถระดับเดียวกัน ภายในมีการดีไซน์ให้มีความกว้างขวางในทุกมิติ คอนโซลหน้ามีการเล่นระดับแบบ Sharp Horizontal Layers ใช้วัสดุเกรดพรีเมียมดูดีทั้งห้องโดยสาร Smart MID ที่มีขนาดใหญ่ 4.2 นิ้ว มีแผงควบคุมระบบปรับอากาศ Piano Touch ตัวของพวงมาลัยก็สามารถที่จะปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แบบ Tilt & Telescopic เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมกับเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ที่จะเข้ามาช่วยซับแรงสั่นสะเทือน ช่วยลดความเมื่อยล้า มาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคน
  4. Toyota Yaris สำหรับรุ่นปี 2019 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือรุ่น L ที่เน้นความสปอร์ต รุ่น LE เต็มที่ด้วยออปชัน และรุ่น XLE ที่เน้นความลงตัวระหว่างความหรูหราและสปอร์ต ไฟหน้า LED เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟตัดหมอก ติดตั้งกระจังหน้าลายรังผึ้ง เสริมความสปอร์ตให้ลงตัวด้วยลิ้นสปอยเลอร์ด้านหลังแบบใหม่ ทุกรุ่นมีเสาอากาศแบบ Shark Fin สีเดียวกับตัวรถ และกระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ขณะที่รุ่น LE และ XLE เพิ่มระบบไล่ฝ้า และไฟเลี้ยวแบบ LED มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็คและโครเมียม เบาะนั่งคู่หน้าและพวงมาลัยหุ้มด้วยวัสดุหนัง เช่นเดียวกับหัวเกียร์และด้ามเบรคมือ ส่วนบาะนั่งด้านหลังที่ปรับ-พับได้แบบ 60/ 40 มีหน้าจอมัลติมีเดียระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่จดจำเสียง พร้อมรองรับ AM/ FM มีช่องเชื่อมต่อ AUX, USB และ iPod สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วย Bluetooth และ SiriusXM โดยมีระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Dynamic Stability Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ระบบความปลอดภัยก่อนการชนด้วยความเร็วต่ำ (Low-Speed Pre-Collision System) ระบบที่จะตัดการทำงานของคันเร่ง (Brake Over-Ride System) ระบบควบคุมความเร็ว (Cruise Control) ระบบควบคุมแรงดึง (Traction Control System) เป็นต้น
  5. Toyota Corolla Altis สำหรับรุ่นที่เราแนะนำเป็นรุ่นปี 2016 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ความจุกระบอกสูบ 1,598 ซีซี แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 154 นิวตัน-เมตร สามารถรองรับการใช้งานน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้ ภายนอกได้เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานให้ครอบคลุม โดยยังคงไว้ซึ่งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ โคโรลล่า อัลติส ได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม ไฟ LED Day Time Running Lights, ไฟตัดหมอกหน้า, มือจับประตูด้านนอกแบบ Grip-type, กระจกข้างพับเก็บอัตโนมัติแบบใหม่ เป็นต้น ส่วนห้องโดยสารภายในออกแบบสวยงาม พร้อมเสริมฟังก์ชันต่างๆ ให้เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ได้แก่ มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบใหม่, แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift, ระบบกรองอากาศในห้องโดยสาร nanoe เบาะหลังปรับเอนได้ ปรับเปลี่ยนระดับได้ตามความต้องการ เพิ่มความสบายและผ่อนคลายสูงสุดตลอดการเดินทาง (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8V Navi) รวมไปถึงการบรรจุระบบความปลอดภัยให้มีมาตรฐานในระดับสากล ทุกรุ่นย่อย ได้แก่ โครงสร้างนิรภัย GOA, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบเสริมแรงเบรก (BA) เป็นต้น
  6. Toyota Yaris Ativ เป็นรถรุ่นที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Entry, รุ่น Mid และรุ่น High รูปลักษณ์ภายนอก เน้นดีไซน์ทรงสปอร์ต โดยในรุ่นเริ่มต้นมาพร้อมกับไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ตกแต่งด้วยโครเมียม กระจังหน้าด้านล่างสีดำเงา ตกแต่งด้วยแถบสีแดง วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอกสีดำ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เสาอากาศแบบสั้น กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ในรุ่น Mid จะมีเพิ่มเติมจากรุ่น Entry ดังนี้ แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาได้ กระจกมองข้างสีดำเงาพร้อมไฟเลี้ยว กระบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน และในรุ่น High ซึ่งเป็นตัวท็อปจะมีอุปกรณ์เพิ่มเติม ได้แก่ ไฟหน้าแบบ Projector ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow Me Home กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ตกแต่งด้วยโครเมียมรมดำ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding แบบรมดำ มือเปิดประตูด้านบนอกแบบโครเมียม นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ระบบเซ็นทรัลล็อก ระบบละลายฝ้ากระจกหลัง ระบบเบรก ABS / EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ที่เพิ่มให้ในรุ่น Mid ได้แก่ กล้องมองหลัง ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer / ระบบเตือนการโจรกรรม TDS ในรุ่น High จะมีไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED

ผู้ที่สนใจ สามารถซื้อรถ พร้อมรับข้อเสนอที่ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการ ผ่านทางเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน CARS24 ได้แล้ววันนี้ ทั้ง App Store และ Google Play Store หรือคลิก https://apple.co/36P0qWb ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/3sRR4QG หรือติดตามข้อมูลที่เพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/cars24th หรือแอดไลน์ @cars24th

CARS24 แนะนำ 6 รถมือสองยอดนิยม ขายดี หมดไว จนต้องรีบจัดสักคัน!