แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก เผยข้อมูลการลดลงของการ bruteforce โจมตีพนักงานที่ทำงานระยะไกลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องดีแต่ที่ไม่ถือเป็นสัญญาณที่น่าวางใจ
Remote Desktop Protocol (RDP) เป็นโปรโตคอลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Microsoft ซึ่งมีอินเทอร์เฟซแบบกราฟิกให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านเครือข่าย RDP ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยทั้งผู้ดูแลระบบและผู้ใช้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคน้อยเพื่อควบคุมเซิร์ฟเวอร์และพีซีอื่นๆ จากระยะไกล
การโจมตี Bruteforce.Generic.RDP ใช้วิธีพยายามค้นหาคู่การล็อกอิน / พาสเวิร์ด ในการเข้าสู่ระบบ RDP ที่ถูกต้องโดยการตรวจสอบพาสเวิร์ดที่เป็นไปได้ทั้งหมดอย่างเป็นระบบ จนกว่าจะพบพาสเวิร์ดที่ถูกต้อง การโจมตีที่ประสบความสำเร็จจะทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์โฮสต์ที่เป็นเป้าหมายจากระยะไกลได้
เมื่อปี 2022 ข้อมูลของแคสเปอร์สกี้แสดงให้เห็นว่าโซลูชัน B2B ของแคสเปอร์สกี้ได้บล็อก Bruteforce.Generic.RDP ทั้งหมด 75,855,129 รายการ ที่พยายามโจมตีบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การโจมตี Bruteforce จำนวนรวมของปี 2022 ลดลง 49% จาก 149,003,835 รายการในปีก่อนหน้า ซึ่งพบการลดลงของจำนวนการโจมตีทั่วทั้งหกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทในเวียดนาม อินโดนีเซีย และไทยตกเป็นเป้าหมายมากที่สุด
นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า "จากการโจมตีบริษัทต่างๆ ในปี 2021 ด้วย Bruteforce เกือบ 150 ล้านรายการ แต่ในปีที่แล้วมีจำนวนเหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เมื่อมองแวบแรกนับเป็นสัญญาณที่ดี ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนกลับไปทำงานในสภาพแวดล้อมแบบเผชิญหน้ากันและการทำงานทางไกลแบบไฮบริด ซึ่งหมายความว่ามีพนักงานในภูมิภาคนี้ทำงานจากระยะไกลน้อยลง เมื่อเทียบกับช่วงที่มีการระบาดสูงสุด"
"อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าองค์กรธุรกิจนั้นปลอดภัยจากการโจมตีด้วย Bruteforce ทั้งหมด เมื่อพิจารณาภาพรวมของภัยคุกคามที่ขยายกว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญของเราเห็นว่ากลุ่มแรนซัมแวร์สมัยใหม่ใช้ประโยชน์จาก RDP เพื่อเข้าถึงองค์กรที่เป็นเป้าหมายในเบื้องต้น นี่เป็นสัญญาณระดับธงแดงที่ทีมรักษาความปลอดภัยควรให้ความสำคัญ" นายโยวกล่าวเสริม
รายงานล่าสุดของแคสเปอร์สกี้เผยเทคนิคยอดนิยมที่กลุ่มแรนซัมแวร์ใช้เข้าถึงเบื้องต้น พบว่าการใช้ประโยชน์จากบริการระยะไกลภายนอกเกิดขึ้นบ่อยที่สุด
ในความเป็นจริง กลุ่มแรนซัมแวร์ทั้งแปดกลุ่มที่กล่าวถึงในรายงานซึ่งส่วนใหญ่ทำงานเป็น RaaS (Ransomware as a Service) ได้แก่ Conti, PysaClop (TA505), Hive, Ragnar Locker, Lockbit, BlackByte และ BlackCat ใช้แอ็คเค้าท์ที่ถูกต้อง ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมยหรือใช้การ bruteforcing เพื่อเข้าสู่เครือข่ายของเหยื่อ
รายงานยังระบุด้วยว่ากลุ่มแรนซัมแวร์ทั้งหมดใช้ RDP แบบเปิดเพื่อเข้าถึงระบบเบื้องต้น เนื่องจากเป็นเว็กเตอร์ที่ง่ายที่สุดสำหรับการเข้าถึงในครั้งแรก
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการป้องกันการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับ RDP คือการ 'ซ่อน' ไว้หลัง VPN และกำหนดค่าอย่างเหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องใช้พาสเวิร์ดที่รัดกุม
เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบของการโจมตีแรนซัมแวร์ที่เกิดจาก RDP Bruteforce ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้แนะนำให้ปรับใช้แนวคิดการป้องกันที่ครอบคลุมซึ่งจัดเตรียม ให้ข้อมูล และแนะนำทีมผู้ดูแลในการต่อสู้กับการโจมตีทางไซเบอร์ที่กำหนดเป้าหมายและซับซ้อนมากที่สุด อย่างเช่น แพลตฟอร์ม Kaspersky Extended Detection and Response (XDR)
องค์กรต่างๆ ที่สนใจ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนี้ได้ที่ go.kaspersky.com/expert
แคสเปอร์สกี้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดตัวโปรโมชั่นซื้อ 1 ฟรี 1 องค์กรธุรกิจสามารถใช้งานการป้องกันอุปกรณ์เอ็นด์พอยต์ระดับองค์กรเป็นเวลาสองปีในราคาหนึ่งปี ด้วย Kaspersky Endpoint Security for Business หรือ Cloud หรือ Kaspersky Endpoint Detection and Response Optimum พร้อมการสนับสนุนทางโทรศัพท์ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ [email protected]
แคสเปอร์สกี้เผย โจรไซเบอร์ยังใช้วิธี bruteforce เจาะธุรกิจอาเซียน พบการโจมตีมากกว่า 53 ล้านรายการ
แคสเปอร์สกี้รายงานภัยคุกคามไซเบอร์บนอุปกรณ์โจมตีธุรกิจอาเซียนเพิ่มขึ้น 15%
รายงานแคสเปอร์สกี้ระบุองค์กรอุตฯ เกือบ 40% กังวลความปลอดภัยไซเบอร์ขวางแผนดิจิทัล
Kaspersky เปิดคอร์สฝึกอบรมออนไลน์ฟรี เรื่อง AI ในระบบการศึกษา สำหรับนักการศึกษาและผู้ปกครอง
Kaspersky เผย องค์กรธุรกิจใน APAC เกินครึ่ง เลือกลงทุนเอ้าต์ซอร์สด้านความปลอดภัยไซเบอร์
Kaspersky เผย การละเมิดความปลอดภัยข้อมูลโดยพนักงานใน APAC อันตรายพอๆ กับการโดนแฮก
Kaspersky และ TSplus ลงนามความร่วมมือสร้างโซลูชัน Cyber Immune สำหรับการทำงานระยะไกล
Kaspersky ระบุ Cyber Immunity คือกุญแจสำคัญเพื่อปกป้องอนาคตแห่ง AI
แคสเปอร์สกี้ชี้ AI ช่วยเสริมทีมรักษาความปลอดภัยไอทีใน APAC ได้ แต่ต้องใช้อย่างรอบคอบ