บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) ฟอร์มสวย! เปิดผลงาน Q1/66 รายได้ค่าผ่านทาง เติบโต 62% หนุนกำไรสุทธิพุ่ง 75% จากงวดเดียวกันกับปีก่อน โดยมีปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยต่อวันรวม 107,655 คัน เพิ่มขึ้น 58% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี ฟากเอ็มดี "ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย" มั่นใจรายได้ปีนี้โตเกิน 30% หลังท่องเที่ยวฟื้นตัว คาดมีเที่ยวบินจากสายการบินนานาชาติมากขึ้น ซึ่งโอกาสที่จะกลับมาใช้ อาคาร 1 สนามบินดอนเมืองเป็นจุดเชื่อมไปยังภาคต่างๆ ของประเทศ เป็นแรงส่งให้ปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้ค่าผ่านทาง อยู่ที่ 576.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 253.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น75% โดยมีปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยต่อวันรวม 107,655 คัน ปรับเพิ่มขึ้น 58%
โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 จำนวน 400 ล้านบาท มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ที่อยู่ในระดับที่ต่ำหรือเท่ากับ 0.13 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่องเท่ากับ 0.89 เท่า และบริษัทฯ ยังคงมีวงเงินหมุนเวียนเพื่อสำรองไว้ใช้ในกิจการซึ่งยังมิได้เบิกใช้เป็นจำนวนเงินรวม 600 ล้านบาท (31 ธันวาคม 2565 : 1,000 ล้านบาท) ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการระดมทุนและศักยภาพ ในการเข้าร่วมประมูลโครงการที่ภาครัฐเปิดประมูลเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุน (Public-Private Partnership) ในอีกหลายโครงการมูลค่ามากกว่าหลายหมื่นล้านบาท รวมทั้งการขยายธุรกิจอื่นๆ
"ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มีการยกเลิกมาตรการต่างๆ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 แบบเต็มรูป ทุกกิจกรรมสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ส่งผลให้ปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ปี 2565 โดยสรุปภาพรวมปริมาณจราจรของทางยกระดับดอนเมือง ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เป็นปริมาณจราจรสูงที่สุดในรอบ 2 ปี อีกทั้ง เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตจะเห็นได้ว่าค่าเฉลี่ยไตรมาสที่1 ปี 2566 สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีของปี 2563 ซึ่งเป็นปีแรกของการระบาดของโรค COVID-19 ที่มีการล็อกดาวน์ 1 ครั้ง แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดในปี 2562 โดยปริมาณจราจรในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ส่วนสัมปทานเดิมเฉลี่ยต่อวัน 67,684 คันต่อวัน ส่วนสัมปทานตอนต่อขยายด้านทิศเหนือ เฉลี่ยต่อวัน 39,972 คันต่อวัน เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ ไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ที่มีปริมาณจราจรส่วนสัมปทานเดิมเฉลี่ยต่อวัน 62,829 คันต่อวัน ส่วนสัมปทานตอนต่อขยายด้านทิศเหนือ เฉลี่ยต่อวัน 38,276 คันต่อวัน คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 7.7% และ 4.4% ตามลำดับ โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2565 มีปริมาณจราจรส่วนสัมปทานเดิมเฉลี่ยต่อวัน 40,539 คันต่อวัน ส่วนสัมปทานตอนต่อขยายด้านทิศเหนือเฉลี่ยต่อวัน 27,621 คันต่อวัน เพิ่มขึ้น 67.0% และ 44.7% ตามลำดับ" ดร.ศักดิ์ดา กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในปี 2566 เติบโตมากกว่า 30% จากปีก่อน โดยคาดการณ์ปริมาณการจราจรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 110,000 คันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีปริมาณการจราจรเฉลี่ยอยู่ที่ 85,000 คันต่อวัน โดยจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณจราจรในไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด พบว่ายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกิดจากความมั่นใจในการออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน และประกอบกิจการ รวมถึงการเปิดภาคการศึกษา ซึ่งทำให้กิจกรรมการเดินทางนั้นสูงขึ้นตามไปด้วย
อีกทั้งการติดตามการเดินทางในรูปแบบอื่นๆ จากแหล่งข้อมูลภาครัฐก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกัน ด้านการติดตามการระบาดของ COVID-19 ภาครัฐได้มีการประกาศนโยบายที่ชัดเจนว่าการระบาดของ COVID-19 ได้ถึงระยะสิ้นสุดการระบาดแล้ว และจะไม่มีการจำกัดการเดินทาง การล็อคดาวน์อีกต่อไป เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกันธรรมชาติ และกลุ่มเสี่ยงก็ได้รับวัคซีนเป็นส่วนใหญ่แล้ว จึงเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้ไปกิจกรรมทุกอย่างจะทยอยกลับไปสู่สภาวะปกติเหมือนก่อนการระบาด
รวมไปถึงนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะทำให้อุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง และจะทำให้ปริมาณการเดินทางโดยรวมเพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่าจะมีเที่ยวบินจากสายการบินนานาชาติเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงจะมีการพิจารณาให้กลับมาใช้ อาคาร 1 สนามบินดอนเมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆของประเทศ เนื่องมาจากการติดตามแผนการขยายท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 มีความคืบหน้าในการดำเนินโครงการแล้ว แสดงให้เห็นว่าการเดินทางด้วยอากาศยานมีแนวโน้มขยายตัวหลังจากนี้ ส่งผลให้ปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนการติดตามปริมาณการเดินทางของรถไฟฟ้าสายสีแดงที่อยู่ติดกับทางยกระดับดอนเมืองนั้น พบว่า กลุ่มผู้ใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นคนละกลุ่มกับผู้ใช้ทางยกระดับดอนเมือง
ทั้งนี้การใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงปัจจุบันพบว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางรวมการเดินทางเชื่อมต่อและเข้าถึงสถานี (Feeder) ยังสูงกว่าการใช้ทางยกระดับ และอยู่ในการติดตามพฤติกรรมการเดินทางโดยรอบทางยกระดับดอนเมืองของบริษัทฯ โดยรูปแบบการเดินทางโดยรถยนต์ยังคงมีความจำเป็นในระบบคมนาคมขนส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้ง นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนการเดินทางด้วยรถยนต์ลดลงอีกด้วย
ททท. ชวนคนไทยร่วมงาน "เจ้าบ้านที่ดี : ปลุกพลังท่องเที่ยวไทย สู่อนาคตยั่งยืน"
เซ็นทาราคว้ารางวัลแห่งความยั่งยืน ในงานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568
โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ คว้ารางวัลดีเด่นประเภทโรงแรมหรู ในงาน Thailand Tourism Awards 2025 ครั้งที่ 15
ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม คว้า "รางวัลแห่งความยั่งยืน" จาก ททท. ย้ำศักยภาพเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช
โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว คว้ารางวัล "Thailand Tourism Sustainability Awards" ครั้งแรกของประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
บางกอกแอร์เวย์สรับรางวัลพระราชทานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประจำปี 2568 (Thailand Tourism Awards 2025) หนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
Best Western Chatuchak คว้ารางวัล Best Mid-Range Hotel-Bangkok ในงาน TTG Travel Awards 2025
Let's Relax Onsen & Spa Thonglor คว้ารางวัล Thailand Tourism Hall of Fame Awardsผู้ประกอบการสปาและเวลเนสรายเดียวที่ได้รับเกียรติยศนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจสปาและออนเซนของไทย