ลูกเป็น "ไข้หวัดธรรมดา" หรือว่า "ไข้หวัดใหญ่" กันแน่!

10 May 2023

ไข้หวัด,ไข้หวัดใหญ่ ถึงจะชื่อไข้หวัดเหมือนกัน แต่อันตรายต่างกันมากนะครับ...ยิ่งในเด็กเล็กเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจสับสนกับอาการไม่สบายของลูกว่าเป็น "ไข้หวัดธรรมดา" หรือ "ไข้หวัดใหญ่" กันแน่!!..

ลูกเป็น "ไข้หวัดธรรมดา" หรือว่า "ไข้หวัดใหญ่" กันแน่!

ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จากความแตกต่างของอาการ คือ ไข้หวัดใหญ่มักจะมีไข้สูงมาก คัดจมูก เจ็บคอ ปวดหัวมาก อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ซึ่งในเด็กเล็กอาจมีอาการที่รุนแรงกว่า หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือติดเชื้อแทรกซ้อนได้ เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายของเด็กเล็กยังมีไม่มากพอ

ส่วนไข้หวัดธรรมดานั้นอาการไข้จะน้อยกว่า น้ำมูกไหล และมีอาการไอร่วมด้วย

ทั่วไปถ้าเด็กติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มักจะหายได้เองใน 7-10 วัน โดยควรดูแลให้เด็กนอนพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอ เช็ดตัว ทานยาลดไข้ เพื่อบรรเทาอาการ แต่ถ้าเด็กมีอาการหนัก เช่น มีไข้สูง กินอาหารไม่ได้ ไอเยอะ มีเสมหะ ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ หรือในเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี เมื่อเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้สูง ไอจนเหนื่อย ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เช่นกัน เพราะเด็กอายุน้อยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดี หรือมีโรคประจำตัว

อย่างที่เราทราบกันว่าไข้หวัดใหญ่ติดต่อกันได้จากการสัมผัส ไอ จาม เอาเชื้อเข้าทางจมูกหรือปาก ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ คือ การไม่ให้ลูกอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วย เลี่ยงการอยู่ในที่แออัดมีคนเยอะๆ หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และอีกวิธีที่สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ดีคือการฉีด "วัคซีนไข้หวัดใหญ่" ป้องกัน ซึ่งสามารถฉีดได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป

** คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี ปีละ 1 ครั้ง เพราะถ้าเด็กเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit