ไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็วหลังได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ไซยาไนด์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ ทำให้เซลล์นำออกซิเจนไปใช้ไม่ได้จนเป็นอันตรายถึงชีวิต บทความให้ความรู้โดย พญ.ยิ่งลักษณ์ แสงเวหาสน์ แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศูนย์บริการผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ (Emergency Room) โรงพยาบาลนวเวช ได้อธิบายความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาการทางคลินิก การวินิจฉัย และการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับไซยาไนด์ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไป สามารถนำความรู้ไปใช้ในการดูแล และป้องกันคนรอบข้างได้อย่างทันท่วงที
ไซยาไนด์ มีกลิ่นเฉพาะตัวเรียกว่ากลิ่นอัลมอนด์ขม (Bitter almond) สามารถพบได้ในหลายรูปแบบ ได้แก่
อาการทางคลินิก
ผู้ป่วยมักจะเริ่มมีอาการหลังจากได้รับสารพิษภายในเวลาสั้น ๆ เป็นหลักนาที ทั้งนี้ความรุนแรงของอาการขึ้นกับ ปริมาณของสารพิษที่ได้รับ ระยะเวลาในการได้รับสารพิษ และวิธีการที่ได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะจากการกิน การสูดดม หรือการดูดซึมผ่านทางผิวหนัง
เกิดจากการได้รับไซยาไนด์เข้าไปในปริมาณมาก อาการมักจะเกิดขึ้นในทันที เริ่มจากปวดศีรษะ ใจสั่น หน้าแดง หายใจติดขัด ชัก วูบหมดสติ หยุดหายใจ และอาจมีภาวะหัวใจหยุดเต้นได้ภายในเวลา 10 นาที สังเกตสีบริเวณผิวหนังและเยื่อบุจะแดงคล้ายคนปกติ ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะมีภาวะหยุดหายใจก็ตาม
เกิดจากการได้รับไซยาไนด์ปริมาณเล็กน้อยต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ทำให้กดการทำงานของระบบประสาทและการหายใจ เกิดอาการปวดศีรษะ ง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น และอาจมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา เช่น รูม่านตาขยาย ตัวเย็น อ่อนแรง หายใจช้า เป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน อาจทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด
การวินิจฉัย
เนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจหาระดับไซยาไนด์ในเลือดได้ทันที รวมถึงภาวะพิษจากไซยาไนด์นั้นเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องได้รับการรักษา ดังนั้นการวินิจฉัยเบื้องต้นจึงอาศัยข้อมูลจากประวัติ อาการ และอาการแสดงของผู้ป่วย รวมถึงผลตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เข้าได้กับพิษจากไซยาไนด์ เช่น การตรวจพบค่าออกซิเจนในเลือดดำสูง ตรวจพบเลือดเป็นกรดรุนแรง และค่าแลคเตสสูง เป็นต้น
การรักษาเบื้องต้น
หากสัมผัสกับสารชนิดนี้ ควรรีบลดปริมาณสารดังกล่าวให้ได้มากที่สุด มีวิธีการรับมือ ดังนี้
"โรงพยาบาลนวเวช" มุ่งมั่นให้บริการทางการแพทย์ที่ดี และเข้าถึงง่าย (Accessible Quality Healthcare) พร้อมดูแลสุขภาพของทุกคนอย่างเข้าอกเข้าใจ ด้วยบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย และทีมแพทย์เฉพาะทาง หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดและขอรับคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์บริการผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ (Emergency Room) โรงพยาบาลนวเวช โทร. 02 483 9999 I Line: @navavej I www.navavej.com
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประเทศไทยมักเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะภาวะ โรคลมแดด (Heat Stroke) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่เกิดจากการได้รับความร้อนมากเกินไป ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นจนระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกายล้มเหลว หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะช็อก (Shock) หรืออวัยวะล้มเหลว (Organ Failure) ได้ บทความให้ความรู้โดย นพ.กิตติภูมิฐ์ กวินโชติไพศาล แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศูนย์บริการผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ (Emergency Room)
เคล็ดลับความสำเร็จจากศิษย์เก่าของ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ในวันสตรีสากลสำหรับแพทย์หญิงรุ่นใหม่
—
เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ...
ชวนมารู้จักกับ 10 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินที่พบบ่อยที่สุด!
—
อาการเจ็บป่วย และเหตุการณ์ฉุกเฉินทางสุขภาพสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเวลา และทุกสถานที่ การรู้จ...
เมื่อไหร่ที่คุณควรเรียกรถพยาบาล (When to call ambulance)
—
การเดินทางปัจจุบันทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล หรือต่างจังหวัด อาจเกิดความล่าช้า เนื่องจากการจราจรที่ต...
Heat Stroke โรคลมร้อน อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ป้องกัน
—
โรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภ...
เดินทางปลอดภัย.. ในช่วงเทศกาลปีใหม่
—
ในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 โรงพยาบาลหัวเฉียวขอส่งความปรารถนาดีต่อทุกท่านให้มีสุขภาพ...
"ฮีทสโตรก" ภัยเงียบหน้าร้อนที่ไม่ควรมองข้าม
—
ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนทำให้สภาพอากาศร้อนขึ้นอย่างเห็น...
เอกชล 2 เตรียมความพร้อมแผนปฏิบัติการเชิงรุก Trauma & Emergency อุบัติเหตุและฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
—
รพ.เอกชล 2 นำโดยนายแพทย์เกศดา จันทร์สว่าง ผอ.ฝ่ายการแ...