ในวันที่ 19-22 กุมภาพันธ์ สมาคมผู้ส่งออกตุรกี (TIM) ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์แห่งประเทศตุรกีและสหภาพผู้ส่งออกอนาโตเลียกลาง (OAIB) จะจัดงาน "การเยือนประเทศไทยของคณะผู้แทนการค้าตุรกี" โดยบริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศตุรกีจะเข้าร่วมคณะผู้แทนการค้า เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและผลิตภัณฑ์ของพวกเขาต่อธุรกิจที่มีศักยภาพเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทย
ส่วนหนึ่งของกิจกรรมภายใต้กรอบของการเยือนประเทศไทยของคณะผู้แทนการค้า คือการจัดงานประชุมธุรกิจทวิภาคี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ที่โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ งานประชุมจะเริ่มด้วยการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน ตามด้วยการสร้างสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจจากประเทศตุรกีและประเทศไทย กิจกรรมนี้ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลและจับคู่ธุรกิจเพื่อสนับสนุนความร่วมมือพันธมิตรระหว่างบริษัทจากทั้งสองประเทศ ผู้ส่งออกชั้นนำจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ควบคุมสภาพอากาศ ยารักษาโรคและเคมีภัณฑ์สิ่งทอและวัตถุดิบ รวมถึงผู้ส่งออกสินค้าการเกษตรและปศุสัตว์ จะเข้าร่วมงานประชุมในครั้งนี้เพื่อนำเสนอนวัตกรรมของพวกเขาต่อธุรกิจที่มีศักยภาพเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทย
ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศตุรกีและประเทศไทยนั้นมีความแข็งแกร่งมาตั้งแต่ในอดีต และได้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมในช่วงหลังการระบาดใหญ่ การค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศขยายตัวถึง 35% ในปี พ.ศ. 2564 และ 18% ในปี พ.ศ. 2565 จนมีมูลค่ากว่า 1,933 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มูลค่าการส่งออกจากประเทศตุรกีมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น 28% ในปี พ.ศ. 2564 และ 20% ในปี พ.ศ. 2565 จนถึง 282.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์มีสัดส่วนการส่งออกมายังประเทศไทยเป็นอันดับ 1 โดยมีมูลค่า 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ภาคส่วนอื่น ๆ ที่มีการขยายตัวสูงในปี พ.ศ. 2565 ได้แก่ อัญมณี (181%), สินค้าประมงและปศุสัตว์ (90%), สินค้าจากซีเมนต์ แก้ว เซรามิก และดิน (40%), อากาศยานและการป้องกันประเทศ (38%), เหล็ก (33%), และ ธัญพืช ถั่ว และเมล็ดพืชน้ำมัน (30%)
"ประเทศตุรกีประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการค้าระหว่างประเทศในช่วงหลังการระบาดใหญ่ หากเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกของประเทศตุรกีมีการขยายตัวมากกว่าอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกทั่วโลกถึง 10% ความหลากหลายของสินค้าและอัตราการผลิตเพิ่มมากขึ้น จำนวนชนิดสินค้าสำหรับการส่งออกเพิ่มขึ้นจนถึง 5,000 ชนิด และจำนวนบริษัทส่งออกเพิ่มขึ้นจนเกิน 100,000 ราย" คุณ Nihat Uysalli ประธานคณะกรรมการสหภาพผู้ส่งออกอนาโตเลียกลาง กล่าว
"การส่งออกมายังประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการเกษตรและปศุสัตว์, ยาและเคมีภัณฑ์, เหมืองแร่และโลหะ, เครื่องจักร, และเครื่องปรับอากาศ อุตสาหกรรมดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเติบโตของการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจจะช่วยให้ประเทศของเราฟื้นตัวได้โดยเร็ว"
คุณสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมการประชุมธุรกิจทวิภาคี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 9.00-17.30 น. ได้ที่เว็บไซต์ https://www.midas-pr.com/turkiye-trade-delegation/
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ชูคุณค่าหัตถกรรมท้องถิ่นไทย ขึ้นทะเบียน GI "กกเหล่าพัฒนา" ตอกย้ำเอกลักษณ์เสื่อกกนครพนม พร้อมเดินหน้าต่อยอดสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
เอิร์ธ ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ ขนสินค้าราคาประหยัด บุกงานธงฟ้า หวังลดค่าครองชีพประชาชน
MOTHER ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ผ่านโครงการ "รวมพลังห้างท้องถิ่น ลดยิ่งใหญ่ ไทยช่วยไทย"
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยกระดับความร่วมมือ สถาบันอาหาร พัฒนา "อุตสาหกรรมอาหารไทย" ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไม่หยุดนิ่ง
"ทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด" ผลไม้ทองคำ โกยรายได้ทะลุ "หมื่นล้าน" ครองแชมป์สินค้า GI ทำเงินสูงสุดในปี 2568
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมงาน "พาณิชย์ลดราคา เทศกาลกินเจ 2568" นำเสนอเมนูเจต้นตำรับและวัตถุดิบคุณภาพครบครัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "เดอะเจ เจนเนเรชั่น"
SME D Bank ร่วมทัพ ก.พาณิชย์ ขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win เสริมแกร่งผู้ประกอบการรายย่อย/โชห่วย ยกระดับด้วยบริการ "พัฒนาคู่เติมทุน"
กรมทรัพย์สินทางปัญญา เสริมเกราะผู้ประกอบการไทย เดินหน้าโครงการ "Trademark Monitor" เฝ้าระวังแบรนด์ไทยถูกต่างชาติฉวยโอกาสนำไปจดเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศป้องกันความเสียหายได้ทันท่วงที