BRR ปลื้มได้รับมาตรฐาน FSC โครงการ Wood Pellet คาดทำรายได้กว่า 17 ล้าน USD ต่อปี จากสัญญารับซื้อระยะยาว 15 ปี

21 Feb 2023

BRR ปลื้มได้รับมาตรฐาน FSC โครงการ Wood Pellet คาดทำรายได้กว่า 17 ล้าน USD ต่อปี จากสัญญารับซื้อระยะยาว 15 ปี เร่งเดินหน้าขายคาร์บอนฯ ในพื้นที่สัมปทาน 4 หมื่นไร่ในสปป.ลาว

BRR ปลื้มได้รับมาตรฐาน FSC โครงการ Wood Pellet คาดทำรายได้กว่า 17 ล้าน USD ต่อปี จากสัญญารับซื้อระยะยาว 15 ปี

โครงการเชื้อเพลิงชีวมวล หรือ Wood pellet ภายใต้การนำของบมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) ล่าสุดได้รับรองมาตรฐาน FSC การันตีผลิตภัณฑ์จากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่บริหารจัดการอย่างมีความรับผิดชอบตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยทยอยเร่งปลูกป่าพื้นที่ 40,000 ไร่ เป็นวัตถุดิบ พร้อมดันโอกาสเติบโตในธุรกิจคาร์บอนเครดิต ฯ วางเป้าสร้างรายได้อีก 2 ปีข้างหน้า ด้านโครงการเชื้อเพลิงชีวมวลแห่งแรกในสปป.ลาว มียอดจองซื้อเต็มกำลังการผลิตระยะยาว 15 ปี รวมมูลค่าซื้อขาย 17 ล้าน USD ต่อปี คาดรับรู้รายได้ ไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมเตรียมขออนุญาตพื้นที่สัมปทานลาวเพิ่มเติม และเดินหน้าขยายเฟสถัดไป

นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง (Wood Pellet) ในสปป.ลาว ที่ได้ร่วมกับพันธมิตรในนามบริษัท สีพันดอน - ราชลาว จำกัด โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี ซึ่งมีสัญญาจองซื้อระยะยาว 15 ปี จากบริษัทในประเทศญี่ปุ่น ที่ราคาเฉลี่ย 170 USD ต่อตัน คิดเป็นรายได้มูลค่า 17 ล้าน USD ต่อปี คาดการณ์เริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปี 2566

ด้วยความต้องการพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลเพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในประเทศญี่ปุ่น โดยในปี 2562 มีปริมาณการนำเข้า Wood Pellet ในประเทศญี่ปุ่น อยู่ที่ 1.61 ล้านตัน ซึ่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี ทำให้มีบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำมากมายมองหาแหล่งผลิตเพื่อนำเข้าเชื้อเพลิงดังกล่าว จากความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กอปรกับบริษัทมีพื้นที่สัมปทานขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งปลูกไม้วัตถุดิบและความเชี่ยวชาญในการผลิต Wood Pellet บริษัทจึงเดินหน้าศึกษาโครงการเพิ่มเติม เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ในขณะเดียวกันยังได้เริ่มเจรจากับนักลงทุน และเร่งขอพื้นที่สัมปทานเพื่อปลูกป่าในสปป.ลาว เพิ่มเติม

จากศักยภาพและความเชี่ยวชาญในการจัดการพื้นที่ขนาดใหญ่ในสปป.ลาว ทำให้ BRR ได้เปรียบในการตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อรายใหญ่จากญี่ปุ่นที่มีความต้องการ Wood Pellet ในปริมาณมาก โดยล่าสุดโครงการ Wood Pellet ในพื้นที่สัมปทาน 40,000 ไร่ ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC (Forest Stewardship Council) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับจากผู้ซื้อในตลาดระดับสากล และการันตีได้ว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการตรวจสอบตลอดห่วงโซ่อุปทาน และมั่นใจได้ว่ามาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่มีการบริหารจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ

นอกจากนั้น การปลูกไม้เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิต Wood Pellet ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยังสร้างรายได้ให้แก่บริษัทด้วยการขายคาร์บอนเครดิตอีกด้วย จากการปลูกไม้ในพื้นที่ จะสามารถดูดซับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 6 ตันคาร์บอนฯ ต่อไร่ ซึ่งราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ 50-100 USD ต่อตันคาร์บอนฯ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมจัดทำเอกสารเพื่อขอรับรองและขึ้นทะเบียนการขายคาร์บอนเครดิตตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งได้หารือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของสปป.ลาว