"เวียนศีรษะบ้านหมุน" อย่าลืมคิดถึง 3 สาเหตุนี้

1. โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน พบได้บ่อยที่สุดโดยสามารถสังเกตได้ว่าอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่เกิดขึ้นนั้นกินเวลาเป็นวินาทีถึงนาที จะเกิดอาการขึ้นทันทีทันใดขณะที่ผู้ป่วยขยับศีรษะ หากปรับศีรษะให้อยู่นิ่งแล้วอาการเหล่านั้นจะหายไปและเมื่อใดที่ขยับศีรษะไปในทางทิศทางเดิมก็จะกลับมาเวียนหัวบ้านหมุนอีก

วิธีแก้ไข ทำได้โดยการทำกายภาพด้วยการหมุนศีรษะเพื่อช่วยเคลื่อนตะกอนหินปูนให้กลับเข้าที่ปกติตะกอนหินปูนมันจะเกาะกลุ่มกันแน่นอยู่ในกระเปาะเพื่อทำหน้าที่รักษาการทรงตัว แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปร่างกายมีการเสื่อมสภาพ หรือในรายที่อายุน้อยกว่า50ปี มักเกิดจากอุบัติเหตุการบาดเจ็บที่ศีรษะ ทำให้ตะกอนหินปูนบางส่วนหลุดลอยออกมาแล้วเข้าไปอยู่ในท่อน้ำของการทรงตัว ซึ่งเมื่อหันศีรษะไปทางด้านที่ตะกอนหินปูนหลุด หินปูนก็จะเคลื่อนตัวกระตุ้นน้ำในหูข้างนั้นก็จะส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนขึ้นมาทันที

วิธีการรักษา ต้องทำให้ตะกอนหินปูนเคลื่อนที่กลับเข้าสู่ที่เดิมด้วยการทำกายภาพและหมุนศีรษะจะใช้เวลาครั้งละประมาณ10-15 นาที เสร็จแล้วก็แนะนำการปฏิบัติตัวประมาณ 1 สัปดาห์ค่อยนัดกลับมาดูอาการกันอีกครั้ง 1 ใน 3 ของผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคนี้แล้วหายจะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ภายใน 1 ปี จึงควรต้องระวังตัวเองด้วยการพักผ่อนให้มาก หลีกเลี่ยงการก้มเงยบ่อยครั้งหรือการขยับศีรษะเร็วๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกลับมาเป็นใหม่ 

2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากันเป็นกรณีที่ระบบหูชั้นในไม่สามารถรักษาสมดุลของน้ำในหูได้ จึงเป็นผลให้แรงดันน้ำในหูเพิ่มขึ้นและเกิดผลกระทบต่อทั้งระบบการทรงตัวและการได้ยินพบได้ในช่วงอายุ 30-50 ปี อัตราเกิดโรคในผู้ชายและผู้หญิงจะใกล้เคียงกัน ผู้ป่วยจะมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนเป็นเวลานานเกิน 20 นาทีขึ้นไป โดยเกิดได้นานหลายชั่วโมงทั้งนี้มักมีอาการทางหูร่วมด้วย คือผู้ป่วยจะรู้สึกแน่นๆ ในหูอันเกิดจากแรงดันน้ำในหู การได้ยินลดลง และเกิดเสียงดังในหูขึ้นมา

วิธีการรักษา แพทย์จะใช้วิธีปรับระดับสมดุลของน้ำในหูด้วยการให้ยาขับปัสสาวะเพื่อลดระดับน้ำในหู ให้ยาเพิ่มเลือดไปเลี้ยงหูชั้นใน ร่วมกับการปรับพฤติกรรมต่างๆ ได้แก่การงดของเค็ม การงดแอลกอฮอล์ การงดคาเฟอีน รวมถึงปัจจัยกระตุ้นเช่นความเครียดการอดนอนแต่ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยการทานยาแล้วไม่ดีขึ้น หรือปรับพฤติกรรมแล้วไม่ดีขึ้นก็ยังมีวิธีรักษาด้วยการฉีดยาเข้าหูชั้นในผ่านทางแก้วหูหรือการผ่าตัด

3. ประสาทการทรงตัวอักเสบโดยมีสาเหตุส่วนใหญ่จากการติดเชื้อไวรัสผู้ป่วยจะมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนนานเป็นวัน แล้วอาการเวียนศีรษะจะรุนแรงมากมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย

วิธีการรักษา การรักษาเส้นประสาทหูชั้นในอักเสบจะใช้ยาในการรักษาช่วงแรกเพื่อกดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน หลังจากนั้นอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนดีขึ้นแล้วก็จะสอนการทำกายบริหารเพื่อช่วยปรับสมดุลของหูทั้ง 2 ข้างให้กลับมาเป็นปกติ

** เบื้องต้นในกรณีที่เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนเฉียบพลันขึ้นมา สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หยุดทุกอย่างอยู่นิ่ง ๆ หาที่เกาะแล้วนั่งลง หรือนอนราบลงกับพื้นเป็นการป้องกันอุบัติเหตุๆ หากได้นอนพัก-หลับตา หรือจ้องไปที่วัตถุใดที่มันนิ่งก็จะช่วยลดอาการเวียนศีรษะได้

• ข่าวสิ่งแวดล้อม
• ข่าวคิดถึง
• ข่าวทิศทาง
• ข่าวชั้นใน
• ข่าวสามารถ