The Good Market รวมตัวเหล่าครีเอเตอร์-นักช้อปยุคใหม่ ปลุกกระแสแฟชั่นมือสองเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

วีโร่ (Vero) บริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบความสำเร็จในการจัดงาน "The Good Market" ตลาดนัดแฟชั่นมือสองสุดสร้างสรรค์ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 ณ 515 Victory กรุงเทพฯ โดยงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตลาดซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงเหล่านักช้อปกับอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ชื่อดังที่หลงใหลในการแลกเปลี่ยนสินค้าแฟชั่นมือสอง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน

The Good Market เป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นภายในออฟฟิศของวีโร่อย่าง The Good Shop ที่เปลี่ยนมุมเล็ก ๆ ของสำนักงานสาขากรุงเทพฯ ให้กลายเป็นป็อปอัพสโตร์ขนาดย่อมที่เปิดพื้นที่ให้พนักงานและแขกผู้มาเยือนได้แลกเปลี่ยน ซื้อขายเสื้อผ้าและของใช้มือสองกัน ต่อมาโครงการ The Good Shop ได้จุดประกายให้เกิดโครงการอื่น ๆ ภายในองค์กรตามมา ไม่ว่าจะเป็น The Good Food และ The Good Waste ซึ่งต่างมีเป้าหมายเดียวกันในการปลูกฝังแนวคิดเรื่องความยั่งยืนให้อยู่ในดีเอ็นเอของทุกคนในวีโร่ โดยใช้จุดแข็งของวีโร่ในด้านการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์แถวหน้า มาสร้างสรรค์เป็นตลาดนัดชุมชนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมและสนุกไปกับกิจกรรมมากมายภายในงาน

ปลุกกระแสสโลว์แฟชั่นผ่านพลังของเหล่าครีเอเตอร์

The Good Market ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้ร่วมงานกว่า 200 คน โดยมีอินฟลูเอนเซอร์ แบรนด์ และร้านอาหารมาร่วมออกบูธกว่า 27 ร้าน ที่ต่างชูจุดเด่นด้าน Slow-fashion (แนวคิดการส่งเสริมการใช้เสื้อผ้าอย่างคุ้มค่าและส่งต่อให้ผู้อื่นแทนการทิ้งขว้าง เพื่อลดการผลิตเกินความต้องการ) และการใช้วัสดุใช้ซ้ำและวัสดุรีไซเคิลในการจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ ยังมีบูธอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเวิร์กช็อปงานฝีมือที่ทั้งสร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

งานนี้ยังได้รับเกียรติจากอินฟลูเอนเซอร์แถวหน้าของเมืองไทย อาทิ Ployptk, Tantandiary, Kukkick, Katrinyaphat และ Passariya ที่มาร่วมตั้งบูธขายของมือสองในสไตล์ของตัวเอง พร้อมกันนี้ยังช่วยส่งต่อแนวคิดแฟชั่นอย่างยั่งยืนผ่านโซเชียลมีเดียของพวกเขาไปยังผู้ติดตามนับล้าน

นอกจากนี้ สายกินได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารและเครื่องดื่มมากมายโดยไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะโซนอาหารและเครื่องดื่มทุกเมนูถูกเสิร์ฟมาในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะที่เหล่านักช้อปสายครีเอทีฟก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมเวิร์กช็อป D.I.Y Upcycling ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แปลงโฉมของเหลือใช้ให้กลายเป็นไอเท็มสุดเก๋ ตอกย้ำว่าความยั่งยืนกับความคิดสร้างสรรค์สามารถไปด้วยกันได้อย่างลงตัว

ผนึกความร่วมมือเพื่อส่งต่อแนวคิดที่ยั่งยืน

นอกเหนือจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นภายในงานแล้ว The Good Market ยังเปิดพื้นที่ให้กับองค์กรด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมได้เข้ามาแบ่งปันเรื่องราวและภารกิจของพวกเขากับผู้ร่วมงานอย่างใกล้ชิด หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือมูลนิธิ Seven Clean Seas ที่มาสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาขยะพลาสติกในท้องทะเล พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับระบบนิเวศทางทะเล นอกจากนี้ รายได้จากการจัดงาน The Good Market หลังหักค่าใช้จ่าย จะถูกนำไปมอบให้กับมูลนิธิฯ เพื่อสนับสนุนภารกิจในการอนุรักษ์และฟื้นฟูท้องทะเลอย่างยั่งยืนอีกด้วย

หนึ่งจุดเด่นที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน คือบูธจาก "ร้านปันกัน" ภายใต้มูลนิธิยุวพัฒน์ ที่นำเสื้อผ้าและของใช้มือสองคุณภาพเยี่ยมมาจำหน่ายในราคาสุดคุ้ม โดยรายได้ทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ในการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเยาวชนที่ขาดโอกาสทั่วประเทศ นอกจากนี้ ร้านปันกันยังเปิดรับบริจาคเสื้อผ้าที่เหลือจากงาน The Good Market เพื่อนำไปต่อยอดและส่งต่อภารกิจในการสร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

อีกหนึ่งพันธมิตรสำคัญที่มาร่วมงานในครั้งนี้คือหน่วยงานภาครัฐอย่าง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่มาร่วมออกบูธให้ความรู้เกี่ยวกับระบบการจัดการและการแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านแคมเปญ "ไม่เทรวม" ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานอย่างล้นหลาม

The Good Market ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์และองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น Unilever International พร้อมด้วยแบรนด์ ฟลูโอคารีล, Closeup (ใกล้ชิด), Simple, Hellmann's, และ Vaseline ที่ขนผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่มีการปรับใช้แนวทางความยั่งยืนอย่าง ฟลูโอคารีล แบรนด์ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูโอไรด์เป็นรายแรกของฝรั่งเศส มาจัดแสดงและมอบตัวอย่างสินค้าให้ผู้ร่วมงานได้ทดลองใช้ ขณะเดียวกัน แบรนด์เฟอร์นิเจอร์อย่าง PDM ก็ได้ร่วมออกแบบพื้นที่ภายในงานด้วยเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุรีไซเคิล ช่วยเติมบรรยากาศให้มีชีวิตชีวาและสื่อถึงแนวคิดรักษ์โลกได้อย่างลงตัว

"แม้แต่การปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยของเรา ก็สามารถส่งผลกระทบในวงกว้างต่อผู้คนทั่วโลกได้" คุณธันย์ชนก ชูชาติ Assistant Marketing Manager จาก Unilever International Thailand กล่าว พร้อมเผยว่าปัจจุบันยูนิลีเวอร์มีผู้บริโภคมากกว่า 3.4 พันล้านคนทั่วโลก ทำให้การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เช่น การลดปริมาณพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ ก็สามารถช่วยลดการใช้ทรัพยากรได้อย่างมหาศาล "ภายใต้แผน Unilever's Sustainable Living Plan เรามุ่งมั่นลดการใช้พลาสติกและทรัพยากรในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2582"

คุณฐาปนีย์ สินาดโยธารักษ์ ผู้อำนวยการโครงการร้านปันกัน ภายใต้มูลนิธิยุวพัฒน์ ได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของร้านปันกันว่า เป็นพื้นที่เปิดให้ผู้คนสามารถนำสิ่งของในชีวิตประจำวันมาบริจาค เพื่อเปลี่ยนเป็นทุนการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาส เธอกล่าวว่า "ในปีที่แล้วเพียงปีเดียว เราได้รับบริจาคสิ่งของมากกว่า 3 ล้านชิ้น และสามารถแปรเปลี่ยนสิ่งของเหล่านั้นให้กลายเป็นทุนการศึกษาได้กว่า 10,000 ทุน เพื่อมอบให้กับนักเรียนทั่วประเทศที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา"

ในฐานะตัวแทนของอินฟลูเอนเซอร์และผู้บริโภค คุณพิชยา ขำประสิทธิ์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Tantandiary ได้สะท้อนบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ในการผลักดันไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน โดยกล่าวว่า "ในฐานะคนที่แบ่งปันทุกแง่มุมของชีวิตผ่านโซเชียลมีเดีย เรารู้ดีว่าการที่เราหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราคนเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามของเราหันมาสนใจและลุกขึ้นมาทำตาม และเมื่อทำไปด้วยกัน เราจะสามารถลดจำนวนขยะที่ไหลลงสู่ทะเลหรือถูกฝังกลบโดยไม่จำเป็นได้จริง ๆ"

และอีกหนึ่งผู้สนับสนุนที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ 515 Victory ที่เอื้อเฟื้อสถานที่จัดงานและบริการอย่างครบวงจรตลอดทั้งวัน และต้องขอขอบคุณค่าย LOVEiS Entertainment ที่มาร่วมเติมสีสันให้กับงานด้วยมินิคอนเสิร์ตจากวง "Rooftop" รวมถึงค่าย Vivify Label ที่มอบการแสดงสดสุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งแรกของ "Baccuz" บอยกรุ๊ป T-Pop หน้าใหม่ที่มาสร้างความประทับใจให้แฟน ๆ

พื้นที่ใหม่สำหรับครีเอเตอร์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ความสำเร็จของ The Good Market ไม่เพียงสะท้อนถึงความสามารถของวีโร่ในการจัดอีเวนต์ที่โดดเด่น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์โซลูชันด้านความยั่งยืนผ่านความเชี่ยวชาญในการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ การมีความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานภาครัฐ และที่สำคัญคือการประสานเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์ที่มาร่วมงาน ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลงนามในปฏิญญา Clean Creatives และได้รับการรับรองมาตรฐาน B Corp ในทุกสำนักงาน วีโร่ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมเหล่านี้ไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

"งาน The Good Market ที่จัดขึ้นครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ตลาดนัดมือสองธรรมดา แต่เป็นพื้นที่ใหม่ที่นำพาครีเอเตอร์และผู้บริโภคสายรักษ์โลกให้ได้มาเจอกัน เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม" คุณอุมาพร วิทเทเกอร์-ทอมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้า ของวีโร่ กล่าว "The Good Market ไม่เพียงแต่ท้าทายกระแสฟาสต์แฟชั่นแบบเดิม ๆ แต่ยังเป็นแนวคิดใหม่ที่แบรนด์ อินฟลูเอนเซอร์ และผู้บริโภคสามารถร่วมมือกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารที่มีความสัมพันธ์อันดีกับอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ เรามุ่งมั่นทุ่มเทความเชี่ยวชาญของเราเพื่อผลักดันให้โครงการนี้กลายเป็นคอมมูนิตี่ถาวรแห่งใหม่ที่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ชั้นนำของประเทศได้ร่วมกันซื้อขายและแลกเปลี่ยนแฟชั่นมือสอง"

หากแบรนด์ของคุณต้องการไอเดียใหม่ ๆ สำหรับโครงการด้านความยั่งยืน หรืออยากเชื่อมต่อกับอินฟลูเอนเซอร์สายรักษ์โลก ติดต่อวีโร่ได้ที่: [email protected]

• ข่าวอินฟลูเอนเซอร์
• ข่าวและสิ่งแวดล้อม
• ข่าวสินค้ามือสอง
• ข่าวสิ่งแวดล้อม
• ข่าวการสื่อสาร