นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการแถลงผลงานการส่งเสริมการศึกษาและการมีงานทำให้แก่นักเรียน นักศึกษา และแรงงานทุกระดับ ระหว่าง กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงแรงงาน ในงาน"ศึกษาธิการ - แรงงานร่วมใจ สู่ไทยมีงานทำ" โดยมี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมแถลงด้วย นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวต้อนรับ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารสถานศึกษา สถานประกอบการนักเรียน นักศึกษาหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดปทุมธานี ร่วมให้การต้อนรับ ณ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีนโยบายสำคัญในส่งเสริมการมีงานทำและพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกช่วงวัย กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษาและการมีงานทำให้แก่นักเรียน นักศึกษา และแรงงานทุกระดับ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการในการส่งเสริมการมีงานทำพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา และแรงงานทุกระดับให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะฝีมือตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายลง ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและบริการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สถานประกอบการมีความต้องการแรงงานเพิ่มมากขึ้นความร่วมมือในระดับทวิภาคีระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และสถานประกอบกิจการในครั้งนี้ จึงเป็นการตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานให้กับภาคธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างตรงจุด ในวันนี้จึงถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ทั้งสองกระทรวงได้มาร่วมแถลงผลการดำเนินงานจากความร่วมมือในการส่งเสริมการศึกษาและการมีงานทำให้แก่นักเรียน นักศึกษา และแรงงานทุกระดับ
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงาน สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานหลักในการเชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ Big Data ที่มีข้อมูล นักเรียนนักศึกษา ตำแหน่งงานว่าง ความต้องการแรงงานของสถานประกอบการ การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อให้ทั้งสองกระทรวงสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนนำไปวิเคราะห์ความต้องการแรงงานในอนาคต ปัจจุบันได้นำร่องไปแล้วในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานคร สามารถเชื่อมโยงข้อมูลนักเรียนนักศึกษา แล้วจำนวน 658,455 คน ในส่วนของกรมการจัดหางาน ได้ใช้ฐานข้อมูลดังกล่าว เพื่อให้บริการจัดหางานผ่านแพลตฟอร์ม "THAI มีงานทำ" เป็นการอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนและเพิ่มช่องทางให้นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการทำงานช่วง (Part Time) หรือจบการศึกษาแล้วได้ลงทะเบียนเพื่อจับคู่ตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของตนเอง
ขณะที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้พัฒนาหลักสูตรเพื่อเชื่อมโยงมาตรฐานฝีมือแรงงานตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ up skill นักเรียน นักศึกษาก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงานใน 12 กลุ่มเทคโนโลยีกว่า 2,500 หลักสูตร เกิดประโยชน์กับนักเรียน นักศึกษากว่า 593,329 คน จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในสถานศึกษาครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 264 แห่ง มีนักเรียน นักศึกษาเข้ารับการทดสอบมากกว่า 250,000 คน ยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอรับรองเป็นศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถ ตามมาตรฐานฝีมือแรงงานในสาขาอาชีพที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะจำนวน 12,000 บาท ให้กับสถานศึกษาภาครัฐในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ส่งเสริมและพัฒนาการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี เชื่อมโยงการแข่งขันทักษะกับการแข่งขัน World Skills เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา มีสมรรถนะสูงตามมาตรฐานสากล
"ผลจากการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลร่วมกันของทั้งสองกระทรวงในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการพลิกโฉมการบูรณาการทรัพยากรไปสู่การพัฒนาศักยภาพ นักเรียน นักศึกษา และแรงงานทุกระดับให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีสมรรถนะสูง เพื่อเป็นกำลังหลักในการพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป" รมว.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาหลักสูตร บุคลากรและครูผู้สอน ที่เหมาะสมในแต่ละบริบทของพื้นที่ ส่งเสริมการจัดอาชีวศึกษาด้านระบบทวิภาคและขยายผลไปยังสถานประกอบการ จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถในสถานศึกษาให้ครบทุกจังหวัดรวมทั้งสนับสนุนในการวางแผนการผลิตกำลังคนที่ต้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในภาคเอกชน ผ่านระบบฐานข้อมูล Big Data เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษามีงานทำ มีอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เร่งเดินหน้าการเป็นเจ้าภาพหลัก สำหรับประเทศไทยในการร่วมจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ "The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025" ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ภายใต้การนำของ 3 กระทรวงใหญ่ของไทย อย่าง กระทรวง ดีอี, กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์
"คุรุสภา"ขับเคลื่อน Thailand Teacher Academy พัฒนาครูด้วยองค์ความรู้เฉพาะด้านอย่างมืออาชีพ
—
ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า จากนโยบาย ...
"ซีเอ็ด" รับมอบรางวัล "หน่วยงานที่สนับสนุนหนังสือและสื่อให้แก่กรมส่งเสริมการเรียนรู้" ในงานเทิดพระเกียรติ "เจ้าฟ้านักอ่าน" ปี 2568
—
บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น...
พช.ปทุมธานี ชวนเที่ยว "มหกรรม OTOP ปทุมธานีสานสัมพันธ์พระนครศรีอยุธยา"
—
วันจันทร์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ ณ บริเวณ Event Park ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จังหว...
พช.พระนครศรีอยุธยา ชวนเที่ยว มหกรรมOTOP ปทุมธานีสานสัมพันธ์พระนครศรีอยุธยา
—
วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่ ลาน โปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พา...
เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์สนับสนุนพื้นที่จัดกิจกรรมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และให้ความรู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง
—
นางสาววราภรณ์ ตติปาณิเทพ ผู้จัดการทั่วไ...
เอ็ม บี เค สนับสนุนพื้นที่ในโครงการริเวอร์เดล ดิสทริค จัดการแข่งขัน Night Run "Change The Future 2023"
—
ผู้บริหารเอ็ม บี เค นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าห...
BWG ผนึกกำลังพันธมิตรในความร่วมมือโครงการ "ส่งขยะกลับบ้าน"
—
ดร.สิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าวโครงการ "ส่งขย...