"แอตต้า" จับมือ บพข. นำทัพนักธุรกิจท่องเที่ยวจากซาอุฯ เจรจาแลเปลี่ยนธุรกิจ กับ จ.ภูเก็ต และ จ.กระบี่

22 Aug 2023

"แอตต้า" ภาคเอกชนรายใหญ่ จับมือ บพข. นำผู้ประกอบการนำเที่ยวตลาดซาอุฯ สำรวจเส้นทาง-สินค้า พร้อมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการภูเก็ต มุ่งใช้งานวิจัยนวัตกรรมกองทุน ววน. ขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยว เป้าหมาย 70 ล้านคนในอนาคต

"แอตต้า" จับมือ บพข. นำทัพนักธุรกิจท่องเที่ยวจากซาอุฯ เจรจาแลเปลี่ยนธุรกิจ กับ จ.ภูเก็ต และ จ.กระบี่

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว นำโดยนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA คณะกรรมการบริหารสมาคม ทีมวิจัย และสมาชิก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการนำเที่ยวตลาดซาอุดิอาระเบีย ลงสำรวจเส้นทางและพบปะเจรจาแลกเปลี่ยนธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ ในช่วงวันที่ 17-19 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานวิจัย โดยการสนับสนุนทุนวิจัย จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) และในวันนี้มีการจัดงานเจรจาแลกเปลี่ยนธุรกิจที่จังหวัดภูเก็ต ที่โรงแรมไมด้า แกรนด์ รีสอร์ท เชิงทะเล โดยทาง ATTA ได้เรียนเชิญ รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สกสว. และประธานคณะอนุกรรมการแผนงานกลุ่มการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. ผศ.อนพัทย์ หนองคู ผู้ประสานงานการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. รวมถึงคณะนักวิจัย บพข. อาทิ ผศ.ดร.ชวัลลักษณ์ คุณาธิกรกิจ ผู้อำนวยการแผนงานวิจัย "การพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มความสามารถด้านการตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว" สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ATTA รศ.ดร.ธรรมศักดิ์ ยีมิน ม.รามคำแหง ผศ.ดร.ประกอบศิริ ภักดีพินิจ ม.พะเยา เข้าร่วมทำกิจกรรม เพื่อติดตามผลการดำเนินงานร่วมระหว่าง ATTA ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่ทำงานร่วมกับ บพข.ที่เกิดขึ้นเป็นการวิจัยตลาดแบบการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการท่องเที่ยวตัวจริง ให้เห็นประโยชน์ของการทำงานวิชาการมาบูรณาการกับทักษะวิชาชีพเพื่อต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคม ATTA เปิดเผยว่า "วันนี้เรามีผู้ประกอบการ สมาชิก ATTA 21 ราย ที่ทำตลาด GCC กลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council) ซึ่งรวมซาอุดีอาระเบีย และมีหลายบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศดูไบ การคัดกรองสมาชิกเข้าร่วมคณะเดินทาง เป็นกระบวนการสำคัญที่สุดของการลงพื้นที่ในการสำรวจเส้นทาง ในการคาดหวังผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นตามเป้าหมาย ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องขอขอบคุณ บพข. ที่หนุนเสริมองค์ความรู้ทางวิชาการด้วยกระบวนการวิจัยนำร่องของ ATTA 3 ตลาด คือ อังกฤษ ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย เกิดจากการนำสถิติของโอกาสการเติบโตของตลาด และ เป็นไปตามทิศทางการท่องเที่ยวโลกที่เป็นตลาดสำคัญของประเทศไทย ในอนาคต"

"โดยวันนี้ได้มีคุณซาร่า ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่บินตรงกับมาจาก ดูไบ เพื่อร่วมทริปและกลับดูไบวันนี้หลังร่วมทริป นั่นหมายถึง เราได้ผู้ร่วมงานที่ให้ความสำคัญและมีคุณภาพในการต่อยอดงานวิจัยตัวจริง จากการทำงานร่วมกันของ ATTA และบพข.นำร่องในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จด้วยดี และจะมีการทำงานร่วมกันในปีต่อไปในการวิจัยสำหรับตลาดอื่นๆ เพื่อขยายฐานการตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย สู่เป้าหมาย 70 ล้านคนในอนาคต" นายกสมาคม ATTA กล่าวเสริม

ด้าน รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการ บพข. เผยว่า กลไกการตลาดเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์จากงานวิจัยได้ ถ้าเรามีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องผ่านกลไกการทำงานของ บพข.ที่หนุนเสริมการทำงานร่วมกับภาคเอกชนในฐานะผู้ใช้ประโยชน์โดยตรง ที่ผ่านมา บพข.ทำงานร่วมกับ ATTA เน้นการวิจัยที่ใช้ Data Driven ให้งานวิจัยมีคุณภาพและความแม่นยำมากขึ้น นำไปสู่การทำนายตลาดและออกแบบธุรกิจ โดยร่วมกันกำหนดโจทย์วิจัยเพื่อแก้ปัญหา (Pain Point) ในภาคการท่องเที่ยวและบริการ โดยดำเนินการทั้งฝั่งเจ้าบ้าน (Supply) อาทิ ความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว อาสาสมัครทางการท่องเที่ยว รวมไปถึงฝั่งผู้มาเยือน (Demand) โดยมุ่งเน้นการตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ อาทิ กลุ่มตะวันออกกลาง เพื่อมุ่งเน้นให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยนอกจากจะเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมาตรฐานสากลแล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นการท่องเที่ยวแบบสังคมคาร์บอนต่ำ และประเทศไทยของเราจะเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่นๆ โดยประเทศไทยจะเป็นผู้นำในเรื่องการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพด้วยการขับเคลื่อนที่เกิดจากฐานงานวิจัย สู่สังคมไร้คาร์บอนได้ในอนาคตได้อย่างแน่นอน

"ในอนาคตข้างหน้ามีความท้าทายมากมาย เราสามารถร่วมกันกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของประเทศไทย ได้ด้วยการทำงานอย่างบูรณาการระหว่างภาครัฐ เอกชน สมาคม ชุมชน และสถาบันการศึกษา ผ่านกลไกการวิจัยที่แข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมได้ต่อไป" ผู้อำนวยการ บพข. กล่าวทิ้งท้าย

โดยในการประชุมวันนี้ได้มีมีนายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดภูเก็ต สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมได้รับข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาด และความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภูเก็ตอย่างชัดเจน และซึ่งในปีแรกนี้ ATTA และบพข.ได้ทำวิจัยตลาดนำร่อง 3 ตลาดคือ อังกฤษ ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย ผู้ประกอบการต่างยินดี และเห็นประโยชน์การทำงานวิจัยในครั้งนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการลงพื้นที่มาสำรวจเส้นทางสินค้า บริการ ที่ยึดแนวทางการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ รักษาสิ่งแวดล้อม และแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ที่ทีมวิจัยจัดทำขึ้นให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดที่ดี และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของประเทศที่มีเป้าหมายสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการ ATTA กล่าวเสริมว่า "พื้นที่วิจัย 2 จังหวัดคือ ภูเก็ตและ กระบี่ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าทั้ง 2 ตลาดทั้งจากประเทศอินเดียและซาอุดีอาระเบีย ต่างมี Growth ในเส้นทางนี้ที่ดีมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดซาอุดีอาระเบีย Month on Month โต 901% ตามสถิติที่ ททท. ได้รายงานในที่ประชุม ตลาดซาอุดีอาระเบียนั้นเน้นพิจารณาที่พักเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่ม Pool Villas เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวสูง มีกำลังซื้อมากและเน้นเดินทางเป็นครอบครัว ผลการทำงานวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของกรรมการ และสมาชิก ATTA เราค้นพบอุปสรรคและปัจจัยของความสำเร็จในการทำงานร่วมกัน ระหว่างสายวิชาการ และวิชาชีพที่ดี ทำให้เกิดโมเดลในการถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างกัน นวัตกรรมที่เราได้จากทำงานครั้งนี้ คือ โมเดลการทำงานแบบมีส่วนร่วมของคณะทำงานจาก ATTA การออกแบบทำ Fam Trip ระบบการประเมินมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวที่สมาชิก หรือผู้ประกอบการที่ร่วมเดินทางนำไปใช้ในเชิงธุรกิจได้ดีและต่อยอดในธุรกิจตนเอง และโมเดลทำ Casual Style B2B in Pool Villas เป็นต้น"

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ เป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ในปัจจุบันเราเผชิญกับความท้าทายจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เกิดการสร้างผลกระทบอย่างเป็นวงกว้างต่อการเดินทางและการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว โดยในท้ายที่สุดนี้ รูปแบบการทำงานที่ทำให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์และผลกระทบที่มีประสิทธิภาพสูงระหว่างภาคเอกชนและหน่วยบริหารและจัดการทุน บพข. กองทุน ววน.จะทำให้นำไปเป็นแนวทางในการทำความร่วมมือกับภาคเอกชนต่อไปในอนาคตได้อย่างแน่นอน