- แต่ละปีในยุโรป ผู้ป่วยกว่า 550,000 คนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม โดย 70% ในจำนวนดังกล่าวนั้นมีโรคตัวรับเอสโตรเจน (ER) เป็นบวก[1] ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในยุโรปมากกว่า 147,000 คนเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวนี้ในแต่ละปี[2]
- ออร์เซอร์ดูเป็นยารักษาตัวแรกสำหรับผู้ป่วยที่มีเนื้องอกมะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจายชนิด ER+, HER2- ที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 โดยเฉพาะ โดยเป็นนวัตกรรมฮอร์โมนบำบัดตัวแรกในเกือบ 20 ปี
- การกลายพันธุ์ของยีน ESR1 ปรากฏในสัดส่วนสูงสุด 40% ของโรคมะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจายชนิด ER+, HER2- และเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่เป็นที่รับรู้ของการดื้อต่อการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัดตามมาตรฐานทั่วไป ทำให้เนื้องอกเหล่านี้รักษาได้ยาก
เมนารินี กรุ๊ป (Menarini Group) หรือ "เมนารินี" (Menarini) บริษัทชั้นนำสัญชาติอิตาลีผู้พัฒนาเภสัชภัณฑ์และระบบวินิจฉัยโรค และสเต็มไลน์ เทอร์ราพิวติกส์ (Stemline Therapeutics) หรือ "สเต็มไลน์" (Stemline) บริษัทย่อยที่เมนารินี กรุ๊ปเป็นเจ้าของ ประกาศวันนึ้ว่าคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้ให้การอนุมัติยาออร์เซอร์ดู (ORSERDU(R)) (ยาอีลาเซสแทรนท์ (elacestrant)) เป็นยารักษาแบบเดี่ยวสำหรับผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือนหรือผู้ชายที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะลุกลามเฉพาะที่หรือระยะแพร่กระจาย (mBC) ชนิดตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นบวกและตัวรับโกรทแฟคเตอร์ที่ผิวหนังชั้นนอกของมนุษย์ 2 เป็นลบ (ER+, HER2-) ที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 ซึ่งมีการลุกลามของโรคหลังจากได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัดอย่างน้อยหนึ่งรายการ รวมถึงยายับยั้ง CDK4/6
การอนุมัติโดยคณะกรรมาธิการยุโรปเกิดขึ้นหลังจากข้อคิดเห็นเชิงบวกของคณะกรรมาธิการผลิตภัณฑ์การแพทย์สำหรับการใช้ในมนุษย์ (Committee for Medicinal Products for Human Use หรือ CHMP) ขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency หรือ EMA) ซึ่งมีมติออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ด้วยการอนุมัติดังกล่าวนี้ ออร์เซอร์ดูเป็นยารักษาตัวแรกและตัวเดียวที่มีข้อบ่งใช้โดยจำเพาะสำหรับการรักษามะเร็งชนิด ER+, HER2- ที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 ทั้งนี้การกลายพันธุ์ของยีน ESR1 เป็นการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นภายหลังโดยเป็นผลจากการรับฮอร์โมนบำบัด และพบในสัดส่วนสูงได้ถึง 40% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจายชนิด ER+, HER2- การกลายพันธุ์ของยีน ESR1 เป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่เป็นที่รับรู้ของการดื้อต่อการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัดตามมาตรฐานทั่วไป ทำให้นับจนถึงวันนี้ เนื้องอกที่มีการกลายพันธุ์ดังกล่าวนี้ยิ่งยากกว่าที่จะรักษา
"เราทราบกันมานานแล้วว่าผู้ป่วยที่ใช้ชีวิตกับมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจายต้องการตัวเลือกที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัยที่รับได้ ซึ่งรักษาโรคโดยที่ยังคงเอื้อให้พวกเขาสามารถให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีความหมายต่อพวกเขา" คุณเอลซิน บาร์เคอร์ เออร์กัน (Elcin Barker Ergun) ซีอีโอของเมนารินี กรุ๊ป กล่าว "เราภูมิใจที่ได้ส่งมอบยารักษามะเร็งเต้านมตัวใหม่ที่มอบประสิทธิศักย์ในยาเม็ดแบบรับประทานวันละครั้ง อีกทั้งยังเป็นนวัตกรรมตัวแรกในด้านฮอร์โมนบำบัดในรอบเกือบสองทศวรรษ เรายังรู้สึกขอบคุณอย่างเหลือล้นสำหรับการสนับสนุนของนักวิจัยมะเร็งวิทยาและผู้ป่วยทุกท่านที่ได้เข้าร่วมในการศึกษาเชิงคลินิกซึ่งทำให้ความสำเร็จในวันนี้เกิดขึ้นได้"
ดร.นพ. จูเซปเป คูริเกลียโน (Giuseppe Curigliano) ศาสตราจารย์สาขามะเร็งวิทยาประจำมหาวิทยาลัยมิลาโน และหัวหน้าแผนกพัฒนายาขั้นต้น สถาบันเนื้องอกวิทยาแห่งยุโรป ในสังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์เพื่อการวิจัย การรักษาในโรงพยาบาล และการดูแลสุขภาพ (IRCCS) ประเทศอิตาลี กล่าวว่า "ผู้ป่วยมะเร็งชนิด ER+, HER2- จำนวนมากมักมีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 ในท้ายที่สุดระหว่างระยะแพร่กระจาย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตรวจ ESR1 ในแต่ละครั้งที่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจายมีการลุกลามของโรค เพื่อทำความเข้าใจว่าปัจจัยใดขับเคลื่อนมะเร็งเต้านมของผู้ป่วย การได้รับอนุมัติในวันนี้ มอบทางเลือกการรักษาตัวแรกที่เคยมีมาซึ่งออกฤทธิ์โดยตรงต่อการกลายพันธุ์ที่ทำให้มะเร็งเต้านมชนิดนี้ยิ่งยากกว่าที่จะรักษา และมอบความหวังให้แก่ผู้ป่วยของเราตลอดจนครอบครัวของพวกเขา"
การอนุมัติยาออร์เซอร์ดูสนับสนุนโดยข้อมูลจากโครงการศึกษาทดลอง EMERALD เฟส 3 ซึ่งแสดงอัตราการอยู่รอดโดยโรคสงบ (PFS) อย่างมีนัยสำคัญสำหรับยาอีลาเซสแทรนท์ เมื่อเทียบกับการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป (SOC) ซึ่งระบุว่าเป็นยาฮอร์โมนแบบเดี่ยวที่ผู้วิจัยเลือกไว้และได้รับการอนุมัติ ทั้งนี้ ผลลัพธ์หลักของการทดลองคืออัตราการอยู่รอดโดยโรคสงบในผู้ป่วยทั้งหมดและในผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 ทั้งนี้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 นั้น อีลาเซสแทรนท์มีค่ามัธยฐานของการอยู่รอดโดยโรคสงบ 3.8 เดือน เทียบกับ 1.9 เดือนในการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป และมีความเสี่ยงของการลุกลามหรือการเสียชีวิตลดลง 45% (อัตราส่วนอันตราย (HR) การอยู่รอดโดยโรคสงบ=0.55, ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 95%: 0.39, 0.77) เมื่อเทียบกับการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป
การวิเคราะห์กลุ่มย่อยภายหลังสำหรับผลลัพธ์อัตราการอยู่รอดโดยโลกสงบของโครงการ EMERALD ซึ่งนำเสนอในงานประชุมมะเร็งเต้านมแซนแอนโทนีโอ (San Antonio Breast Cancer Symposium หรือ SABCS) ประจำปี 2565 แสดงว่าระยะเวลาของการได้รับการรักษาด้วยยายับยั้ง CDK4/6 ก่อนหน้ามีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับอัตราอยู่รอดโดยโรคสงบที่ยาวนานกว่าในยาอีลาเซสแทรนท์ แต่ไม่เป็นเช่นนั้นในการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป สำหรับผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ ESR1 ซึ่งเคยได้รับการรักษาด้วยยายับยั้ง CDK4/6 เป็นเวลา 12 เดือนขึ้นไปก่อนการสุ่มในโครงการ EMERALD นั้น ยาอีลาเซสแทรนท์มีมัธยฐานการอยู่รอดโดยโรคสงบที่ 8.6 เดือน เทียบกับ 1.9 เดือนในการรักษาด้วยยาตามมาตรฐานทั่วไป โดยมีความเสี่ยงของการลุกลามหรือการเสียชีวิตลดลง 59% (อัตราส่วนอันตราย (HR)=0.41 ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 95%: 0.26-0.63) [3]
ข้อมูลด้านความปลอดภัยสอดคล้องกับผลที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่พบมากที่สุด (10% ขึ้นไป) ในยาออร์เซอร์ดู ได้แก่ อาการคลื่นไส้ ไตรกลีเซอไรด์เพิ่มสูงขึ้น คลอเรสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น อาเจียน อ่อนเพลีย อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย แคลเซียมลดต่ำลง ปวดหลัง ครีอะตินีนเพิ่มสูงขึ้น ปวดข้อ โซเดียมลดต่ำลง ท้องผูก ปวดหัว อาการร้อนวูบวาบ ปวดในช่องท้อง ภาวะโลหิตจาง โพแทสเซียมลดต่ำลง เอนไซม์อลานีนอมิโนทรานสเฟอเรสเพิ่มสูงขึ้น ดูข้อมูลด้านความปลอดภัยสำหรับยาออร์เซอร์ดูได้ด้านล่าง
สเต็มไลน์และบริษัทในเครือจะดำเนินการเชิงพาณิชย์กับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ในยุโรป
เกี่ยวกับโครงการศึกษา EMERALD เฟส 3 (NCT03778931)
โครงการทดลอง EMERALD เฟส 3 เป็นการศึกษาแบบสุ่ม ไม่ปกปิดข้อมูล และมีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาที่มีฤทธิ์ เพื่อประเมินยาอีลาเซสแทรนท์ในฐานะยาทางเลือกลำดับสองหรือสามในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจายชนิด ER+/HER2- การทดลองนี้มีผู้ป่วยเข้าร่วม 478 คน โดยเป็นผู้ป่วยที่เคยได้รับการรักษาด้วยยาฮอร์โมนบำบัดหนึ่งหรือสองรายการ รวมถึงยายับยั้ง CDK4/6 ผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองถูกสุ่มให้รับยาอีลาเซสแทรนท์หรือยาฮอร์โมนตัวอื่นที่ผู้วิจัยเลือกไว้ ทั้งนี้ ผลลัพธ์หลักของการทดลองคืออัตราการอยู่รอดโดยโรคสงบ (PFS) ในผู้ป่วยทั้งหมดและในผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของยีนตัวรับเอสโตรเจน 1 (ESR1) อีลาเซสแทรนท์มีค่ามัธยฐานของการอยู่รอดโดยโรคสงบ 3.8 เดือน เทียบกับ 1.9 เดือนในการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป และมีความเสี่ยงของการลุกลามหรือการเสียชีวิตลดลง 45% (อัตราส่วนอันตราย (HR) การอยู่รอดโดยโรคสงบ=0.55, ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 95%: 0.39, 0.77) เมื่อเทียบกับการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป
                                                                                                                            
เกี่ยวกับออร์เซอร์ดู (ยาอีลาเซสแทรนท์)
ข้อบ่งใช้ : ออร์เซอร์ดู (ยาอีลาเซสแทรนท์) มีข้อบ่งใช้ในการรักษาผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือนหรือผู้ชายที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะลุกลามเฉพาะที่หรือระยะแพร่กระจายชนิดตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นบวกและตัวรับโกรทแฟคเตอร์ที่ผิวหนังชั้นนอกของมนุษย์ 2 เป็นลบ (ER+, HER2-) ที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 ซึ่งมีการลุกลามของโรคหลังจากได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัดอย่างน้อยหนึ่งรายการ รวมถึงยายับยั้ง CDK4/6
ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญจากเอกสารกำกับยาออร์เซอร์ดู
ภาวะตับเสื่อม: การให้ยาออร์เซอร์ดูควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังด้วยขนาดยา 258 มก. หนึ่งครั้งต่อวันในผู้ป่วยที่มีภาวะตับเสื่อมระดับปานกลาง (คะแนนไชด์-พิว (Child-Pugh) ระดับบี) เนื่องจากยังขาดข้อมูลเชิงคลินิก ไม่แนะนำให้ใช้ยาในผู้ป่วยที่มีภาวะตับเสื่อมระดับรุนแรง (คะแนนไชด์-พิว ระดับซี)
การใช้ร่วมกับยากระตุ้นและ/หรือยายับยั้ง CYP3A4: ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยายับยั้ง CYP3A4 ระดับรุนแรงหรือปานกลางร่วมกับยาออร์เซอร์ดู ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากระตุ้น CYP3A4 ระดับรุนแรงหรือปานกลางร่วมกับยาออร์เซอร์ดู
การเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน: การเกิดภาวะลิ่มเลือดตันพบบ่อยในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลาม และพบในการศึกษาเชิงคลินิกกับยาออร์เซอร์ดู จึงควรคำนึงถึงเรื่องนี้เมื่อสั่งจ่ายยาออร์เซอร์ดูให้แก่ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง
ปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์
มีการรายงานปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงในไม่เกิน 1% ของผู้ป่วย ประกอบด้วย อาการคลื่นไส้ อาการหายใจลำบาก และภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (ในเส้นเลือดดำ)
ปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ที่พบมากที่สุด (ไม่เกิน 10%) กับยาออร์เซอร์ดู ได้แก่ อาการคลื่นไส้ ไตรกลีเซอไรด์เพิ่มสูงขึ้น คลอเรสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น อาเจียน อ่อนเพลีย อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย แคลเซียมลดต่ำลง ปวดหลัง ครีอะตินีนเพิ่มสูงขึ้น อาการปวดข้อ โซเดียมลดต่ำลง ท้องผูก อาการปวดหัว อาการร้อนวูบวาบ ปวดในช่องท้อง ภาวะโลหิตจาง โพแทสเซียมลดต่ำลง เอนไซม์อลานีนอมิโนทรานสเฟอเรสเพิ่มสูงขึ้น
ปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ระดับ 3 ขึ้นไปที่พบมากที่สุด (2% ขึ้นไป) ของยาอีลาเซสแทรนท์ ได้แก่ อาการคลื่นไส้ (2.7%), เอนไซม์ AST เพิ่มสูงขึ้น (2.7%), เอนไซม์ ALT เพิ่มสูงขึ้น (2.3%), ภาวะโลหิตจาง (2%), อาการปวดหลัง (2%) และอาการปวดกระดูก (2%)
อาการคลื่นไส้: มีการรายงานอาการคลื่นไส้ใน 35% ของผู้ป่วย โดยพบอาการคลื่นไส้ระดับ 3-4 ใน 2.5% ของผู้ป่วย อาการคลื่นไส้เกิดขึ้นบ่อยกว่าในการให้ยารอบแรก และตั้งแต่รอบสองเป็นต้นไปนั้น อาการคลื่นไส้เกิดขึ้นต่ำกว่าในรอบถัด ๆ มา (หรือเมื่อเวลาผ่านไป)
ผู้สูงวัย: มีการรายงานภาวะความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารบ่อยกว่าในผู้ป่วยที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป
การเจริญพันธุ์ การตั้งครรภ์ และการให้นมบุตร
ไม่ควรใช้ยาออร์เซอร์ดูระหว่างการตั้งครรภ์หรือในสตรีที่มีศักยภาพในการตั้งครรภ์ที่ไม่ใช้การคุมกำเนิด จากกลไกการทำงานของยาอีลาเซสแทรนท์ และข้อค้นพบจากการศึกษาการเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ในสัตว์ ยาออร์เซอร์ดูสามารถก่ออันตรายต่อตัวอ่อนเมื่อให้กับสตรีมีครรภ์ ผู้หญิงที่มีศักยภาพในการสืบพันธุ์ควรได้รับการแนะนำให้ใช้การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิผลระหว่างการรักษาด้วยยาออร์เซอร์ดู และหนึ่งสัปดาห์หลังจากการให้ยาโดสสุดท้าย
สตรีที่ให้นมบุตรไม่ควรให้นมบุตรระหว่างการรักษาด้วยยาออร์เซอร์ดู และหนึ่งสัปดาห์หลังจากการให้ยาออร์เซอร์ดูโดสสุดท้าย
จากข้อค้นพบจากการศึกษากับสัตว์และกลไกการออกฤทธิ์ของยา ยาออร์เซอร์ดูอาจบั่นทอนภาวะเจริญพันธุ์ในผู้หญิงและผู้ชายที่มีศักยภาพในการสืบพันธุ์
ผลต่อความสามารถในการขับขี่และใช้งานเครื่องจักร: มีการรายงานอาการเหนื่อยล้า ภาวะอ่อนแรง และอาการนอนไม่หลับในผู้ป่วยบางรายที่ใช้ยาออร์เซอร์ดู ผู้ป่วยที่เคยมีปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์เหล่านี้ควรใช้ความระมัดระวังขณะขับขี่หรือควบคุมเครื่องจักร
ขณะนี้ยังไม่มีการระบุข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิศักดิ์ของยาออร์เซอร์ดูในเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 18 ปี
รายงานอาการที่สงสัยว่าเป็นปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ได้ที่ [email protected]
รายงานการร้องเรียนผลิตภัณฑ์ได้ที่ [email protected]
ติดต่อขอข้อมูลทางการแพทย์ได้ที่ [email protected]
นอกจากนี้ ขณะนี้ยาอีลาเซสแทรนท์ยังอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยในโครงการทดลองทางคลินิกหลายรายการในโรคมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจาย ทั้งแบบเป็นยาตัวเดียวและร่วมกับยารักษาตัวอื่น ๆ ประกอบด้วย โครงการ ELEVATE (NCT05563220); ELECTRA (NCT05386108) และ ELCIN (NCT05596409) นอกจากนี้ยาอีลาเซสแทรนท์ยังจะได้รับการประเมินในโรคมะเร็งเต้านมระยะแรกเริ่มด้วย
เมนารินี กรุ๊ป ได้รับใบอนุญาตการใช้สิทธิระดับโลกสำหรับอีลาเซสแทรนท์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 จากเรเดียส เฮลธ์ อิงค์ ( Radius Health, Inc.) ขณะนี้เมนารินี กรุ๊ป เป็นผู้รับผิดชอบอย่างสมบูรณ์สำหรับการขึ้นทะเบียน การดำเนินการเชิงพาณิชย์ และกิจกรรมการพัฒนาขั้นต่อ ๆ ไปสำหรับอีลาเซสแทรนท์ทั่วโลก
เกี่ยวกับเมนารินี กรุ๊ป
เมนารินี กรุ๊ป (Menarini Group) คือบริษัทยาและการวินิจฉัยชั้นนำระดับโลกซึ่งมียอดขายกว่า 4.4 พันล้านดอลลาร์ และมีพนักงานกว่า 17,000 คน เมนารินีมุ่งเน้นด้านการรักษาโรคที่จำเป็นแต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ด้วยชุดผลิตภัณฑ์สำหรับการรักษาโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคปอด โรคระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อ โรคเบาหวาน การอักเสบ และยาแก้ปวด ด้วยฐานการผลิต 18 แห่งพร้อมศูนย์วิจัยและพัฒนาอีก 9 แห่ง ผลิตภัณฑ์ของเมนารินีจึงมีวางจำหน่ายใน 140 ประเทศทั่วโลก รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.menarini.com
เกี่ยวกับสเต็มไลน์ เทอร์ราพิวติกส์
สเต็มไลน์ เทอร์ราพิวติกส์ ( Stemline Therapeutics, Inc.) หรือ "สเต็มไลน์" ในเครือเมนารินี กรุ๊ป (Menarini Group) เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ระยะพาณิชย์ ซึ่งมุ่งพัฒนาและจัดจำหน่ายแนวทางรักษามะเร็งแบบใหม่ ๆ สเต็มไลน์เป็นผู้จัดจำหน่ายออร์เซอร์ดู (ORSERDU(R)) (ยาอีลาเซสแทรนท์ (elacestrant)) ในสหรัฐ ซึ่งเป็นฮอร์โมนบำบัดโมเลกุลเล็กชนิดรับประทาน เพื่อรักษาผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือนหรือผู้ชายวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจายชนิดตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นบวกและตัวรับตัวรับโกรทแฟคเตอร์ที่ผิวหนังชั้นนอกของมนุษย์ 2 เป็นลบ (ER+, HER2-) ที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 ซึ่งมีการลุกลามของโรคหลังจากได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัดอย่างน้อยหนึ่งรายการ สเต็มไลน์ยังวางจำหน่ายเอลซอนริส (ELZONRIS(R)) (tagraxofusp-erzs) เทคนิครักษาแบบใหม่ที่พุ่งเป้าไปที่ CD123 เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งทางโลหิตวิทยาที่รุนแรงอย่างมะเร็งเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด blastic plasmacytoid dendritic cell neoplasm (BPDCN) ในสหรัฐฯและยุโรป โดยเป็นเทคนิครักษาหนึ่งเดียวที่ได้รับการอนุมัติเพื่อใช้รักษา BPDCN ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป นอกจากนี้ สเต็มไลน์ยังวางจำหน่ายเน็กซ์โพวิโอ (Nexpovio(R)) ในยุโรป ซึ่งเป็นยายับยั้งเอ็กซ์พอร์ติน 1 (XPO1) เพื่อรักษาโรคมัลติเพิลมัยอิโลมา ทั้งนี้ สเต็มไลน์มีผลิตภัณฑ์เชิงคลินิกประเภทโมเลกุลขนาดเล็กและยาชีววัตถุที่อยู่ระหว่างการพัฒนามากมายหลายระดับ เพื่อใช้รักษามะเร็งก้อนและมะเร็งทางระบบเม็ดเลือด
? Decision Resource Group / Clarivate Breast Cancer Landscape / Epidemiology - June 14, 2023
? International Agency for Research on Cancer, World Health Organization - Globocan - 2020
? Bardia et al. EMERALD phase 3 trial of elacestrant versus standard of care endocrine therapy in patients with ER+/HER2- metastatic breast cancer: Updated results by duration of prior CDK4/6i in metastatic setting. SABCS 2022. GS3-01
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1958938/MENARINI_GROUP_Logo.jpg
 
                             เอ็นซีซี ส่งต่อพลังแห่งความหวังแก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม มอบรายได้ '12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน 2024' แก่สภากาชาดไทย
                            เอ็นซีซี ส่งต่อพลังแห่งความหวังแก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม มอบรายได้ '12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน 2024' แก่สภากาชาดไทย
                         เคทีซีจับมือซาบีน่า ผนึกพลังจิตอาสา"เย็บเต้ารวมใจ" ส่งต่อพลังใจผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั่วประเทศ
                            เคทีซีจับมือซาบีน่า ผนึกพลังจิตอาสา"เย็บเต้ารวมใจ" ส่งต่อพลังใจผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั่วประเทศ
                         BKGI ผนึกกรมวิทย์ฯ รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเซลล์บำบัด ดันไทยสู่ศูนย์กลางการแพทย์ภูมิภาค
                            BKGI ผนึกกรมวิทย์ฯ รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเซลล์บำบัด ดันไทยสู่ศูนย์กลางการแพทย์ภูมิภาค
                         ME CARE เพื่อสตรีไทย! จัดโครงการพิเศษ ระดมทุนช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเนื่องในวันสตรีสากล
                            ME CARE เพื่อสตรีไทย! จัดโครงการพิเศษ ระดมทุนช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเนื่องในวันสตรีสากล
                         แพทย์ รพ.วิมุต แนะเลี่ยงผลิตภัณฑ์แปรรูป หนึ่งปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม
                            แพทย์ รพ.วิมุต แนะเลี่ยงผลิตภัณฑ์แปรรูป หนึ่งปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม
                         AVALON" แบรนด์จิวเวอรี่ ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดประมูลเครื่องประดับช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านม และสมทบกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร
                            AVALON" แบรนด์จิวเวอรี่ ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดประมูลเครื่องประดับช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านม และสมทบกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร
                         รับได้จริงๆ เหรอ? 22 คนต่อวันที่มะเร็งเต้านมคร่าชีวิตหญิงไทย มูลนิธิถันยรักษ์ฯ x ทรู ชวนลดเสี่ยง "เต้า ต้อง ตรวจ" รอไม่ได้ ยิ่งเร็ว ยิ่งรอด
                            รับได้จริงๆ เหรอ? 22 คนต่อวันที่มะเร็งเต้านมคร่าชีวิตหญิงไทย มูลนิธิถันยรักษ์ฯ x ทรู ชวนลดเสี่ยง "เต้า ต้อง ตรวจ" รอไม่ได้ ยิ่งเร็ว ยิ่งรอด
                         ไทยพาณิชย์มอบประกัน E-Cancer มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 พร้อมบริจาคเงินสนับสนุนโครงการ Opal for Her ส่งต่อพลังผู้หญิงช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
                            ไทยพาณิชย์มอบประกัน E-Cancer มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 พร้อมบริจาคเงินสนับสนุนโครงการ Opal for Her ส่งต่อพลังผู้หญิงช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านม