บทบาทของนักวิจัยมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยท่ามกลางสังคมและเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลง การทำงานวิจัยต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงรวมถึงสามารถต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงบทเรียนที่ผ่านมาซึ่งพบว่าการเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ด้วยการทำวิจัยที่เป็น "พื้นฐาน" แม้จะต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล แต่เมื่อถึงเวลาต้องใช้จริง อย่างเช่นในวิกฤติที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาด ก็สามารถนำความรู้ที่สั่งสมมาจากการทำวิจัยที่เป็นพื้นฐานที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มาผลิตวัคซีน หรือยารักษาโรคได้อย่างรวดเร็ว
สิ่งสำคัญที่สุดคือ "การสร้างงานวิจัยที่มี "คุณภาพ" สามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์เพื่อสร้างคุณค่า ต้องมองโจทย์แบบ"Outside In" ที่รับเอาปัญหาความต้องการ และโอกาสจากภายนอกเข้ามาเป็นโจทย์วิจัย หาทางแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ และสร้างทางออกที่นำประเทศไทยไปสู่การพัฒนาได้ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว หากงานวิจัยทำแบบ "Inside Out" โดยการสร้างโจทย์วิจัยเอง โดยไม่มีพื้นฐานของสังคมและเศรษฐกิจที่มองไปข้างหน้า อาจจะไม่สามารถต่อยอดไปใช้ประโยชน์ได้จริง" ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน กล่าว
ในฐานะที่มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นหนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาซึ่งเปรียบเสมือน "ขุมพลังทางความคิด" เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศสู่ความก้าวหน้า ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ ต้องอาศัยองค์ความรู้จากงานวิจัยที่มีคุณภาพ
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน มองว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้วางตัวเองเป็น "ผู้ผลิต" แต่เป็น "ผู้สร้าง" ทั้ง "องค์ความรู้ใหม่" และ "บัณฑิตที่จะไปสร้างงานต่อยอดในอนาคต" ตลอดจนทำให้เกิด "ความร่วมมือ" ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงประสานภาคการผลิตและชุมชน เพื่อให้เกิดวงจรจากต้นน้ำถึงปลายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดคุ้มค่ากับงบประมาณที่ได้ลงทุนไปในทุกงานวิจัย
มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมเป็น "ปัญญาของแผ่นดิน" ด้วยการสร้างงานวิจัย และนักวิจัยที่มีคุณภาพ เราไม่ได้แข่งขันกับใคร แต่ต้องแข่งกับตัวเอง ที่จะผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณค่ายิ่งขึ้นกว่าเดิม สร้างพันธมิตรกับองคาพยพของสังคมที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมมือกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกันด้วยเชื่อว่าความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th
เซียงเพียว แบรนด์ยาหม่องน้ำและยาดม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ตอบโจทย์เรื่องการบรรเทา" ร่วมกับสองศิลปินคุณภาพ บอย โกสิยพงษ์ และ ป๊อด-ธนชัย อุชชิน ส่งต่อกำลังใจผ่านศิริราชมูลนิธิฯ ด้วยการจัดทำยาดมชุดพิเศษ "BOYdPOD" Limited Edition ที่เป็นตัวแทนถ่ายทอดทั้งความห่วงใยและกำลังใจ โดยความพิเศษ คือ การดีไซน์ยาดมและสายห้อยที่มีชื่อคอนเสิร์ตอยู่ใน Box Set เพื่อสื่อถึงความร่วมมือในครั้งนี้ Box Set นี้จำหน่ายในราคา 200 บาท จำนวนจำกัดเพียง 5,000 เซ็ต โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
CMMU เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของผู้นำไทย มุ่งทรานส์ฟอร์มผู้บริหารสู่ 'ผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลง' ด้วยแนวคิด "DBA for Real World Impact"
—
รศ. ดร.ปรารถนา ปุณณกิต...
ม.มหิดลชี้วิจัยเชื้อดื้อยาแบบสหสาขาวิชา เสริมความมั่นคงสาธารณสุขโลก
—
"เชื้อแบคทีเรียดื้อยา" ยังคงเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่คอยคุกคามความมั่นคงของโลกอย่างต่...
ม.มหิดลไม่ทอดทิ้งคนไทย พัฒนาชุดตรวจ COVID-19 แบบรู้ผลเร็วมาตรฐานสากลเพื่อคนไทย ส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมไทย พร้อมเตรียมขยายผลสู่ระดับภูมิภาค
—
ด้วยบทพิสูจน...
ม.มหิดล ถอดบทเรียนนวัตกรสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์จากข้าวไทย ผ่านระบบออนไลน์ 23 มี.ค.นี้
—
จากความสำเร็จในการวิจัยผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์จากข้า...
ม.มหิดล พร้อมร่วมวิจัยสร้างสรรค์นวัตกรรมสู้วิกฤติ COVID-19
—
วิกฤติ COVID-19 ได้ให้บทเรียนไว้คอยกระตุ้นเตือนให้ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างมีสติ โดย COVID-19 ไม่...
ม.มหิดล สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์โลกแห่งอนาคต
—
นักวิจัยในโลกยุคดิสรัปชันเช่นปัจจุบัน สร้างสรรค์นวัตกรรมโดยมองถึงผลกระทบ (impact) ที่จะเกิดขึ้นในอน...
ม.มหิดล เปิด “ศูนย์ร่วมคิดพาณิชย์นวัตกรรม" (MICC) เชื่อมต่อนักวิจัยสู่โลกธุรกิจ
—
มหาวิทยาลัยมหิดล โดย สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) กำหนดเ...