เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ฉลองครบรอบ 8 ปีแห่งการสยายปีกลุยธุรกิจใน 13 ตลาด พร้อมเดินหน้าลงทุนพลิกโฉมสู่ดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืน

13 Sep 2023

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส (J&T Express) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับโลก ให้คำมั่นที่จะเพิ่มการลงทุนในด้านการพลิกโฉมสู่ดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และการพัฒนาที่ยั่งยืน ในวาระที่บริษัทดำเนินธุรกิจมาครบรอบ 8 ปีเต็ม ในฐานะแบรนด์ธุรกิจจัดส่งด่วนอันดับ 1 แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแบรนด์ชั้นนำที่เติบโตรวดเร็วสุดในจีน  เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จะเดินหน้าใช้ประโยชน์จากการลงทุนเหล่านี้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ พร้อมเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงาน และยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า ควบคู่ไปกับการสนับสนุนความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ก่อตั้งเมื่อปี 2558 โดยปัจจุบันมีเครือข่ายครอบคลุมมากถึง 13 ประเทศ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ถือเป็นแบรนด์จัดส่งด่วนอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อพิจารณาจากปริมาณการจัดส่งพัสดุในปี 2565 และตั้งแต่ไตรมาส 4/2563 จนถึงสิ้นปี 2565 เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ถือเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุรายใหญ่ที่เติบโตรวดเร็วสุดในจีน โดยมีเครือข่ายจัดส่งครอบคลุมพื้นกว่า 98% ในทุกเทศมณฑลและเขตของประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ยังเป็นผู้ให้บริการจัดส่งด่วนรายแรกของเอเชียที่สยายปีกลุยธุรกิจไปยังซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เม็กซิโก บราซิล และอียิปต์

แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่พัฒนาด้วยตนเอง ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด

นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มุ่งมั่นที่จะรังสรรค์โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีแบบบูรณาการ ซึ่งสามารถยกระดับการดำเนินงานได้ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทจึงได้ออกแบบระบบเจเอ็มเอส (JMS) ขึ้นมา ซึ่งเป็นกรอบเทคโนโลยีสากลที่ครอบคลุมฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญมากมาย

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ใช้ระบบเจเอ็มเอส ในการสร้างสรรค์และอัปเกรดระบบที่อยู่ดิจิทัลในแต่ละตลาด อีกทั้งยังสามารถจัดสรรทรัพยากรการขนส่งและเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังสามารถติดตามและตรวจสอบพัสดุได้ตลอดวงจรชีวิต ทำให้สามารถมอบบริการคุณภาพสูงให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการส่งมอบเครื่องมือบริหารจัดการงานในแต่ละท้องถิ่นที่เชื่อถือได้แถมใช้งานสะดวก ให้กับบรรดาผู้สนับสนุนและเครือข่ายพันธมิตรในภูมิภาคต่าง ๆ ได้อีกด้วย

สิ่งที่น่าสนใจคือระบบเจเอ็มเอสเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นสูง แถมปรับใช้งานได้ง่าย จึงทำให้นำไปใช้ในบริบทของตลาดใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการตั้งค่าแพลตฟอร์มจะเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มีปริมาณพัสดุที่ต้องจัดส่งสูงสุดถึงกว่า 630,000 ชิ้นต่อวันในบราซิล ทำให้ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส กลายเป็นบริษัทที่จัดส่งพัสดุได้รวดเร็วสุดเหนือกว่าบรรดาบริษัทรายใหญ่ ๆ ในท้องถิ่นของบราซิล

สำหรับอนาคตข้างหน้านั้น เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จะเดินหน้าพัฒนาระบบเจเอ็มเอสให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยจะบูรณาการและปรับปรุงระบบการจัดการเครือข่าย การคัดแยกอัตโนมัติ การจัดการข้อมูล และแพลตฟอร์มทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการทางธุรกิจทั้งหมดของบริษัทจะพลิกโฉมสู่ดิจิทัลสำเร็จด้วยดี นอกจากนี้ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จะเดินหน้าเสริมสร้างความแม่นยำและประสิทธิภาพของการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ พร้อมปรับปรุงคุณภาพการบริการโดยรวม ด้วยการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเทคโนโลยีในด้านเอไอและการเรียนรู้ของเครื่องจักร

มุ่งมั่นสร้างสรรค์ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสวัสดิการสังคม

ท่ามกลางธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ ความมุ่งมั่นนี้รวมถึงการรับมือกับภาวะโลกรวนอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีการริเริ่มโครงการสวัสดิการสังคมหลายโครงการ ควบคู่ไปกับกิจกรรมตอบแทนชุมชนและส่งเสริมความยั่งยืน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2565 เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้นำรถแทรกเตอร์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) กว่า 150 คันมาใช้งานทั่วจีน อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบจีพีเอส (GPS) ขั้นสูงจากเทคโนโลยีจีไอเอส (GIS) ในยานพาหนะสำหรับการขนส่งจากท่าส่งสินค้าต้นทางไปยังท่ารับสินค้าปลายทาง (line-haul) ซึ่งเปิดทางให้บริษัทตรวจสอบความผิดปกติในกระบวนการขนส่งได้ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเส้นทางขนส่ง และพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือลดลงถึง 20% เมื่อเทียบกับรถแทรกเตอร์ที่ใช้น้ำมันดีเซล

ยิ่งไปกว่านั้น เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ยังได้ดำเนินโครงการริเริ่มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหลายอย่างตลอดกระบวนการจัดส่ง อาทิ การสนับสนุนให้ใช้เอกสารรายการขนส่งสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ การใช้ "เทปบาง" ถุงขนส่งสินค้าแบบใช้ซ้ำได้ และกล่องพัสดุแบบใช้ซ้ำได้ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส เริ่มนำกล่องพัสดุแบบใช้ซ้ำมาใช้ในจีนในเดือนเมษายน 2564 ขณะที่มีการใช้งานถุงขนส่งสินค้าแบบใช้ซ้ำมากกว่า 20 ล้านใบที่ถูกฝังชิปอาร์เอฟไอดี (RFID) ไว้เพื่อติดตามเส้นทางและสถานะในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 2566 โดยเจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ระบุว่า การใช้งานถุงขนส่งฝังชิปดังกล่าวสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 169 กรัมสำหรับการใช้งานในแต่ละครั้ง โดยข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2566 ระบุว่า ถุงขนส่งแบบใช้ซ้ำได้ของเจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ถูกใช้งานไปแล้วกว่า 733 ล้านครั้ง ซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 1,200,000 ตัน

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งทางธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสังคมท้องถิ่นของทุก ๆ ตลาดที่ทางบริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งสำหรับจีนแล้ว เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้เปิดตัวเส้นทางพิเศษในชนบทมากกว่า 100 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อันเป็นการส่งเสริมการฟื้นฟูชนบท ส่วนในเวียดนาม เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมงานฝีมือแบบดั้งเดิมในท้องถิ่น รวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านความร่วมมือทางธุรกิจ การฝึกอบรม และสนับสนุนการจัดแสดงสินค้า ต่อมาในฟิลิปปินส์ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้มีส่วนช่วยในการบรรเทาภัยพิบัติเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว และภัยพิบัติอื่น ๆ อยู่บ่อยครั้ง และในสิงคโปร์ ทางบริษัทได้เข้าไปจับมือกับองค์กรพัฒนาเอกชนในท้องถิ่น เพื่อแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นให้กับแรงงานข้ามชาติและลูก ๆ ของพวกเขาในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก

นอกเหนือจากการสร้างหลักประกันว่าพัสดุทุกชิ้นจะส่งถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยและทันเวลาแล้ว เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าให้กับพนักงาน ผู้บริโภค พันธมิตร และชุมชนท้องถิ่น ผ่านการสร้างการเชื่อมต่อถึงกันอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน

เกี่ยวกับเจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส (J&T Express) เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลก โดยทำธุรกิจจัดส่งด่วนซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดที่ใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในโลกอย่างจีน เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 ปัจจุบันมีเครือข่ายครอบคลุม 13 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย กัมพูชา สิงคโปร์ จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เม็กซิโก บราซิล และอียิปต์ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ยึดมั่นกับภารกิจในการ "ยึดลูกค้าและประสิทธิภาพเป็นแกนสำคัญ" โดยมุ่งให้บริการลูกค้าด้วยโซลูชันโลจิสติกส์ครบวงจร ผ่านโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายโลจิสติกส์ดิจิทัลที่มีความชาญฉลาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ระดับโลกเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและคุณประโยชน์ทางโลจิสติกส์ให้กับโลกใบนี้