คำถามค้นใจ "คุณค่าของกาแฟพิเศษไทยของคุณคืออะไร"

20 Jul 2023

ในอดีตหลายคนอาจเคยมองว่า "กาแฟไทย" เป็นแค่เรื่องเพ้อฝันไม่ได้มอบประโยชน์อะไรมากไปกว่าคุณสมบัติที่ช่วยให้ผู้ดื่มรู้สึกกระตือรือร้น กระปรี้กระเปร่า แต่ตลอด 10-15 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้วว่า การเติบโตของกาแฟในประเทศไทยที่ถูกพัฒนาและต่อยอดมาอย่างต่อเนื่องนั้น ได้ส่งผลต่อการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและชุมชน ทำให้การพูดถึง "คุณค่าของกาแฟไทย" จึงมีมากกว่าเรื่องของตัวเลขและราคา ในงาน Thailand Coffee Fest 2023 หนึ่งในหัวข้อเสวนาเรื่อง "คุณค่าของกาแฟพิเศษไทยของคุณคืออะไร" มีหลากหลายมุมมองที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างน่าสนใจ

คำถามค้นใจ "คุณค่าของกาแฟพิเศษไทยของคุณคืออะไร"

เริ่มจาก "ลี-อายุ จือปา" ผู้ก่อตั้ง Akha Ama Coffee ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการทำกาแฟต้นน้ำของไทย บอกว่า สิ่งที่ทำมาตลอดและรับรู้ได้จากทั้งตนเองและคนรอบข้างที่ทำงานด้วยกันมา พบว่าทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมไปถึงคุณภาพของพื้นที่ แหล่งเพาะปลูกและการจัดการด้านการเกษตรก็ดีขึ้น นั่นหมายถึงคุณค่าของกาแฟที่ไม่ใช่มีดีแค่การนำมาชงแล้วอร่อย แต่ต้องดีตั้งแต่ต้นน้ำ เป็นคุณค่าที่ได้เข้าไปอยู่ในทุกบทบาทชีวิตของกลุ่มต้นน้ำและเชื่อว่ากลุ่มกลางน้ำเองไปจนถึงปลายน้ำ ก็น่าจะสัมผัสคุณค่าได้เยอะเช่นกัน 

"เวลาพูดถึงการพัฒนาจะมองเพียงด้านเดียวไม่ได้ ต้องมองทั้งห่วงโซ่ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงกันหมด อย่างในส่วนของต้นน้ำ มีการพัฒนาองค์ความรู้ เพิ่มสายพันธุ์กาแฟที่มีโอกาสพัฒนาต่อได้ทำให้สายพันธุ์กาแฟในบ้านเรามีให้เลือกมากมาย และมากกว่าเมื่อ 15 ปีก่อน จากที่คนเคย cupping กาแฟไทยแล้วบอกว่าไม่อยากกินเท่าไหร่ เพราะว่ามีแค่สายพันธุ์เดียวคือ คาติมอร์ (Catimor) แต่ ณ วันนี้ คนอยากชิมกาแฟไทยมากขึ้น นั่นแปลว่าได้เกิดคุณค่าขึ้นแล้วจริง ๆ และเป็นคุณค่าที่เกิดจากการทำงานหนักของทุกคน

แต่สิ่งที่เราจะพูดต่อไป ไม่ใช่เรื่องของคะแนน (Cupping Score) เท่านั้น เราจะพูดถึงว่า กาแฟที่เรากินมันยั่งยืนเพียงพอแล้วหรือไม่ ถ้าไม่ยั่งยืนแล้วเราควรส่งเสริมอย่างไร ซึ่งเวลานี้กำลังพูดถึงกันมากหลังจากบราซิลเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเมื่อ 2-3 ปีก่อน ทำให้วงการกาแฟโลกเริ่มกลับมาพูดถึงกาแฟในเชิงที่ว่านอกจากจะมีรสชาติดีแล้ว กาแฟควรมาจากการทำดีด้วย" 

เขาบอกด้วยว่า ที่ไหนมีกาแฟดี คุณภาพชีวิตของคนที่นั่นก็ดีขึ้นโอกาสของคนรุ่นใหม่ก็มีมากขึ้นด้วย โดยกาแฟเป็นหนึ่งในอาชีพที่ทำให้คนรุ่นใหม่มีความรู้สึกภูมิใจที่เขาได้เกิดมาในครอบครัวกาแฟ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน หรือแม้แต่เรียนจบระดับปริญญาเอกกลับมาก็มาเป็นเกษตรกรเพราะเห็นโอกาสที่เพิ่มขึ้นคุณค่าที่ได้รับจากกาแฟมีมากขึ้น โดยกาแฟเป็นเหมือนกลไกที่ทำให้พื้นที่ตรงนั้นมีความยั่งยืน กลายเป็นโอกาสหนึ่งเมื่อเข้าไปพัฒนาพื้นที่ตรงนั้นแล้วแม้ต้องใช้เวลาแต่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นมาได้จริง

ด้าน "วรัตต์ วิจิตรวาทการ" ผู้ก่อตั้ง Roots หนึ่งในบุคคลที่มีบทบาทในการพัฒนาวงการกาแฟพิเศษไทย กล่าวว่า นอกจากเรื่องของรสชาติแล้ว คุณค่าที่กาแฟสร้างขึ้นนั้นมีอยู่มากมาย เห็นได้จากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าชื่นใจ ส่วนในมุมของคนปลายน้ำและใกล้ชิดกับผู้บริโภค ได้เห็นพัฒนาการของผู้คนที่ให้คุณค่าต่อกาแฟไทยมากขึ้น ผู้บริโภคต้องการรู้ว่ากาแฟที่ตัวเองดื่มหรือซื้อมานั้นมาจากที่ไหน ใครเป็นคนทำและทำด้วยความตั้งใจอย่างไร เมื่อได้เห็น ได้สัมผัสของจริง คิดว่าพวกเขาจะยอมจ่ายมากขึ้น หรือแม้ว่าเขาอาจจะไม่จ่ายแต่ก็จะอยู่ด้วยกันในระยะยาว คิดว่าน่าจะมีประโยชน์เช่นกัน ซึ่งเทรนด์กำลังไปในทิศทางเหล่านี้

"ผมเชื่อว่าวิธีหนึ่งในการเพิ่ม value ให้กับกาแฟในมุมของผู้บริโภค คือโอกาสที่เขาได้เข้าไปสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต ให้เขาได้รู้ว่ากว่าจะได้กาแฟมาหนึ่งแก้วนั้น ผู้ปลูกกาแฟหรือเกษตรกรต้องเหนื่อยยากเพียงใด ตั้งใจมากแค่ไหน ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะออกมาดีได้ ซึ่งไม่ได้ทำกันแค่ปีเดียว แต่การจะโปรโมทในเชิงท่องเที่ยวเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและเห็นถึงคุณค่าในสิ่งเหล่านี้ อาจจะต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง ทำอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืนจริง ๆ" วรัตต์กล่าว และบอกด้วยว่า    

ความท้าทายต่อไปนั้น โดยส่วนตัวมีความตั้งใจที่จะสร้างให้เห็นว่ากาแฟไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งทำมาระยะหนึ่งแล้ว และอีกเรื่องหนึ่งที่อาจต้องใช้เวลา คือการที่ผู้บริโภคอยากจะสนับสนุนกาแฟไทยซึ่งมาจากเกษตรกรที่ตั้งใจทำนั้น อยากให้มองไปถึงเกษตรกรที่ปลูกอย่างใส่ใจธรรมชาติและชุมชนเพิ่มเข้าไปด้วย จากปัจจุบันเคนพูดกันถึงเรื่องภาวะโลกร้อน ในมุมของผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุน การลดขยะ ลดการขนส่งระยะไกลๆ หรือไปเพิ่มการสนับสนุนการอะไรที่ส่งเสริมให้ธรรมชาติดีขึ้น น่าจะเป็นเรื่องที่ดีและทุกคนสามารถทำได้ 

ปิดท้ายกับ "กิตฐนพงษ์ โรจนบวร" ผู้ก่อตั้ง Same Thang แบรนด์กระเป๋าจากวัสดุซองเมล็ดกาแฟ ที่กล่าวว่า ในมุมของผู้บริโภคเอง ตีค่ากาแฟด้วยความสุข เป็นความสุขที่ได้ดื่มกาแฟดี ๆ ได้รับรู้เรื่องราวของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ไปจนถึงการแปรรูปที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันคนไทยเริ่มเปิดใจกับกาแฟไทยมากขึ้น และในฐานะที่เป็นคนปลายสุดของกลุ่มปลายน้ำดูแลเรื่องการจัดการขยะสามารถวัดปริมาณขยะที่เป็นซองเมล็ดกาแฟจากการบริโภค พบว่ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น  

"อย่างปีที่แล้ว เปิดรับบริจาคซองกาแฟในงานเดียวกันนี้ เราได้รับมาถึง 4พันใบ ตีเป็นน้ำหนักได้เกือบ ๆ 1 ตัน เป็นกาแฟไทยครึ่งหนึ่งและกาแฟนอกครึ่งหนึ่ง แต่ในส่วนกาแฟนอกนี้ก็เป็นการนำเข้ามาคั่วในประเทศ เป็นโรงงานคั่วของคนไทย นั่นหมายถึงมาจากฝีมือคนไทย และซองเมล็ดกาแฟเองยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าและเรื่องราวความทรงจำดี ๆ  อีกมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่าคนไทยบริโภคกาแฟกันเยอะขึ้น และให้คุณค่ากับมันมากขึ้น" เขากล่าว

และทั้งหมดนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนหนึ่งที่มองเห็นคุณค่าของกาแฟไทย แล้วคุณล่ะ…"คุณค่าของกาแฟพิเศษไทยของคุณคืออะไร" ติดตามความหมายและคุณค่าของของกาแฟพิเศษไทยครั้งต่อไปได้ที่งาน Thailand Coffee Fest 2023 Year End งานเทศกาลกาแฟส่งท้ายปลายปี ที่พาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของกาแฟพิเศษไทย เพื่อส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่คุณรัก ซึ่งจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 14 - 16 ธันวาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5 - 6 ได้ที่ได้ที่เฟสบุ๊ก Thailand Coffee Fest คลิก https://www.facebook.com/ThailandCoffeeFest หรือเว็บไซต์ www.thailandcoffeefest.org

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit