โรงพยาบาลเวชธานี ธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ เผยครึ่งแรกปี 2566 จำนวนคนไข้ต่างชาติใช้บริการเพิ่มขึ้น 30-50% โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง และกลุ่ม CLMV มองอนาคตอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสดใส หนุนตลาดกลุ่ม Medical Traveler เติบโตตาม ชี้เทรนด์โลกคนป่วยสุขภาพจิตพุ่ง จึงมีความพร้อมขยายธุรกิจสู่โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านสุขภาพจิต เตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ "BMHH" พร้อมเปิดให้บริการวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ย้ำมั่นใจมุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางชั้นนำระดับตติยภูมิในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดร.ชาคริต ศึกษากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เวชธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จุดแข็งของ เวชธานี คือ การเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วย โดยแพทย์เฉพาะทางหลากหลายสาขา ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ประกอบกับความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญในด้านต่าง ๆ เพื่อประสิทธิภาพการดูแลรักษาสูงสุด ปัจจุบันมีศูนย์การบริการทางการแพทย์เฉพาะทางมากกว่า 20 ศูนย์
โรงพยาบาลเวชธานี นับเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีแนวคิดการทำธุรกิจ เน้นสร้างความยั่งยืนในระยะยาวมานานกว่า 10 ปี โดยไม่ได้มองตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียวแต่ขยายให้กว้างขึ้นเป็นทั้งโลก ทำให้ตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ ใกล้เคียงกับลูกค้าชาวไทย นั่นแสดงให้เห็นว่าโรงพยาบาลนั้นมีคุณภาพมาตรฐานระดับสากลจนเป็นที่ยอมรับ โดยล่าสุดได้การรับรองระดับโลกจาก Global Healthcare Accreditation for Medical Travel Services นับเป็นโรงพยาบาลแห่งที่ 5 ของโลก ที่ได้รับการรับรองคุณภาพดังกล่าว ถือเป็นการตอกย้ำคุณภาพระดับสูงในการให้บริการแก่ผู้รับบริการทั่วโลก ที่เดินทางมารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลเวชธานี และสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub อย่างแท้จริง
ทั้งนี้เห็นได้จาก ภายหลังจากที่มีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ในครึ่งหลังปี 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจโรงพยาบาลเวชธานีมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดี โดยเฉพาะการกลับมาใช้บริการของลูกค้ากลุ่มหลักที่เป็นชาวต่างชาติ ได้แก่ กลุ่มตะวันออกกลาง และกลุ่ม CLMV (กัมพูชา, ลาว, พม่า, เวียดนาม) และแถบแอฟริกา โดยจะเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งแรกปี 2566 จำนวนลูกค้าชาวต่างชาติมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 30-50% และเชื่อว่าในปี 2567 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเติบโตดีมาก ทำให้กลุ่มนักนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Traveler) หลั่งไหลเข้ามาประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของเวชธานีเช่นกัน
"สำหรับตลาด Medical Traveler เวชธานีค่อนข้างแข็งแกร่ง เพราะโฟกัสต่อเนื่องมา 15 ปีแล้ว ประกอบกับชื่อเสียงของเราที่มีความเฉพาะทางหลากหลายสาขา ซึ่งสามารถรักษาคนไข้ที่เป็นโรคซับซ้อน โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อที่ถือเป็นจุดแข็งของเวชธานี คนในตะวันออกกลางให้ฉายาเราว่า King of Bonesซึ่งการทำตลาดในต่างประเทศเริ่มต้นจากการดูแลคนไข้ที่มาหาให้ดีด้วยความเฉพาะทางที่เรามี และพยายามทำสิ่งนั้นให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนมีการบอกต่อ เพราะธุรกิจการแพทย์เป็นเรื่องปากต่อปาก เมื่อโรงพยาบาลรักษาคนไข้หายก็จะบอกต่อกันไปเรื่อย ๆ เราเพิ่งเปิดศูนย์มะเร็งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เน้นให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวมและครอบคลุมด้วยนวัตกรรมการรักษาที่กล้าพูดได้ว่าตอนนี้เราเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่แรกที่ใช้นวัตกรรมนี้ นั่นคือ Cancer Vaccine และ Cancer Avatar ซึ่งได้ร่วมกันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมนี้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างแม่นยำและการรักษาอย่างตรงจุด "
ดร.ชาคริต กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของโรงพยาบาลเวชธานี ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางชั้นนำระดับตติยภูมิในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยล่าสุดมีแผนเตรียมเปิด "โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านสุขภาพจิต ภายใต้ชื่อ Bangkok Mental Health Hospital : BMHH" ตั้งอยู่ถนนติวานนท์ 39 ชูกลยุทธ์สร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่นจากโรงพยาบาลทั่วไป ทั้งเรื่องบริการ การออกแบบโรงพยาบาลโดยประสบการณ์ของทีมบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทางด้านจิตเวช เพื่อให้เหมาะกับผู้รับบริการ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ตลอดจนเครื่องมือทางการแพทย์และยาใหม่ๆ มาช่วยเสริมกับความชำนาญของทีมแพทย์ที่เป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย จึงมั่นใจว่าจะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งเราจะนำความโดดเด่นเหล่านี้มาสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นต่อกลุ่มเป้าหมาย
เทรนด์ด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต (Health and wellness) เป็นเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และโรงพยาบาลเฉพาะทางก็เป็นที่ต้องการของตลาด เพราะคนไข้ต้องการทางเลือกในการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป จากข้อมูลสถิติโลกพบว่าผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยในประเทศไทยจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 2 เท่าในระยะ 6 ปี ข้อมูลจากระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในปี 2565 มีผู้ป่วยจิตเวชเข้ารับการรักษามากถึง 2.5 ล้านคน ทำให้ความต้องการบริการด้านสุขภาพจิตและจิตเวชเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวได้ว่าปัจจุบันนี้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพจิตในคนไทยเองก็มีความเข้าใจดีมากขึ้น และความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิตมากขึ้นเช่นกัน
โดยเฉพาะผู้ป่วยเอง หรือญาติผู้ป่วยกล้าไปพบแพทย์ด้านจิตเวชมากขึ้น เวชธานีมองเห็นเทรนด์ที่เกิดขึ้น ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงได้ทำการศึกษาอย่างจริงจัง ทำให้เห็นภาพชัดขึ้น พร้อมนำองค์ความรู้ไปดูแลผู้ป่วย แม้ว่าในแง่ของผลตอบแทนทางธุรกิจจะไม่ได้สูงมาก แต่การได้เข้าไปอยู่ในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง ก็หวังว่าในอนาคตจะเชื่อมตลาดด้านสุขภาพจิตกับตลาดด้านสุขภาพทางกายเข้าด้วยกันในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง และเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้เรื่องสุขภาพจิตมากขึ้น
"ความคาดหวังของ BMHH คืออยากเป็นโรงพยาบาลเอกชนด้านสุขภาพจิตชั้นนำที่ประสบความสำเร็จในภูมิภาคนี้ มีขีดความสามารถในการรักษาโรคทางสุขภาพจิต แต่เราไม่ได้คาดหวังในเชิงธุรกิจมากนัก แค่รักษาให้ดี สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติให้เข้ากับสังคมได้ โดยตั้งเป้าหมายให้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยภายใน 2 ปี ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เพราะเราโชคดีสามารถฟอร์มทีมได้เร็ว มีหมอที่มีชื่อเสียงมานำทีม และมีหมอจบเฉพาะทางมาจากต่างประเทศ หมอเก่ง ๆ เริ่มงานกับเรา ถือเป็นแนวโน้มที่ดี และเมื่อถึงจุดหนึ่งจะไปเน้น Medical Traveler เช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องสุขภาพจิตในต่างประเทศเป็นเรื่องที่บูมมาก" ดร.ชาคริต กล่าวทิ้งท้าย
โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านสุขภาพจิต BMHH พร้อมมอบทางเลือกใหม่ ชูกลยุทธ์สร้างความต่าง "การรักษาแบบเฉพาะบุคคล"
Be Well Medical Center จับมือ โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ขยายความร่วมมือทางการแพทย์ ช่วยตรวจวินิจฉัย ให้คำปรึกษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ในกลุ่ม Expat
รพ.มะเร็งชีวามิตรา ชู Liquid Biopsy นวัตกรรมตรวจวิเคราะห์มะเร็งจากเลือด ชี้ตรวจพบเร็วช่วยเพิ่มโอกาสการรักษา
สิทธิประโยชน์ของผู้ป่วยมะเร็ง โรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา
“IMH” รุกหนักเปิดบริการตรวจภูมิคุ้มกัน COVID-19 แบบ Drive-Thru – บริการถึงบ้าน ราคาแพคเกจ 850 บาท
รพ.วัฒโนสถ จับมือ ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ และสำนักงานเขตปทุมวัน รณรงค์ผู้หญิงไทยห่างไกลโรคมะเร็งเต้านม จัดโครงการ CSR “Mammogram Road Show 2016” ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมสัญจร