เมืองนิเวศเทียนจิน จีน-สิงคโปร์ เผยแผนการปล่อยคาร์บอนถึงเพดานสูงสุดและบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมืองนิเวศเทียนจิน จีน-สิงคโปร์ (China-Singapore Tianjin Eco-City) ซึ่งตั้งอยู่ในเทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีน ได้ประกาศแผนปฏิบัติการว่าด้วยการปล่อยคาร์บอนถึงเพดานสูงสุดและบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของโครงการทวิภาคีดังกล่าว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากการรายงานของคณะกรรมการบริหารเมืองนิเวศเทียนจิน จีน-สิงคโปร์

แผนปฏิบัติการดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่ 4 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรม การก่อสร้าง พลังงาน และการขนส่ง เพื่อบุกเบิกเขตสาธิตในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ตลอดจนสร้างสื่อกลางเพื่อสาธิตการพัฒนาคาร์บอนต่ำและคาร์บอนเป็นศูนย์ รวมทั้งสนับสนุนโครงการสำคัญ ๆ ในการลดคาร์บอน เพื่อสร้างแบบจำลองสำหรับทั่วประเทศและแม้กระทั่งทั่วโลก

แผนปฏิบัติการดังกล่าวตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า ภายในปี พ.ศ. 2568 การปล่อยคาร์บอนต่อหัวในเมืองนิเวศแห่งนี้จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของนครเทียนจินอย่างมีนัยสำคัญ และภายในปี พ.ศ. 2573 คาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยของจีดีพีและการปล่อยคาร์บอนต่อหัวจะอยู่ในกลุ่มที่ต่ำที่สุดในประเทศจีน

อุทยานวิทยาศาสตร์ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองนิเวศ อุทยานสารสนเทศทางตอนกลางของเมือง และอุทยานอุตสาหกรรมทางตอนเหนือของเมือง จะรวมตัวกันเป็นสื่อกลางสำคัญในการสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ ซึ่งมุ่งเน้นนวัตกรรม การพลิกโฉมอุตสาหกรรม และการผลิตในภาคส่วนต่าง ๆ ตามลำดับ

พื้นที่ทางตอนใต้ของเขตความร่วมมือจีน-สิงคโปร์ และเขตเมืองใหม่หลินไห่ (Linhai New City) มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ใช้เทคโนโลยี และให้ความสำคัญกับการบริการ เช่น ชีวการแพทย์ ซอฟต์แวร์ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นต้น ส่วนพื้นที่ตอนกลางของเขตความร่วมมือจะมุ่งเน้นการบูรณาการซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เข้าด้วยกัน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านและการนำผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้

สำหรับทางตอนเหนือของเขตความร่วมมือ และทางตอนเหนือของเขตท่องเที่ยวปินไห่ (Binhai Tourism Zone) จะพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตคาร์บอนต่ำ เช่น การผลิตอัจฉริยะ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ ส่วนพื้นที่ท่าเรือประมงทางตอนกลางจะสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมสีเขียวที่บูรณาการคลังสินค้า การแปรรูป การค้า และการเงินเข้าด้วยกัน

ในฐานะเขตสาธิตการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมระดับชาติแห่งแรก เมืองนิเวศแห่งนี้ได้สนับสนุนการใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ การใช้พลังงานเกือบเป็นศูนย์ และอาคารที่ใช้พลังงานเป็นศูนย์ โดยมีความพยายามที่จะสร้างอาคารที่อยู่อาศัยคาร์บอนต่ำและอาคารสาธารณะคาร์บอนเป็นศูนย์ นอกจากนั้นจะมีการผลักดันให้ใช้มาตรฐานการใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษสำหรับอาคารที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งหมด และมาตรฐานการใช้พลังงานเกือบเป็นศูนย์สำหรับอาคารสาธารณะแห่งใหม่ที่รัฐบาลเป็นผู้ลงทุนสร้าง

ขณะเดียวกัน เมืองนิเวศแห่งนี้จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายท่อความร้อน ลดการใช้พลังงานความร้อนต่อหน่วยพื้นที่ รวมทั้งบูรณาการการก่อสร้างอาคารเข้ากับการพัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์ ด้วยการสนับสนุนการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในอาคารที่อยู่อาศัย

"เมืองนิเวศแห่งนี้จะเร่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ผลักดันการบูรณาการเข้ากับการก่อสร้างเมือง สำรวจการพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าสีเขียว ตลอดจนใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากหลังคาของอาคารใหม่และอาคารที่มีอยู่แล้วด้วยการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์" เจ้าหน้าที่จากสำนักสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศของเมืองนิเวศ กล่าว

แผนปฏิบัติการดังกล่าวยังกำหนดภารกิจเฉพาะสำหรับการพัฒนาระบบการเดินทางอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การสร้างระบบการท่องเที่ยวแบบเนิบช้า (Slow Travel) ที่เหมาะสมและสะดวกสบาย การสร้างทางเดินเท้าคุณภาพสูง รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำผ่านกระบวนการครบวงจร ซึ่งครอบคลุมการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง การก่อสร้าง การดำเนินงาน และการบำรุงรักษา

ทั้งนี้ เมืองนิเวศเทียนจิน จีน-สิงคโปร์ เป็นโครงการความร่วมมือที่สำคัญระหว่างสองประเทศ โดยเป็นเมืองนิเวศแห่งแรกของโลกที่พัฒนาร่วมกันระหว่างประเทศเพื่อรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ยกระดับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ประหยัดทรัพยากรและพลังงาน และเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยโครงการนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551

ที่มา: คณะกรรมการบริหารเมืองนิเวศเทียนจิน จีน-สิงคโปร์


ข่าวความเป็นกลางทางคาร์บอน+โครงการทวิภาคีวันนี้

อว. มอบรางวัล 6 มหาวิทยาลัยดีเด่น โครงการ ECOLIFE in U ต้นแบบความยั่งยืน พร้อมผลักดันเยาวชนไทยร่วมขับเคลื่อน Carbon Neutrality

ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ ให้กับมหาวิทยาลัยที่มีผลงานโดดเด่นในโครงการ "ECOLIFE in U" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และบริษัท คิดคิด จำกัด กิจการเพื่อสังคม ภายใต้การดำเนินกิจการโดย ท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร และ นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)

รายงานใหม่จาก CASE ชี้ ไทยต้องลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ - ขยายพลังงานหมุนเวียน เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนปี พ.ศ. 2593

ผลการศึกษาล่าสุดจากสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Agora Energiewende นำเสนอแนวทางลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน เพื่อ...

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เปิดตัวนวัตกรรม... Dow เปิดตัวนวัตกรรมซิลิโคนเคลือบแผ่นรองสติ๊กเกอร์ "เป็นกลางทางคาร์บอน" ในงาน AWA 2025 กรุงเทพฯ — กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เปิดตัวนวัตกรรมซิลิโคนเคลือบแผ่...

รถบรรทุกแบบใช้ไฟฟ้าช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO ... โคเวสโตร จับมือ คาทูน นาที ร่วมลดการปล่อยคาร์บอนด้วยรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า — รถบรรทุกแบบใช้ไฟฟ้าช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO ? ได้ถึง 400 ตันต่อปี ความร่วมมือเชิงก...

ทรินาโซลาร์เปิดตัวโซลูชันโซลาร์พีวีควบคู่ระบบกักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูงในงาน Asia Sustainable Energy Week 2025

ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และมีเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608 ที่ผ่านมาความต้องการโซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจรจึง...