บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ "K" ส่งสัญญาณถึงผู้ถือหุ้น เตรียมนับถอยหลังอย่าลืมใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ "K-W2" รอบแรกเดือนส.ค.นี้ สัดส่วน 6:1 ที่ราคา 0.80 บาทต่อหุ้น หวังนำเงินมาใช้เป็นหมุนเวียนเพิ่มศักยภาพรับงานใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเสิร์ฟข่าวดีล่าสุด คว้าดีลโปรเจคร่วมทุน รับงานตกแต่งภายในศูนย์การค้าใจกลางเมือง มูลค่ากว่า 40 ล้านบาทมาครอง จ่อรับทรัพย์ทันทีในไตรมาส 3/66 นี้ ขณะที่ Backlog ในมือปัจจุบันกว่า 400 ล้านบาท บุ๊คภายในปีนี้ทั้งหมด พร้อมชูไตรมาส 4 เข้าสู่โหมด ไฮซีซั่น ส่อแววโกยรายได้"Motor Expo" มูลค่า 80 -120 ล้านบาท ตอกย้ำผลงานปี 66 เทิร์นอะราวด์ รายได้แตะ 840 ล้านบาท
นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ.จำกัด (มหาชน) ("K") ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานแบบครบวงจร 4 ประเภท ประกอบด้วย1.ธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors), 2.ธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions), 3.ธุรกิจการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และ 4.ธุรกิจงานพิพิธภัณฑ์และสวนสนุกแนวคิด (Museums & Thematic Park) เปิดเผยว่า ภายหลังที่บริษัทฯออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 (K-W2) โดยมีอายุ 1 ปี นับแต่วันที่ออกและเสนอขาย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 79,922,412 หน่วย ในอัตรา 6 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในทุก ๆ 3 เดือนนั้น
ทางบริษัทฯขอแจ้งไปยังผู้ถือหุ้นว่า ภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะครบกำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิแปลงสภาพ K -W2 รอบแรกในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 โดยบริษัทฯได้เตรียมเปิดให้ผู้ถือหน่วยแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ K-W2 ได้ระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2566 ที่อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยวอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ ในราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 0.80 บาทต่อหุ้น และได้กำหนดใช้สิทธิ์ในครั้งที่ 2 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 สามารถแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ K-W2 ได้ระหว่างวันที่ 23-29 พฤศจิกายน 2566 ครั้งที่ 3 สามารถใช้สิทธิ์แปลงสภาพ ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยสามารถแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ K-W2 ได้ระหว่างวันที่ 22-28 กุมภาพันธ์ 2567 และจะทำการซื้อขาย K-W2 วันสุดท้ายคือ วันที่ 18 เมษายน 2567 ก่อนที่ผู้ถือหุ้นจะใช้สิทธิ์ครั้งสุดท้าย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ดังนั้นจะต้องแจ้งความจำนงเพื่อใช้สิทธิแปลง K-W2 ระหว่างวันที่ 29-30 เมษายน และวันที่ 1-13 พฤษภาคม 2567
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการใช้สิทธิแปลงสภาพ K-W2 ในครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตในอีก 1 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าเม็ดเงินจากการระดมทุนภายหลังผู้ถือหุ้นมีการแปลงสภาพหมดตามสิทธิประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯในการนำเม็ดเงินดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนเพื่อหมุนเวียนสำหรับการต่อยอดและรองรับการขยายโครงการต่าง ๆ ในอนาคต ทั้งนี้หากมีโครงการใหม่ๆ เข้ามาในช่วงกลางปีหรือปลายปีนี้ บริษัทฯ ก็สามารถนำเม็ดเงินดังกล่าวมาต่อยอดการทำงานได้อย่างลงตัว
นายวงศกร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะกลับมาโดดเด่นในเรื่องการรับงานตกแต่งภายใน (Interiors) มากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดคว้างาน Interiors ในห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 40 ล้านบาท โดยงานดังกล่าวเป็นโครงการร่วมทุนกับ กลุ่มบริษัทพันธมิตร โดยงานดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้เข้ามาภายในไตรมาส 3/2566 นี้ทันที
ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้รับงานจากกลุ่มบริษัท มิราเคิล ซึ่งเป็นงาน Interiors เลานจ์ ในสนามบินสุวรรณภูมิ ภายในโครงการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) มูลค่า 65 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 5 เดือน (พฤษภาคม-กันยายนนี้) โดยงานดังกล่าว บริษัทฯทอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/2566นี้ ส่วนงาน Interiors ภายในห้างสรรพสินค้า 2 โครงการก่อนหน้านี้ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 20 ล้านบาทนั้น จะทยอยส่งมอบงานและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2-3/2566 นี้ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ในไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯจะรับรู้รายได้จากกลุ่มงาน Interiors เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมรับงานตกแต่งภายในของโรงแรมแห่งหนึ่ง มูลค่ากว่า 42 ล้านบาท ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในงานดังกล่าวเข้ามาในปีนี้ ประมาณ 16 ล้านบาท ส่วนรายได้ที่เหลือจะรับรู้ต่อเนื่องในปี 2567
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมของธุรกิจในปี 2566 นี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อีกครั้ง โดยได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโตแตะระดับ 840 ล้านบาท โดยล่าสุดบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ประมาณ 90% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 2567 อีกทั้งปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog ที่ secure revenue ทั้งปีแล้วประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งในเหลือของปีนี้ ดังนั้นยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า การกลับมาเทิร์นอะราวด์ในปีนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินเอื้อม ฉะนั้นในช่วงระยะเวลาที่เหลือจึงเชื่อว่าจะมีดีลงานใหม่เข้ามาเพิ่มในพอร์ตอีกเพียง 250 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน ประกอบกับในช่วงไตรมาส4/2566 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ที่สำคัญมีงานโปรเจคใหญ่ อย่าง Motor Expo ที่บริษัทฯคาดว่าจะได้รับงานมูลค่านี้ ประมาณ 80-120 ล้านบาท เช่นเดียวกัน
"บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมแตะระดับ 840 ล้านบาท จากสัดส่วนรายได้ 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มงาน Interiors ประมาณ 150 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 15-20% ของรายได้รวม และกลุ่มงาน Exhibition รวมถึงงาน Event ประมาณ 690 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 80-85% ของรายได้รวม ซึ่งจุดเด่นของ K คือการที่บริษัทฯ สามารถทำได้ทั้ง 2 ส่วน คืองาน Exhibitions และงาน Interiors ประกอบกับด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าได้ครบทุกมิติ"
มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จัดกิจกรรมวันเด็ก 'Millennium Auto Dream Factory' 13-14 มกราคมนี้ เนรมิตรพื้นที่ในศูนย์การค้าใจกลางเมือง ให้เป็นโรงงานแห่งความสนุก
ร้านผัดไทยกุ้งล็อบสเตอร์ "แม่มณี" สาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ต้อนรับมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023
สุดปัง! งาน MBK CENTER X YELLOW CHANNEL Happy Pride Month กองทัพ Drag Stars ทั่วฟ้าเมืองไทย Celeb สุดเฟี๊ยตกว่า 100 ชีวิต ร่วมเดินแฟชั่นโชว์บน Runway ยาวกว่า 700 เมตร
ภัทร เลิศสุกิตติพงศา ฟันเฟืองขับเคลื่อน Thai Drag Community แข็งแกร่งสู่เวทีระดับโลก ชวนมา HAPPY PRIDE MONTH ในงาน MBK CENTER X YELLOW CHANNEL PRIDE Bright Like A Diamond
ทัวริสต์ถูกใจสิ่งนี้ รวมร้านเด็ดอีเวนต์โดนใจใน MBK Center มาเมืองไทยทีไรต้องปักหมุดเช็คอิน
เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จับมือ สายการบินไทยเวียตเจ็ท มอบ PRIVILEGE ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
เดอะ สตรีท รัชดา ผนึกพันธมิตรโลจิสติกส์ชั้นนำในไทย ชู "โลจิสติกส์ ฮับ" ศูนย์การค้าใจกลางเมือง ให้บริการ 24 ชั่วโมง
เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ อาสาสร้างสุขสู่ชุมชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนเชื่อมสัมพันธ์ เชิญโค้ชง้วน ตำนานลูกหนังไทย แนะเทคนิคสร้างแรงบันดาลใจ