รมว.กระทรวงดีอีเอส เปิดวิสัยทัศน์หลังผลักดัน GDCC เป็นโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เตรียมเดินหน้าพัฒนาศักยภาพคลาวด์กลางต่อเนื่อง เล็งดัน สดช.และ เอ็นที ร่วมมือผู้ให้บริการเอกชนพัฒนา Cloud First เต็มรูปแบบ รองรับนวัตกรรม AI ความปลอดภัยข้อมูลภาครัฐ มุ่งเป้ายกระดับโครงสร้างคลาวด์กลางรองรับรัฐบาลดิจิทัล
วันนี้ (14 ธันวาคม 2566) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานเปิดงานสัมมนา GOV Cloud 2023 : Government Innovation with Cloud นำเสนอความสำเร็จของโครงการคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC และทิศทางความพร้อมก้าวสู่ Cloud First ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารสำนักงานใหญ่ เอ็นที
นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอสให้ความสำคัญการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยให้สามารถรับมือความเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีหลากหลายที่ปฏิวัติทุกมิติของสังคมและเศรษฐกิจซึ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการเดินหน้าวางรากฐานรัฐบาลดิจิทัลที่มั่นคงและต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมากระทรวงดีอีเอสฯ ได้ผลักดันการใช้งานระบบคลาวด์กลางเป็นโครงสร้างดิจิทัลพื้นฐานหลักของภาครัฐ ผ่านโครงการระบบคลาวด์กลาง GDCC ซึ่งปัจจุบันรองรับหน่วยงานใช้บริการมากกว่า 800 หน่วยงาน และมีระบบงานหลัก ๆ ของรัฐที่โอนย้ายมายังระบบคลาวด์กลางแล้วกว่า 3,000 ระบบงาน นอกจากคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC กระทรวงดีอีเอสยังมีนโยบาย Cloud First Policy ยกระดับความสามารถของบริการคลาวด์กลางภาครัฐก้าวไปอีกขั้นเพื่อตอบสนองแนวโน้มการใช้งานด้านข้อมูลและการพัฒนานวัตกรรมของภาครัฐที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ด้วยแนวคิดการพัฒนา Cloud First ที่ผสมผสาน private cloud และ public cloud ที่มีมาตรฐานในการดูแลข้อมูลของภาครัฐที่มีปริมาณจำนวนมาก มีบริการด้านซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มที่หลากหลาย รองรับภาครัฐที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมบริการต่าง ๆ ให้เข้าถึงประชาชนอย่างสะดวกรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และส่งเสริมการใช้ AI อย่างปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบริการของภาครัฐและเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัลมากขึ้น ทั้งนี้ Cloud First สามารถยกระดับความสามารถของคลาวด์กลางภาครัฐที่ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยงสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการคลาวด์ภาครัฐและ ผู้ให้บริการคลาวด์ภาคเอกชน ตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่มุ่งพัฒนาระบบดิจิทัลเป็นรากฐานสำคัญรองรับการขยายศักยภาพของประเทศในอนาคต
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปถึงความเชื่อมั่นว่า สดช. และ NT ในฐานะหน่วยงานรัฐผู้ดำเนินงานให้บริการโครงการคลาวด์กลาง GDCC มีความพร้อมด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพที่จะเป็นแกนกลางให้กับโครงการ Cloud First ของภาครัฐ ในการเป็นศูนย์กลางโครงสร้างดิจิทัลเพื่อการบริหารราชการแผ่นดินที่เป็นเอกภาพ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทย ให้ก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สามารถแข่งขันในตลาดโลกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เพิ่มโอกาสในการสร้างงานที่มีมูลค่าสูง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวถึง การพัฒนา GDCC อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน GDCC ยกระดับเป็นโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ภาครัฐที่ให้บริการครบถ้วน สามารถส่งเสริมการทำงานของรัฐบาลดิจิทัลที่เต็มรูปแบบ ครอบคลุมทั้งในด้านบริการโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS) บริการแพลตฟอร์ม (PaaS) และ บริการซอฟต์แวร์ (SaaS) โดยเฉพาะล่าสุดการเปิดบริการ Market place แหล่งรวมบริการซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน และแฟลตฟอร์มที่หลากหลายสำหรับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็ว ตลอดจนพัฒนาบริการและแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้พัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัลภาครัฐแล้วกว่า 3,000 คน
ที่ผ่านมาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ได้ทำหน้าที่เป็นเบื้องหลังการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สร้างความสำเร็จให้กับโครงการภาครัฐภาคเกษตร การขนส่ง การท่องเที่ยว การศึกษา อาหารและยา สาธารณสุข และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ในอนาคต สดช. ยังมีแนวทางและเป้าหมายพัฒนาบริการคลาวด์กลาง GDCC ที่มากกว่าการเป็นเพียงแค่พื้นที่ในการเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูล แต่มุ่งพัฒนาคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC เป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในโลกดิจิทัล โดยเน้นไปที่การสร้างคุณค่าและประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ภาคประชาชน รวมถึงต่อยอดการทำงานที่เพิ่มประสิทธิภาพสอดคล้องกับ Cloud First เพื่อให้เป็นคลาวด์กลางภาครัฐที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า NT ในฐานะหน่วยงานด้านโทรคมนาคมดิจิทัลภาครัฐ มีความพร้อมในการรองรับการขับเคลื่อนยกระดับโครงสร้างระบบคลาวด์กลางภาครัฐตามนโยบายของกระทรวงดีอีเอส และ สดช. โดยมุ่งนำจุดแข็งคือการบูรณาการศักยภาพโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างประเทศทั่วโลก และดาต้าเซ็นเตอร์ 13 แห่งทั่วประเทศ บวกกับความเชี่ยวชาญของบุคลากรด้านคลาวด์ในบริการคลาวด์กลางภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากประสบการณ์ให้บริการระบบคลาวด์ในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี รวมถึงการดำเนินงานระบบคลาวด์กลางให้กับโครงการ GDCC ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อทำหน้าที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถหน่วยงานภาครัฐได้ครบถ้วน ตอบโจทย์ความต้องการภาครัฐในระยะยาวและเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศในมิติต่าง ๆ
DE-BDE ปักหมุดอนาคตดิจิทัลไทย เปิดให้บริการศูนย์ดิจิทัลชุมชนแห่งใหม่แล้ว บนพื้นที่อาคารซี ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ พร้อมดัน IT Man เป็นเครือข่ายดิจิทัลให้ชุมชน ครอบคลุม 878 อำเภอทั่วประเทศ
ดีอี - TAGTHAi ร่วม MOU ส่งเสริม "Smart Tourism" ผ่านแพลตฟอร์ม หนุนยกระดับท่องเที่ยวไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
ทส. ประชุม คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศกำหนดพื้นที่ กรุงเทพฯ และ 4 จังหวัดภาคเหนือ เป็นเขตควบคุมมลพิษ
การประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 4/2568
ข่าวดี! ODOS Summer Camp 2026 พร้อมเปิดรับสมัคร 1 ก.ย.นี้
ปตท.สผ. คว้ารางวัล AIBP ASEAN Enterprise Innovation Award 2025 จากการขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับการดำเนินงาน
รองนายกฯ ประเสริฐ เปิดกิจกรรมปฐมนิเทศโครงการ ODOS Summer Camp พร้อมมอบกำลังใจแก่ 928 เยาวชนไทย ก่อนลัดฟ้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างแดน
อว. ผนึก ดีอี โดย สวทช. จุฬาฯ และ สพธอ. เตรียมการจัดตั้ง "AI Thailand Hub" เดินหน้ายุทธศาสตร์ AI นำร่อง COE ประเทศ ลุยสร้างคน สร้างมาตรฐาน บริการ AI ครบวงจร
กระทรวงดีอี อัดงบ 69 พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ปูพรมภาคการผลิต หนุนพัฒนา AI เพิ่มขีดแข่งขันประเทศไทย