บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เดินหน้าแผนพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน มุ่งส่งมอบโอกาสทางการเงินอย่างทั่วถึง ยกระดับการบริการสู่มาตรฐานระดับโลก (World-Class Thai Microfinance) หวังดันพอร์ตสินเชื่อทะลุ 170,000 ล้านบาท ในปี 67 พร้อมพัฒนาคุณภาพลูกหนี้ คุม NPL ไม่เกิน 3.2% ผ่านการปล่อยสินเชื่อที่รับผิดชอบและเป็นธรรม ดันธุรกิจเติบโต 20%
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 20% พอร์ตสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นจาก 140,000 ล้านบาท เป็น 170,000 ล้านบาท หวังกระจายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านสาขากว่า 7,600 แห่ง มุ่งสร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และพัฒนานวัตกรรมเพื่อการบริการให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในทุกมิติ
"เราเน้นปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Generative AI เพื่อพัฒนาการบริการในมาตรฐานระดับสากล พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จากไม่เกิน 3.50% ในปีที่ผ่านมา เป็นไม่เกิน 3.20% ในขณะที่ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าส่วนใหญ่มีทิศทางที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงนโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยและปรับโครงสร้างหนี้ในสัดส่วน 1% ของพอร์ตสินเชื่อรวม เพื่อช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทฯ ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ยังทรงตัว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในช่วงขาลง เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ NIM ปรับตัวดีขึ้น"
รองกรรมการผู้จัดการ MTC กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นยกระดับการบริการสินเชื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับโลก (World-Class Thai Microfinance) สอดรับความร่วมมือองค์การระหว่างประเทศหลายสถาบัน อาทิเช่น ความร่วมมือรัฐบาลญี่ปุ่น(JICA) และรัฐบาลเยอรมันนี (KFW DEG) เพื่อระดมทรัพยากรทางการเงินเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เคารพในสิทธิ รักษาผลประโยชน์ และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด ส่งผลให้ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ "ดีเลิศ" (5 ดาว) รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA สะท้อนการเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่มีความรับผิดชอบและเป็นธรรม มุ่งสร้างเสถียรภาพทางการเงิน เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจ เติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีหุ้นกู้ทยอยครบกำหนดในปีนี้รวม 25,000 ล้านบาท ซึ่งมีแผนที่จะออกหุ้นกู้เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด และมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ สามารถนำมาชำระคืนหุ้นกู้ได้ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการชำระคืนหุ้นกู้แต่ประการใด
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เหลือ 6.15% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงิน
INETREIT ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 กวาดรายได้ 168.09 ล้านบาท เติบโต 58.50% เคาะจ่ายปันผลรายเดือน 0.0667 บาทต่อหน่วย
—
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสัง...
SCBX เปิดตัวรายงาน AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence พร้อมเทรนด์ AI สำคัญสำหรับภาคธุรกิจไทย
—
เตรียมความพร้อมสู่การเป็นองค์...
SPREME สุดสตรอง! โชว์งบ Q1/68 กำไรเพิ่มขึ้น 6.4% งานส่งมอบอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง ดันอัตรากำไรขั้นต้นสูง 32.76% ปี 68 ปักหมุดรายได้เติบโต 10-15%
—
บมจ.สุพรีม ...
PREB เตรียมออกหุ้นกู้ อายุ 2 ปี ชูอัตราดอกเบี้ย 5.25-5.40% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 26-28 พ.ค.68
—
นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บร...
หุ้นกู้ "ซีพี ออลล์" อายุ 4 ปี 10 เดือน 13 วัน ช่วงดอกเบี้ย [2.80 - 2.95]% ต่อปี ทางเลือกลงทุนในธุรกิจพื้นฐานแกร่ง ช่วงดอกเบี้ยขาลง
—
คาดว่าเปิดจองให้ผู้ถ...
MPJ เปิดเกมรุก สู้ศึก TRADE WAR สบช่องขยายโอกาสการลงทุน ลุยปรับแผนเพิ่มช่องทางการขนส่งในอาเซียน-ตะวันออกกลาง
—
บมจ.เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ หรือ MPJ เปิดเกมส...
ธ.ทิสโก้ เสิร์ฟบัญชีเงินฝากประจำออนไลน์ "TISCO e-Fixed"
—
ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เอาใจคนชอบเซฟ ! เสิร์ฟบัญชีเงินฝากประจำ 9 เดือน "TISCO e-Fixed" ดอกเบ...