สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กรมควบคุมมลพิษ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จับมือจังหวัดเชียงราย และภาคี หวังผลักดันทำงานเชิงรุกทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่กับประเทศเพื่อนบ้านลดมลพิษหมอกควันข้ามแดน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

โครงการพัฒนาความร่วมมือ ไทย-ลาว-เมียนมา ขับเคลื่อนการจัดการและลดมลพิษหมอกควันข้ามแดน และจังหวัดเชียงราย จัดงานแถลงข่าวเชียงรายพื้นที่ปฏิบัติจัดการและลดหมอกควันข้ามแดนขับเคลื่อนความร่วมมือ ไทย-ลาว-เมียนมา ร่วมกับองค์กรภาคี เพื่อประกาศเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของภาคีเกี่ยวข้อง หวังผลักดันการทำงานเชิงรุกทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาและลดมลพิษหมอกควันข้ามแดน

สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กรมควบคุมมลพิษ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จับมือจังหวัดเชียงราย และภาคี หวังผลักดันทำงานเชิงรุกทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่กับประเทศเพื่อนบ้านลดมลพิษหมอกควันข้ามแดน

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่าจังหวัดเชียงราย เป็นหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือที่ประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นประจำทุกปี ซึ่งพบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อช่วงต้นปี 2566 มีความรุนแรงมากกว่าทุกปี บางพื้นที่พบระดับความเข้มข้นของฝุ่นละออง PM2.5 มากกว่า 500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รวมถึงผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีแนวพรมแดนติดต่อทั้งลาวและเมียนมา เราตระหนักดีว่าการแก้ปัญหาทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน มีความท้าทายและหวังผลได้ไม่ง่าย แต่ภาคีและกลไกความร่วมมือจะมีบทบาทสำคัญในการขยายแนวปฏิบัติลดการเผา เชียงรายพร้อมผนึกกำลังและสนับสนุนอย่างเต็มกำลังให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กรมควบคุมมลพิษ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จับมือจังหวัดเชียงราย และภาคี หวังผลักดันทำงานเชิงรุกทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่กับประเทศเพื่อนบ้านลดมลพิษหมอกควันข้ามแดน

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้กล่าวเสริมว่าสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ในฐานะองค์กรดำเนินงานโครงการพัฒนาความร่วมมือ ไทย-ลาว-เมียนมา ขับเคลื่อนการจัดการและลดมลพิษหมอกควันข้ามแดนหลัก ร่วมมือกับกรมควบคุมมลพิษ และสถาบันพัฒนาและวิจัยพื้นที่สูง มีความมุ่งหวังให้เกิดการทำงานเชิงรุกร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดนพร้อมนำองค์ความรู้และประสบการณ์มาปรับและบริหารจัดการ แก้ไขปัญหาหมอกควันให้เกิดผลรูปธรรมเพื่อประโยชน์การลดมลพิษโดยรวมของประชาชนทั้งสามประเทศ

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้กล่าวว่ากรมควบคุมมลพิษ หรือ คพ. ในฐานะหน่วยงานหลักในการนำเสนอนโยบายการจัดการมลพิษของประเทศ และภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) คพ. จะเป็นหน่วยงานประสานกลางระหว่างประเทศ ร่วมขับเคลื่อนกลไกทั้งในระดับนโยบายของประเทศและผลักดันนโยบายมลพิษข้ามแดน จะเป็นหน่วยงานประสานกลางระหว่างประเทศให้เกิดการดำเนินการต่อยอดจากการประชุมเชิงปฏิบัติการที่ผ่านมา ให้เกิดการทำงานเชิงรุกทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ปฏิบัติการลดการเผาในพื้นที่เป้าหมาย ไทย ลาว เมียนมา และเสริมสร้างศักยภาพประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ปัญหาและตอบสนองภาวะวิกฤติเร่งด่วนของประเทศและการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนต่อไป

ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวเน้นย้ำว่าโครงการพัฒนาความร่วมมือไทย ลาว เมียนมา ขับเคลื่อนการจัดการและลดมลพิษหมอกควันข้ามแดน เป็นหนึ่งใน 5 ชุดโครงการวิจัยภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยของ สวก. ซึ่งเป็นหน่วยบริหารจัดการทุนตามแผนงานวิจัยเร่งด่วนของ สกสว. เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบสนองภาวะวิกฤติเร่งด่วนของประเทศ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จากงานวิจัยนวัตกรรมและการใช้ประโยชน์เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนฝุ่นละออง PM2.5 แบบมุ่งเป้าและบูรณาการ" โดยประเทศไทยได้นำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ดีด้านการลดการเผา รวมถึงระบบเกษตรไม่เผาไปขยายผลต่อให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้นำปฏิบัติในพื้นที่ของประเทศลาวและเมียนมาให้เกิดความยั่งยืนและลดหมอกควันข้ามแดน

นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง สวพส. จักได้ดำเนินงานและยกระดับพื้นที่ในอำเภอแม่สรวยและเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตรเพื่อการแก้ไขปัญหาการเผาอย่างบูรณาการ ตลอดจนการจัดการเศษวัสดุการเกษตรเพิ่มมูลค่า เพื่อให้ชุมชนตัวอย่างลดการเผาและหมอกควันข้ามแดนสู่การขยายผลในพื้นที่เป้าหมายอื่น ๆ ต่อไป

นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กล่าวว่าภารกิจของกรมฯ จะมีส่วนดำเนินการและร่วมการแก้ไขปัญหาหมอกควันภายในประเทศและหมอกควันข้ามแดน โดยเฉพาะการดำเนินงานในพื้นที่เป้าหมายจังหวัดเชียงราย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการเผาไหม้ซ้ำซากสูง รวมถึงการบูรณาการขับเคลื่อนความร่วมมือสู่เป้าหมายการลดพื้นที่เผาไหม้ 50% หนึ่งในสาเหตุของปัญหาหมอกควันข้ามแดนร่วมกับจังหวัดเชียงรายและภาคีความร่วมมือที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ คุณวิลาวรรณ น้อยภา หัวหน้าโครงการ ได้กล่าวเสริมตอนท้ายว่าการดำเนินการโครงการฯ นี้มีความท้าทายหลายประการเพราะปัญหาการเกิดไฟทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตรมีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงโดยตรงกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ การมีและบังคับใช้กฎหมาย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขีดความสามารถในการรับมือกับปัญหาที่แตกต่างกัน ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการผลักดันให้เกิดการทำงานข้ามพรมแดนในพื้นที่นำร่องในประเทศลาวและเมียนมาให้เกิดผลเชิงประจักษ์ได้ไม่ง่ายนัก ในการลดการเผาหรือปรับเปลี่ยนระบบเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการลดสาเหตุของการเกิดหมอกควันข้ามแดน แต่ด้วยความร่วมมือและตอบรับที่ดีจากภาคีต่างๆ ที่ผ่านมา จะเป็นพลังสำคัญให้เกิดการผลักดันการจัดการลดและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมร่วมกันได้ในโอกาสต่อไป


ข่าวo:editor+o:locวันนี้

Bangchak Champions Thailand's Marine Resilience amid Climate Change Hands Over the World's First Aquatic Plant Tissue Culture Laboratory to the Faculty of Fisheries, Kasetsart University

Bangchak Corporation Public Company Limited, represented by Mrs. Gloyta Nathalang, Senior Executive Vice President, Sustainability Management and Corporate Communications, handed over the world's first Aquatic Plant Tissue Culture Laboratory (Anti-Global Warming Seagrass Research Unit) to the Faculty of Fisheries, Kasetsart University. The laboratory was received by Assistant Professor Dr. Suriyan Tunkijjanukij, Dean of the Faculty of Fisheries, Kasetsart University, Assistant Professor r. Thon

อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน... "แจ๊ส" ตามสโตรคเดียว เปิดศึก ลิงค์ ฮ่องกง โอเพ่น รอบแรก — อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2019 ประเดิมฟอร์มร้อนแรงหวด 9 อันเดอร์พาร์ 61...

บริษัท เมอแรนติ กรีน สตีล (ประเทศไทย) จำก... Meranti Green Steel รวมพลังผู้นำอุตสาหกรรมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เหล็กคาร์บอนต่ำของไทย — บริษัท เมอแรนติ กรีน สตีล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ...