รายงานโดย OFweek
มหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์สองงานใหญ่ของทวีปอเมริกา ได้แก่ RE+ และ Intersolar South America ซึ่งปิดฉากลงไปเมื่อไม่นานมานี้ ได้แสดงให้เห็นถึงเทรนด์อุตสาหกรรมที่มีความชัดเจนขึ้น นั่นคือ โมดูล 600 วัตต์+ ครองความยิ่งใหญ่ในงานแสดงสินค้า และเกือบ 80% ใช้เซลล์ 210 มม. หรือ 210R ขณะที่บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม เช่น ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) ได้จัดแสดงโมดูลที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 700 วัตต์ ซึ่งทั้งหมดใช้เทคโนโลยีโมดูลเอ็นไทป์ (n-type) ขนาด 210 มม. ด้วยคุณสมบัติที่ล้ำสมัยของเทคโนโลยี 210 มม. ทำให้อุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ทั่วโลกก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ผู้จัดแสดงเกือบ 80% นำเสนอโมดูลกำลังสูงเกิน 600 วัตต์ โดยมีโมดูล 210 มม. เป็นตัวเลือกยอดนิยมของทั่วโลก
โมดูลขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน โดยผู้ผลิตโมดูลชั้นนำระดับโลก รวมถึงผู้ผลิตในทวีปอเมริกา เช่น เอสอีจี โซลาร์ (SEG Solar) ของสหรัฐอเมริกา และ เซนจี (SENGI) ของบราซิล ต่างนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดมาอวดโฉมภายในงาน ขณะที่ทรินา โซลาร์ ได้จัดแสดงโมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น (Vertex N) 610 วัตต์ และเวอร์เท็กซ์ เอ็น 700 วัตต์+ ซึ่งใช้เทคโนโลยีเอ็นไทป์ ไอ-ท็อปคอน แอดวานซ์ (n-type i-TOPCon Advanced) ใหม่ล่าสุด รวมทั้งนำเสนอโมดูลเวอร์เท็กซ์ 670 วัตต์ด้วยเช่นกัน
แบรนด์ ชนิดของโมดูล กำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุด เทคโนโลยีเซลล์ ขนาดเซลล์ Risen RSM132-8-740BHDG 741 HJT 210mm TW Solar 66HD695-730W 730 HJT 210mm Canadian Solar CS7N-705TB-AG 705 TOPCon 210mm Trina Solar NEG21C.20 700 TOPCon 210mm SENGI ST1B66 700 TOPCon 210mm SEG Solar ALPINE Series 675 PERC 210mm Trina Solar DE21 675 PERC 210mm Risen RSM132-8-670BMDG 670 PERC 210mm Jinko Solar 66HL4M-BDV 620 TOPCon 210R JA Solar JAM66D45 LB 615 TOPCon 210R Trina Solar NEG19RC.20 610 TOPCon 210R
เทคโนโลยีเอ็นไทป์ครองตลาด โดยมีโมดูลเอ็นไทป์ 210 มม. เป็นผู้บุกเบิกยุค PV 7.0
ในมหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ทั้งสองงาน ผู้จัดแสดงทั้งหมด 99 รายได้จัดแสดงโมดูลเอ็นไทป์รวม 217 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 54.1% ของผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงทั้งหมด โดยแซงหน้าโมดูลพีไทป์ (p-type) และก้าวขึ้นเป็นเทคโนโลยีหลักของตลาด ขณะเดียวกัน ในบรรดาโมดูลเอ็นไทป์นั้น พบว่าโมดูลท็อปคอนคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80% ของทั้งหมดที่จัดแสดง จึงเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นตัวเลือกยอดนิยมของตลาด
ทรินา โซลาร์ เป็นบริษัทแรกที่สามารถผลิตโมดูลท็อปคอนกำลังการผลิตไฟฟ้าเกิน 700 วัตต์ได้ในปริมาณมาก นั่นคือ โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น 700 วัตต์+ จึงถือเป็นผู้นำพาอุตสาหกรรมเข้าสู่ยุค PV 7.0
เซลล์สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีแนวโน้มชัดเจนขึ้น ขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่เลือกจัดแสดงเซลล์ 210R
บรรดาบริษัทใหญ่ต่างนำเสนอโมดูลเวเฟอร์สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 238X x 1134 มม. ในงานแสดงสินค้าทั้งสองงาน เช่น ทรินา โซลาร์, จินโกะ โซลาร์ (Jinko Solar) และ เจเอ โซลาร์ (JA Solar) ซึ่งต่างก็นำเสนอโมดูลเทคโนโลยี 210R โดยมีทรินา โซลาร์ เป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวโมดูล 210R เมื่อปีที่แล้ว และได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับโครงการต่าง ๆ ทั้งในประเทศจีนและต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังนำเทคโนโลยีเอ็นไทป์มาใช้กับโมดูลเวเฟอร์สี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นหลัก ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพทางการตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
เทคโนโลยีเอ็นไทป์ 210 มม. กลายเป็นผู้นำเทรนด์
โมดูล 600 วัตต์+ ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่ว และปัจจุบันกลายเป็นจุดสนใจหลักของงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ โดยมีการเปิดตัวโมดูล 600 วัตต์+ หลายรุ่นในงานใหญ่หลายงานเมื่อปีที่แล้ว และในปีนี้ โมดูล 600 วัตต์+ ก็ยังคงเป็นไฮไลต์สำคัญของงานต่าง ๆ เช่น Genera ในสเปน, SNEC ในเซี่ยงไฮ้ และ Intersolar Europe เป็นต้น
เทรนด์ฟอร์ซ (TrendForce) ผู้ให้บริการข้อมูลด้านการตลาดระดับโลก ระบุว่า กำลังการผลิตโมดูล 210 มม. จะสูงเกิน 508 กิกะวัตต์ และครองส่วนแบ่งตลาดเกือบ 60%
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า อุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์กำลังก้าวไปสู่การใช้โมดูลขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูง ทั้งนี้ ด้วยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโมดูล 210 มม. ทรินา โซลาร์ ได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเข้าสู่ยุคโมดูล 600 วัตต์+ และด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีโมดูล 210 มม. กับเทคโนโลยีเอ็นไทป์ ไอ-ท็อปคอน บริษัทได้นำพาอุตสาหกรรมเข้าสู่ยุค PV 7.0 ในที่สุด