ดวงตา คือ หนึ่งในอวัยวะที่สำคัญในการดำรงชีวิตของเรา หากไม่ดูแลดวงตาให้ดี สายตาเรานั้นจะค่อย ๆ ถดถอยเสื่อมลงตามอายุ โดยเฉลี่ยอายุ 40-45 ปี สายตาจะค่อย ๆ เสื่อมลง ดูได้จากเวลาอ่านหนังสือนาน ๆ จะรู้สึกตัวหนังสือเริ่มเลือนลาง ตาพร่ามัว มองไม่ชัดเจน เมื่อเห็นแสงจ้า ๆ จะรู้สึกแสบตา แสดงให้เห็นว่าดวงตาเรานั้นกำลังเสื่อมลง ในปัจจุบันนี้ ค่าเฉลี่ยการใช้งานของอายุตานับวันยิ่งลดลง เนื่องจากการใช้งานดวงตามากเกินไป เช่น การจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน ๆทำให้ดวงตาเสื่อมลงได้ง่ายกว่าแต่ก่อน หากไม่ดูแลรักษาสามารถกลายเป็นโรคตาในผู้สูงอายุได้ เช่น ต้อหิน ต้อกระจก หรือ จอประสาทตาเสื่อมได้ในเวลาต่อมา
วิธีการดูแลดวงตาแบบแพทย์แผนจีน
1. ดูแลเรื่องอารมณ์ ชีวิตคนเรานั้นถูกขับเคลื่อนโดยอารมณ์ทั้งสิ้น ในทางแพทย์แผนจีน มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์ของอวัยวะกับอารมณ์ไว้ในคัมภีร์เน่ยจิง ได้กล่าวว่า หัวใจควบคุมอารมณ์รักชอบ ตับควบคุมอารมณ์โกรธ ม้ามควบคุมอารมณ์ครุ่นคิด ปอดควบคุมอารมณ์โศกเศร้า ไตควบคุมอารมณ์ตกใจหรือกลัว นอกจากอวัยวะหัวใจเป็นส่วนหลักในการควบคุมอารมณ์แล้ว อวัยวะตับมีความสำคัญในการควบคุมการกระจายและระบายของชี่ด้วยเช่นเดียวกัน โดยปกติแล้วชี่กับเลือดจะไหลเวียนควบคู่กันไป คือ ชี่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเลือดในขณะเดียวกันเลือดก็จะผลักดันชี่ด้วย ดังนั้น ควรควบคุมอารมณ์โมโหไว้ให้ดี เพราะถ้าเวลาโมโหจะทำให้ชี่วิ่งพุ่งขึ้นด้านบนทำให้มีอาการหน้าแดง ตาพร่ามัว ตาแดงเนื่องจากตับเปิดทวารที่ดวงตา
2. อาหารบำรุงสายตา กลุ่มอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา เช่น ผักใบเขียว กลุ่มอาหารที่มีสีเหลือง แดง และดำ เช่น แครอท ข้าวโพด เก๊กฮวย มะเขือเทศ โกจิเบอร์รี่ บล็อกโคลี่ กีวี่ พุทราจีน งาดำ วอลนัท มัลเบอร์รี่ เนื่องจากในทางแพทย์แผนจีนนั้นสีของอาหารมีความสัมพันธ์กับแต่ละอวัยวะด้วย เช่น สีเหลืองสัมพันธ์กับม้าม สีเขียวสัมพันธ์กับตับ สีแดงสัมพันธ์กับหัวใจ สีดำสัมพันธ์กับไต แต่ละอวัยวะที่กล่าวมามีหน้าที่แตกต่างกัน เช่น ม้ามควบคุมลำเลียงเลือดในร่างกาย ตับมีหน้าที่กักเก็บเลือดและเปิดทวารที่ดวงตา หัวใจควบคุมเลือด ไตลำเลียงสารน้ำในร่างกาย และในทางแพทย์จีนเชื่อว่าตับและไตมีแหล่งกำเนิดจากที่เดียวกัน อวัยวะที่กล่าวข้างต้นนั้นมีส่วนช่วยให้เลือดและชี่ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงดวงตาได้ดีขึ้น
3. ชาบำรุงสายตา
4. กระพริบตาบริหารดวงตา เพื่อให้ต่อมน้ำตาทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันอาการตาแห้ง บริหารกล้ามเนื้อรอบดวงตา ช่วยให้การหมุนเวียนเลือดรอบดวงตาดีขึ้น นอกจากการกระพริบตาบ่อย ๆ แล้ว ยังสามารถบริหารลูกตาดำได้ด้วยการกรอกตาไปมาซ้าย-ขวา เพื่อให้ดวงตาปรับโฟกัสได้ดีขึ้น
5. ประคบร้อน-เย็นบริเวณดวงตา ก่อนนอนใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นประมาณ 40 องศาบิดหมาด ๆ วางบริเวณดวงตา เพื่อให้ดวงตาผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนเลือดรอบดวงตา จากนั้นน้ำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นบิดหมาด ๆ วางบริเวณดวงตา เพื่อให้ดวงตาสดใส ยกกระชับป้องกันริ้วรอย ทำสลับไป-มา 3 ครั้ง
6. กดจุดบำรุงสายตา บริเวณรอบดวงตามีจุดฝังเข็ม ในการคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตาด้วยการประคบแล้ว สามารถนวดกดจุดตามเส้นลมปราณบริเวณรอบดวงตาได้ด้วยการกดจุด
7. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ชีวิต ในปัจจุบันเราใช้คอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บแลตต่าง ๆ ทุกวัน แสงจากจอนั้นหากจ้องนานทำให้ตาเกิดการพร่ามัวได้ ดังนั้น ไม่ควรนั่งจ้องคอมเป็นเวลานานเกิน 30 นาที ควรพักสายตาโดยการจ้องไปที่ท้องฟ้า ต้นไม้สีเขียว เพื่อให้ผ่อนคลาย หรือการบริหารดวงตา หรือเมื่อเจอแสงแดดจ้า ๆ จากดวงอาทิตย์ควรพกแว่นกันแดด หลีกเลี่ยงการมองแสงจ้าเป็นเวลานาน และการพักผ่อนนอนหลับที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ เข้านอนเวลา 22.00 น. ตื่น 5.00 น. จะทำให้ตับซึ่งกับเก็บเลือดและเปิดทวารที่ดวงตา ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสายตาดีตามไปด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit