KKP ออกรายงาน The Year Ahead 2024 แนะนำเพิ่มการลงทุนหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 15 ปี และมองตราสารหนี้คุณภาพสูงในต่างประเทศ (Investment Grade Bond) โดดเด่น

29 Nov 2023

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ออกรายงาน The Year Ahead 2024 วิเคราะห์ภาพรวมการลงทุนในปีหน้า โดยนายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน กล่าวว่าสถานการณ์การลงทุนเอื้ออำนวยมากขึ้นหลังจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน จนธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อและจะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า ภายใต้บริบทเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวแต่ยังโตต่อเนื่องและมีความเสี่ยงเศรษฐกิจลดน้อยลง ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุนของบล. เกียรตินาคินภัทร จึงแนะนำนักลงทุนให้พิจารณาเพิ่มน้ำหนักตราสารหนี้และหุ้น โดยมองว่าตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนมากที่สุดโดยเฉพาะตราสารหนี้คุณภาพสูงในต่างประเทศ ในขณะที่หุ้นตลาดเกิดใหม่ รวมถึงหุ้นไทยมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นโลก

KKP ออกรายงาน The Year Ahead 2024 แนะนำเพิ่มการลงทุนหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 15 ปี และมองตราสารหนี้คุณภาพสูงในต่างประเทศ (Investment Grade Bond) โดดเด่น

"อย่างไรก็ดี ในภาวะที่ดอกเบี้ยค้างสูงยาวนาน นักลงทุนควรจัดสรรการลงทุนอย่างรอบคอบ (Prudent Asset Allocation) โดยเน้นรายได้มากกว่ากำไรจากส่วนต่างราคาในส่วนของตราสารหนี้ เน้นหุ้นคุณภาพสูงและกระจายการลงทุนใน Real Asset โดยมองว่ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก (Global REIT) มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม Real Asset ในปีหน้า" นายทวีศักดิ์กล่าว

นอกจากนั้น นายทวีศักดิ์ยังวิเคราะห์เกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยว่า ในระยะยาวยังมีปัจจัยเชิงโครงสร้างที่กดดันตลาดและโอกาสการลงทุนจำกัดกว่าหุ้นทั่วโลก แต่ในปีหน้าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่ดีกว่า จึงได้แนะนำเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยจาก Underweight เป็น Overweight โดยเป็นคำแนะนำให้สถานะ Overweight ครั้งแรกในรอบ 15 ปีของบล. เกียรตินาคินภัทร เป้าหมายดัชนี SET ณ สิ้นปี 2024 อยู่ที่ 1,600 คิดเป็น upside รวมเงินปันผลที่ 17% จากระดับปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2023)

"ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุนปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมี 4 ประการ คือ การเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเติบโตแข็งแกร่งขึ้น มีการประเมินมูลค่ากิจการ (valuation) น่าสนใจมากขึ้นและมีแนวโน้มว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดไทยในปี 2024 นี้"