คุณเคยประสบปัญหาเหล่านี้หรือไม่ ?
หลังรับประทานอาหารหรือก่อนนอนมีอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยวจุกมาถึงคอหอย รู้สึกมีไฟสุมทรวงส่งผลให้คุณนอนไม่หลับ !!
อาการแสบร้อน เป็นอีกอาการที่พบบ่อยในระบบทางเดินอาหารและพบได้หลายตำแหน่งตั้งแต่ ช่องคอ ทรวงอก ลิ้นปี่ ที่ทั้งแสบหรือร่วมกับอาการปวดก็ได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นจากอาหารหรือกรดในกระเพาะที่เกิดการไหลย้อนกลับสู่หลอดอาหาร จนเป็นที่มาของคำว่า กรดไหลย้อนนั่นเอง
ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองรื่นเริง รับประทานอาหารมื้อหนัก ๆ กันแทบจะวันเว้นวัน แพทย์จีนจะมาแนะนำการดูแลตัวเองด้วยวิธีการ 7 แบบ ที่จะช่วยดูแลอาการแสบร้อนที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้นหลังอาหารมื้อหนัก ๆ
- การจัดหนักไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง : การรับประทานอาหารแบบจัดหนักโดยไม่สนใจคนรอบข้างถือเป็นภัยมหันต์ต่อระบบทางเดินอาหาร เพราะอาหารที่รับประทานเข้าไปจำเป็นต้องใช้เวลาในการย่อย หมายความว่า หากยิ่งมีปริมาณอาหารมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องตกค้างอยู่ในกระเพาะและลำไส้นานเท่านั้น ยิ่งนานยิ่งเกิดแรงดันในช่องท้องเยอะขึ้น จนส่งผลให้อาหารมีโอกาสไหลย้อนได้ง่ายเช่นกัน รวมถึงการรับประทานอาหารที่ไม่ตรงเวลา ก็อาจทำให้กรดในกระเพาะและน้ำย่อยออกมาไม่ตรงเวลาด้วยเช่นกัน
- งดอาหารรสจัด : หากคุณอยากให้กระเพาะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ควรเริ่มจากการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อน ไม่ได้แนะนำให้ทานอาหารอ่อน ๆ อย่างโจ๊กที่น่าเบื่อทุกมื้อ แต่ทุกมื้อของคุณต้องใส่ใจเรื่องการเคี้ยวเสมอ แต่ที่สำคัญกว่าก็คืออาหารรสจัดไม่ว่าจะเป็น เผ็ดจัด เค็ม หวาน เปรี้ยวเกินไป ซึ่งมักปะปนอยู่ในอาหารทุกมื้อรวมถึงขนมทุกประเภทที่รับประทานเข้าไป ซึ่งมักส่งผลทำให้กระเพาะลำไส้เริ่มย่อยยาก เกิดแก๊สและเพิ่มกรดในกระเพาะมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นที่มาของอาการดังกล่าว
- ไม่ควรรัดตึง : รัดตึงในที่นี้หมายถึงการสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่พอดีตัวและรัดแน่น โดยเฉพาะรอบเอวที่ไม่ควรรัดแน่นเกินไป เพราะนั่นอาจทำให้เกิดแรงดันต่อช่องท้องมากขึ้นจากการบีบรัดของเสื้อผ้า จนเพิ่มโอกาสในการไหลย้อนและแสบร้อนตามไปด้วยนั่นเอง
- อย่ารีบชนแก้ว : การเฉลิมฉลองเป็นเรื่องที่ดีหากจะมีแอลกอฮอล์มาเป็นสีสันของงาน แต่ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับคุณแน่นอนหากยังต้องการรักษาอาการแสบร้อน เพราะมันมักส่งผลเสียต่อเนื้อเยื่อในกระเพาะ ส่งผลให้เกิดภาวะอักเสบ เกิดแผลขึ้น จนเกิดอาการแทรกซ้อนมากมายในระบบทางเดินอาหารนี้
- ลดน้ำหนักเป็นทางออกที่ดี : นั่นก็เพราะว่ายิ่งน้ำหนักของคุณมีมากเท่าไหร่ จะยิ่งส่งผลต่อแรงดันในช่องท้องเท่านั้น เท่ากับยิ่งเพิ่มโอกาสให้เกิดแรงดันที่ส่งผลต่อการไหลย้อนมากขึ้นด้วยเช่นกัน
- รักษาอุณหภูมิกันหน่อย : เข้าใจว่าพื้นฐานของประเทศไทยคืออากาศร้อนเป็นที่หนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าจะต้องอยู่ห้องแอร์หรือรับประทานอาหารที่เย็นจัดตลอดเวลา เพราะแพทย์จีนมองว่ามันส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดในกระเพาะช้าลง จนเกิดการหดเกร็ง การบีบตัวช้าลง กระเพาะเริ่มแปรปรวนเพราะเลือดไหลเวียนสู่อวัยวะช้าลงจนทำให้เกิดภาวะเสียสมดุลและเกิดอาการดังกล่าวขึ้นในที่สุด
- สภาพจิตใจเป็นนายกระเพาะ : หลายท่านมักมองข้ามเรื่องของสภาพจิตใจไปเพราะคิดว่ามันคนละส่วนกันกับระบบทางเดินอาหาร ทั้งที่จริงแล้วมันคือเรื่องเดียวกัน !!!! เพราะกระเพาะต้องพึ่งพาการสั่งการของระบบประสาท ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่สภาพจิตใจแปรปรวน ก็มักส่งผลให้การทำงานของระบบประสาทและสารคัดหลั่งในกระเพาะทำงานแปรปรวน ยิ่งหากท่านใดที่ทำงานกะดึก สภาพการใช้ชีวิตขัดแย้งกันกับนาฬิกาชีวิตแล้ว ยิ่งทำให้ระบบย่อยมีปัญหามากขึ้นเป็นเงาตามตัวอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยหลักการรักษาที่เป็นจุดเด่นของแพทย์แผนจีนนั้น เราจะเน้นไปที่พื้นฐานของผู้ป่วยเป็นสำคัญว่าสาเหตุหรือต้นตอที่แท้จริงมาจากปัญหาด้านใด โดยอาจต้องให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยถึงการดูแลปัญหาในด้านต่าง ๆ เช่น ปัญหาจากการใช้ชีวิต การไม่รู้จักวิธีการดูแลกระเพาะลำไส้ ความเครียด เป็นต้น จากนั้นจึงค้นหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยรายนั้น ๆ เฉพาะบุคคล เช่น เสริมบำรุงกระเพาะม้าม การสลายความชื้น การระบายชี่ในตับที่อุดกั้น การระบายความร้อน เป็นต้น
- สอบถามข้อมูล หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพได้ที่ "ทีมหมอจีน" คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว โทร 02 223 1111
- เปิดทำการทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08:00 - 16:00 น.
- LINE OA: @huachiewtcm
- Facebook: หัวเฉียวแพทย์แผนจีนกรุงเทพ Huachiew TCM Clinic
หมอจีนแนะนำ กด 3 จุด กินอร่อยย่อยง่าย โดย คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว
WAYCEN เข้าร่วมงาน "TAGE Therapeutics 2025" ที่พัทยา ประเทศไทย เผยโฉม เวอร์ชันล่าสุดของ AI ส่องกล้อง "WAYMED ENDO"
โรงพยาบาล ม.พะเยา ร่วมกับสมาคมแพทย์ระบบทางเดินอาหารฯ ส่องกล้องคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ฟรี! ยกระดับป้องกันความเสี่ยง สร้างสุขภาพดีให้คนพะเยา
งานวิจัยชี้ "โพรไบโอติกส์ในมดลูก" สัมพันธ์กับโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จ
เทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ผ่านกล้องส่องทางเดินอาหาร (EUS) มองลึก ทะลุผนัง เก็บชิ้นเนื้อได้แม่นยำ
รอยยิ้มใหม่ เริ่มต้นด้วย.. "รากเทียม"
ธ.ทิสโก้จับมือพันธมิตร ลุยให้ความรู้แผนการเงิน - สุขภาพ " เจาะลึกโรคมะเร็งตับ ป้องกัน - รักษา อย่างไร? " @จ.ขอนแก่น
รพ.เมดพาร์ค ชูแคมเปญใหม่ ชวนประชาชน ตรวจคัดกรองมะเร็งระบบทางอาหาร