SFLEX ยืนเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1.80 พันลบ. ทำออลไทม์ไฮ บอร์ดใจดีแจกปันผลระหว่างกาล 0.045 บ./หุ้น เคาะจ่าย 7 ธ.ค. นี้

14 Nov 2023

บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ หรือ (SFLEX) ย้ำเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะ 1.8 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากกลยุทธ์รุกขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพดีและมูลค่าสูง เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืน สอดรับกระแสรักษ์โลก ฟากซีอีโอ "ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี" เตรียมปิดดีลลงทุนผลิตบรรจุภัณฑ์เวียดนามภายในพ.ย.นี้ ขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน มั่นใจหนุนผลงานโตแกร่ง

SFLEX ยืนเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1.80 พันลบ. ทำออลไทม์ไฮ บอร์ดใจดีแจกปันผลระหว่างกาล 0.045 บ./หุ้น เคาะจ่าย 7 ธ.ค. นี้

ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิต และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยถึง แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ ยืนยันเป้าหมายรายได้ของธุรกิจหลักแบบ Organic growth อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืน หรือแพคเกจจิ้งที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Recyclable) ให้มากยิ่งขึ้นซึ่งถือเป็นเทรนด์ของโลก และเชื่อมั่นว่าช่วยผลักดันการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้มั่นคงในระยะยาว

ส่วนความคืบหน้าแผนการเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัท Starprint Vietnam Joint Stock Company (SPV) ประเทศเวียดนาม กับผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่รายหนึ่ง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นการยกระดับ SFLEX และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน สนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไป

อนึ่ง ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 429.4 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้น 107.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรขั้นต้น 45.3 ล้านบาท หากพิจารณาในส่วนของกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 48.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 886.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5 ล้านบาท ขณะที่ งวด 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,375.3 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรขั้นต้น 146.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 542.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 21.8 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.045 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 22 พฤศจิกายน และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 7 ธันวาคม นี้