การวิจัยค้นพบสารสกัดว่านหางจระเข้แบบใหม่หลังผ่านการขจัดสี พร้อมเผยประโยชน์ต่อลำไส้

06 Nov 2023

หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และทีมวิจัยจากเฮอร์บาไลฟ์ นำโดย Isabel Garcia Tornadu, Ph.D., นักวิทยาศาสตร์การวิจัยหลักด้านวิทยาศาสตร์ผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยระดับโลกของเฮอร์บาไลฟ์ เผยถึงการศึกษาผลลัพธ์ใหม่ของสารสกัดว่านหางจระเข้ที่มีต่อความสมดุลของเซลล์ในระบบทางเดินอาหาร

การวิจัยค้นพบสารสกัดว่านหางจระเข้แบบใหม่หลังผ่านการขจัดสี พร้อมเผยประโยชน์ต่อลำไส้

ว่านหางจระเข้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยฟื้นฟูและทำให้ผ่อนคลาย พืชชนิดนี้ถูกใช้มานานนับพันปีในทางการแพทย์แบบดั้งเดิม ตั้งแต่ด้านความงามไปจนถึงระบบทางเดินอาหารและการเผาผลาญ รวมถึงปัญหาการย่อยอาหารและกระเพาะอาหาร ในทางการแพทย์พื้นบ้าน การดื่มน้ำว่านหางจระเข้ทั้งใบ ถูกนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการจากโรคเบาหวานและลดคอเลสเตอรอล ซึ่งปัจจุบันเครื่องดื่มจากว่านหางจระเข้ถูกนำมาใช้บริโภคเพื่อช่วยเรื่องระบบการเผาผลาญที่ดี รวมทั้งรักษาระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดให้เป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบสารส่วนประกอบกับสมุนไพรอื่นบนในตลาด ข้อมูลเกี่ยวกับว่านหางจระเข้หลังจากขจัดสียังมีอยู่น้อย ซึ่งงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์บางงานกล่าวถึงข้อควรระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยที่เกิดจากการแปรรูปที่ไม่เหมาะสมในกระบวนการกำจัดน้ำยางและสารพิษอื่น ๆ ซึ่งเป็นเวลากว่าสิบปีที่เฮอร์บาไลฟ์ บริษัทชั้นนำด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีระดับโลก ได้ดำเนินการเพิ่มพูนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันเกี่ยวกับว่านหางจระเข้และสารสกัด รวมถึงประโยชน์และคุณลักษณะอื่น ๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบ เพื่อเพิ่มประโยชน์ด้านสุขภาพให้กับผู้บริโภค

คุณสมบัติของว่านหางจระเข้มาจากองค์ประกอบต่าง ๆ โดยเฉพาะสารไฟโตเคมิคอล (Phytochemicals) และ โพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ที่มีอยู่ในเจลว่านหางจระเข้ ซึ่งว่านหางจระเข้ที่ผลิตในเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่จะถูกทำให้บริสุทธิ์โดยกระบวนการขจัดสี ที่จะกำจัดน้ำยางออกผ่านวิธีการกรองด้วยไส้กรองคาร์บอนกัมมันต์ หรือ Activated Carbon Filter

กรณีศึกษา กับความสามารถของว่านหางจระเข้ในการปรับเซลล์ในลำไส้

ในการศึกษานี้ ทางเฮอร์บาไลฟ์ได้ตั้งสมมติฐานว่า สารสกัดจากว่านหางจระเข้ที่มีสารโพลีแซ็กคาไรด์ อย่างเข้มข้นที่ผ่านการขจัดสีแล้ว จะมีความสามารถในการบรรเทาอาการไม่สบายในกระเพาะอาหารและลำไส้ของในมนุษย์ได้ รวมถึงคุณสมบัติต้านการอักเสบ การรักษาและการควบคุมการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร ล้วนเป็นผลมาจากองค์ประกอบที่สำคัญของว่านหางจระเข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีสารโพลีแซ็กคาไรด์

ผลลัพธ์ที่ได้จากการพัฒนาตัวอย่างโพลีแซ็กคาไรด์เข้มข้นที่ถูกขจัดสีทั้งใบและใบชั้นใน พบว่า ว่านหางจระเข้ที่อุดมไปด้วยสารโพลีแซ็กคาไรด์ที่ผ่านการขจัดสีแล้ว สามารถปรับการทำงานของเซลล์ในทางเดินอาหารได้ ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์และกระตุ้นการสมานแผล ซึ่งหมายความว่าการบริโภคว่านหางจระเข้ อาจช่วยให้สมดุลของเซลล์ดีขึ้นและทำให้ระบบทางเดินอาหารมีสุขภาพดี ทั้งนี้อาจจำเป็นต้องมีการทดลองเพิ่มเติม เพื่อยืนยันความถูกต้องของการวิจัยและตรวจสอบว่ามีผลต่อการตอบสนองทางชีวภาพของมนุษย์ด้วย

การแบ่งปันข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับว่านหางจระเข้ในอุตสาหกรรม

นักวิทยาศาสตร์ของเฮอร์บาไลฟ์ตรวจสอบแล้วว่าสารโพลีแซ็กคาไรด์จากว่านหางจระเข้ที่ผ่านการขจัดสีแล้วมีผลดีต่อเซลล์ในทางเดินอาหารของมนุษย์ ทั้งในเรื่องของการบรรเทาและสมานแผลภายในลำไส้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกนำเสนอในการประชุม American Physiology Summit (APS) ครั้งแรกที่เมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566

ผลการวิจัยในการศึกษานี้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าว่านหางจระเข้ไม่เพียงแต่สามารถช่วยในการย่อยอาหารได้เท่านั้น แต่ว่านหางจระเข้ตัวอย่างที่ถูกเสริมด้วยโพลีแซ็กคาไรด์ที่ผ่านการขจัดสีแล้ว ยังมีผลในการรักษาลำไส้ได้อีกด้วย โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยว่านหางจระเข้ที่เฮอร์บาไลฟ์กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งได้รับการตีพิมพ์และผ่านการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ฉบับ โดยมีการวิเคราะห์และการกำหนดคุณลักษณะขององค์ประกอบทางเคมีของว่านหางจระเข้ และสิทธิบัตรว่านหางจระเข้ 2 ฉบับ นอกจากนี้ การศึกษาดังกล่าวยังตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเฮอร์บาไลฟ์ในฐานะผู้นำด้านวิทยาศาสตร์โภชนาการ และเป็นผู้พัฒนาศาสตร์แห่งว่านหางจระเข้

ในปัจจุบัน อาหารที่ไม่สมดุลมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับภาวะน้ำหนักเกินและปัญหาการเผาผลาญ ในฐานะที่เฮอร์บาไลฟ์เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยที่กำลังดำเนินอยู่ จึงพร้อมเดินหน้าสำรวจและพัฒนาส่วนผสมจากว่านหางจระเข้ที่ถูกขจัดสีต่อไป เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคทุกคน